:::     :::

ปัญหาที่ต้องแก้ของหมีกับค้างคาว

วันอังคารที่ 04 กันยายน 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,381
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล เทรนเนอร์ บาเลนเซีย กับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ แอตเลติโก มาดริด ต่างมีปัญหาที่ต้องแก้ไขหลังทำผลงานช่วงออกสตาร์ต 3 เกมแรกไม่น่าประทับใจนัก

บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ออกสตาร์ตสมฐานะทีมเต็งด้วยการคว้าชัยชนะ 3 นัดรวดทะลวงคู่แข่งรวมกันอย่างน้อย 10 ประตู 

ขณะที่สองม้ามืดอย่าง แอตเลติโก มาดริด กับ บาเลนเซีย กลับออกอาการหัวทิ่มหัวตำตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น 

แอตเลติโก มาดริด ถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาท้าทายสองมหาอำนาจลูกหนังเมืองกระทิงแบบเต็มตัวหลังการสร้างประวัติศาสตร์สองอย่างของสโมสรในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

ทีมตราหมีประเคนค่าเหนื่อยสูงสุดเป็นประวัติการณ์สโมสรปีละ 20 ล้านยูโรเพื่อขยายสัญญา อองตวน กรีซมันน์ ไปจนถึงปี 2023 จนเกิดวาทะกรรมจากกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสในเวลาต่อมาว่า'My fans, my team, MY HOME!!!'


แอตเลติโก มาดริด ยังจ่ายเงิน 70 ล้านยูโรกระชากตัว โตม่าส์ เลอมาร์ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก โมนาโก ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร 

ทว่าทีมตราหมีเก็บได้เพียง 4 แต้มจากการลงเล่น 3 เกมแรก ซึ่งเป็นการออกสตาร์ตแย่สุดนับตั้งแต่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เข้ามากุมบังเหียนในช่วงเดือนธันวาคมปี 2011 โดยตกเป็นฝ่ายตามหลังสองทีมนำถึง 5 คะแนน

2 ปีก่อนหน้านี้ในฤดูกาล 2016-17 กับ 2017-18 ทัพ'โลส โกลโชเนโรส'เก็บ 5 แต้มจากการลงเล่น 3 นัดแรก สถิติชนะ 1 เสมอ 2 เท่านั้น 

ในซีซั่น 2015-16 ทีมตราหมีเก็บ 6 แต้ม สถิติชนะ 2 แพ้ 1, ฤดูกาล 2014-15 เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์นำทีมออกสตาร์ตด้วยการเก็บ 7 แต้มจากการลงเล่น 3 นัดแรกเท่ากับซีซั่น 2012-13 ส่วนฤดูกาล 2013-14 แอตเลติโก มาดริด ออกสตาร์ตดีที่สุดด้วยการคว้าชัยชนะ 3 นัดรวด

ผลงานช่วงออกตัวย่ำแย่ของ แอตเลติโก มาดริด ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการจบสกอร์ที่ขาดความเฉียบคมแม้ว่าจะมีคู่กองหน้าอันตรายอย่าง อองตวน กรีซมันน์ กับ ดีเอโด้ คอสต้า ก็ตาม แต่ทั้งคู่ทำผลงานต่ำกว่าระดับมาตรฐาน 


ยกตัวอย่างเกมล่าสุดที่พวกเขาปราชัยบนสังเวียน'อาบันก้า-บาไลโดส'ต่อ เซลต้า บีโก้ 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทีมตราหมีมีโอกาสสับไกยิง 10 ประตู แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ตรงกรอบประตูใกล้เคียงสุดคือการยิงชนเสาของกรีซมันน์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 

นั่นเป็นสถิติย่ำแย่สุดของทีมตราหมียุค ซิเมโอเน่ ในรอบ 5 ปีหรือ 1,778 วัน นับตั้งแต่เกมกับ เอสปันญ่อล เมื่อปี 2013 

ซิเมโอเน่ ยอมรับว่าลูกทีมขาดความเฉียบคมในจังหวะจบสกอร์และนั่นเป็นเรื่องที่ทีมต้องเร่งปรับปรุงเพื่อทำผลงานให้ดีขึ้นในอนาคต 

'ผมไม่กังวลกับผลการแข่งขัน ผมรู้สึกสงบนิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะสิ่งนี้เป็นการปลุกให้เราตื่นขึ้นมา'

ขณะที่ บาเลนเซีย ออกสตาร์ตย่ำแย่กว่าหลังเก็บได้เพียง 2 แต้มจากการลงเล่น 3 นัดแรกของซีซั่น ซึ่งเป็นผลงานแย่สุดนับตั้งแต่ มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล ทำงานบนเวทีลีกา

มาร์เซลีโน่ เริ่มต้นทำงานบนเวทีลีกาครั้งแรกกับ เรอัล ซาราโกซ่า ช่วงฤดูกาล 2009-10 เขานำทีมดังแคว้นอารากอนเก็บ 3 แต้มจากการลงเล่น 3 นัดแรก ก่อนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์หลังจบนัดที่ 10 ของซีซั่น 


เทรนเนอร์ชาวอัสตูเรียโน่กลับมาคุมทีมระดับลีกาอีกครั้งกับ บียาร์เรอัล ในฤดูกาล 2013-14 โดยเริ่มต้นซีซั่นไม่ต่างกันหลังเก็บได้เพียง 3 แต้มจากการนำต้นสังกัดลงเล่น 3 เกมแรก ทว่าท้ายที่สุด มาร์เซลีโน่ นำทีม'เรือดำน้ำเหลือง'จบอันดับ 6 ด้วยการมี 59 แต้ม 

มาร์เซลีโน่ เริ่มต้นซีซั่นก่อนกับ บาเลนเซีย ด้วยการนำทีมค้างคาวเก็บ 5 คะแนนจากการลงเล่น 3 เกมแรก แต่ทีมของเทรนเนอร์วัย 53 ปีออกสตาร์ตด้วยการเก็บเพียง 2 แต้มจากการลงเล่น 3 นัดแรกของฤดูกาลนี้ 

อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์ชาวอัสตูเรียโน่ไม่รู้สึกตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากฤดูกาลเพิ่งผ่านไปเพียง 3 นัดเท่านั้น 'ผมไม่รู้สึกกังวลกับการเก็บได้เพียง 2 คะแนนจาก 9 แต้ม จนกว่าเราจะผ่านไป 1 ใน 4 หรือ 3 ของการแข่งขัน เพียงแต่ตอนนี้เราไม่แฮปปี้เพราะเรายังควานหาชัยชนะไม่เจอเท่านั้น'

ซิเมโอเน่ กับ มาร์เซลีโน่ ต่างไม่กังวลกับผลงานในการลงเล่น 3 เกมแรก ทั้งคู่ต่างเป็นเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ทราบดีว่าจะหาทางแก้อย่างไร ก่อนที่จะนำทีมกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังเบรคให้โปรแกรมทีมชาติเกือบ 2 สัปดาห์ 

แต่ช่วงหยุดพักหลีกทางให้'ฟีฟ่า เดย์'มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน 

ข้อดีคือเทรนเนอร์และนักเตะจะมีเวลาทบทวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงพัฒนาผลงานให้ดีขึ้น แต่ข้อเสียคือหลายสโมสรมีนักเตะเหลืออยู่ไม่มากนักโดยเฉพาะทีมยักษ์ใหญ่ที่มีผู้เล่นกระจายกันไปเล่นให้ทีมชาติก็เกือบทั้งทีม


ยกตัวอย่าง แอตเลติโก มาดริด ที่ต้องปล่อยนักเตะไปเล่นทีมชาติรวมกันถึง 14 คน ดังนั้นสถานการณ์มันจึงไม่เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานในช่วง 10 กว่าวันนี้ของ ซิเมโอเน่ 

หลังช่วงพักเบรคให้โปรแกรมทีมชาติ ลูกทีมของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์จะต้องลงเล่นทุกๆ 3-4 วันถึง 7 เกมติดต่อกันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนจนถึงต้นตุลาคม

เออิบาร์ จะเป็นคู่ปรับทีมแรกในวันที่ 15 กันยายน, โมนาโก วันที่ 18 กันยายน, เคตาเฟ่ วันที่ 22 กันยายน, อ้วยส์ก้า วันที่ 25 กันยายน, เรอัล มาดริด วันที่ 29 กันยายน, คลับ บรูช วันที่ 3 ตุลาคม และ เรอัล เบติส วันที่ 6 หรือ 7 ตุลาคม 

ขณะที่คิวลงสนามของ บาเลนเซีย ก็เหมือนกับทีมตราหมีที่ต้องรับมือกับโปรแกรมชุกหลังพักเบรคทีมชาติ ต่างกันตรงที่ทีมค้างคาวมีนักเตะติดทีมชาติน้อยกว่าเท่านั้น 

บาเลนเซีย มีคิวดวล เรอัล เบติส วันที่ 15 กันยายน, ยูเวนตุส วันที่ 19 กันยายน, บียาร์เรอัล วันที่ 23 กันยายน, เซลต้า บีโก้ วันที่ 26 กันยายน, เรอัล โซเซียดาด วันที่ 29 กันยายน, แมนฯยูไนเต็ด วันที่ 2 ตุลาคม และ บาร์เซโลน่า วันที่ 6 หรือ 7 ตุลาคม ก่อนพักเบรคให้โปรแกรม'ฟีฟ่า เดย์'อีกรอบ

แอตเลติโก มาดริด เป็นทีมที่มีต้นทุนเดิมดีกว่า บาเลนเซีย โดยเฉพาะการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่งเหนียวแน่นเพียงแค่ ซิเมโอเน่ ยังต้องปรับจูนการเล่นเกมรุกให้มีความเฉียบคมกว่า 3 นัดแรกเท่านั้น ขณะที่ มาร์เซลีโน่ ยังมีปัญหาในการเล่นเกมรับที่ต้องแก้ไขหลังทีมค้างคาวเสียถึง 5 ประตูจาก 3 เกมที่ผ่านมา 


'การเสียถึง 5 ประตูจาก 3 เกมแรกของเราไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย มันไม่ใช่มาตรฐานของเรา'มาร์เซลีโน่ยอมรับ

'ถ้าเรายังเล่นในลักษณะนี้ต่อไป เราจะต้องยิงอย่างน้อย 3 ประตูเพื่อเป็นผู้ชนะในเกม ดังนั้นมันเป็นเรื่องชัดเจนว่านี่เป็นงานหนักที่ต้องสะสาง'

'เรายังไม่ดีพอตอนที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอล ซึ่งเราอาจเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้นเราจะต้องทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้'

'เราจะต้องทำให้ทีมเราแข็งแกร่งขึ้น ยากที่จะเอาชนะและไม่เสียประตูง่ายๆเหมือนที่ผ่านมา'

มาร์เซลีโน่ ทราบดีถึงจุดอ่อนของบาเลนเซีย เพียงแต่เขาจะสามารถทำให้ทีมค้างคาวเสียประตูน้อยลงอย่างที่คิดหรือไม่เท่านั้น


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด