:::     :::

คุยกับ ''เดอะ คิง''

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
21 ปีนับจากหันหลังให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอริก ''เดอะ คิง'' คันโตน่า มีมุมมองต่ออดีตต้นสังกัดที่น่าสนใจหลายอย่างโดยเฉพาะสไตล์ผลงานในปัจจุบันของทีมภายใต้การนำของ โชเซ่ มูรินโญ่

''ก็องโต้'' มีช่วงเวลาการค้าแข้งอันยอดเยี่ยมตลอด 5 ปีกับแมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายจากลีดส์ ยูไนเต็ด มาเป็นขวัญใจแฟนบอลที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 1992 ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 1997 

เขาคิดเห็นอย่างไรกับ มูรินโญ่ และผีแดงที่เป็นอยู่ รวมไปถึงความเห็นที่มีต่อบรรดาโค้ชต่างๆ 

และแน่นอน เขาไม่ปิดบังโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับปีศาจแดงอีกครั้ง 

ขอเพียงบอร์ดบริหารกดโทรศัพท์ต่อสายหา ''เดอะ คิง'' คนนี้ก็พร้อมรีเทิร์นในทุกเวลา  

* * *  

นับจากหันหลังให้โลกลูกหนัง เอริก คันโตน่า ก็เอาดีในโลกภาพยนตร์และปรากฏตัวทั้งบนจอแก้วและจอเงินนับครั้งไม่ถ้วน 

ล่าสุด อัพเลเวลเวลาแสดงหนังเรื่อง ''Magic'' ที่ถ่ายทำในเซี่ยงไฮ้และกุ้ยโจวนาน 3 เดือน โดยต้องพูดภาษาจีนถึงเกือบหนึ่งในสามของบทสนทนาทั้งหมด 

''ปีก่อน ผมถ่ายหนังที่ต้องพูดโครเอเชียน และผมก็บอกกับตัวเองว่า ''เอริก ไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ นายต้องไม่ถ่ายหนังที่ต้องใช้ภาษาอื่นอีก'' 


คันโตน่า มองว่า เป๊ป เหมาะสมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่า มูรินโญ่

''แต่จากนั้น พวกเขาก็มาหาผมแล้วบอกว่า 'เฮ้! ต้องการเล่นหนังที่พูดภาษาจีนมั้ย ? ผมพูดจีนไม่ได้แม้แต่คำเดียว ผมควรตอบว่า ไม่ ไปนะ แต่ผมก็ดันบอกไปว่า ''เอาสิ และมาโผล่ที่เซี่ยงไฮ้'' คันโตน่า เริ่มบทสนทนาด้วยการอัพเดตชีวิตล่าสุดพร้อมรอยยิ้ม 

อดีตดาวยิงแมนฯ ยูไนเต็ด แสดงหนังไปแล้วมากกว่า 25 เรื่องซึ่งถือว่ามากทีเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับอีกชีวิตของการเป็นนักฟุตบอลซึ่งประสบความสำเร็จได้แชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 4 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ อีก 3 สมัย และมอบความทรงจำมากมายให้กับแฟนบอลปีศาจแดง 

''การแสดงและฟุตบอล - ก็เหมือนกัน ผมสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง ผมรักการแสดงก่อนรักฟุตบอลเสียอีก แต่เพราะผมมีฝีเท้าที่ดี ผมก็เลยเลือกฟุตบอล การได้อยู่ในภาพยนตร์เจ๋งๆ คือสิ่งยอดเยี่ยม การได้เล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดก็เป็นเรื่องสุดยอดเช่นกัน''

เมื่อถูกถามถึงผลงานของอดีตต้นสังกัดในปัจจุบัน คันโตน่า ตอบว่า ''อืม, ไม่ดี - ยังไม่ดีนัก แต่มันก็เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาล ยังเร็วไปที่จะสรุป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรยิ่งใหญ่ และจะยิ่งใหญ่ตลอดไป พวกเขาจะประสบความสำเร็จ ผมรู้ว่าพวกเขาทำได้''

''ส่วนแนวทางการเล่นนะเหรอ? ไม่ดีเลย'' คันโตน่า เจาะลงในรายละเอียดก่อนนั่งนิ่งเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหัวออกมา 

''ผู้จัดการทีมให้พวกเขาเล่นผิดแนวไปจากที่แฟนบอลอยากเห็น ไม่สนุกและก็ไม่สร้างสรรค์ ผมชอบ มูรินโญ่ นะ เขามีบุคลิกที่ดี แต่ไม่ใช่สำหรับยูไนเต็ด สโมสรควรมี (เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า เป็นโค้ช เขาเหมาะสมมากกว่า แต่ตอนนี้เขาก็กำลังทำได้เยี่ยมกับสโมสรอื่น สโมสรที่ผมไม่สามารถบอกชื่อได้''


มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเฟอร์กี้เรื่อยมา

''ผมไม่สามารถบอกชื่อได้ มันเจ็บปวดสำหรับผมที่จะเอ่ยชื่อนั้น'' ก็องโต้ กล่าวพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนโพล่งออกมาพลางในเชิงยิงมุกไปด้วย ''แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไง เพราะผมอดไม่ได้จริงๆ คุณทำลายวันดีๆ ของผมไปแล้ว''  

''ฟังนะ ผมเล่นมุกเรื่องแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พวกเขากำลังเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมเพียงคิดว่า เป๊ป ควรอยู่ที่ยูไนเต็ด เขามีจิตวิญญาณของ โยฮัน ครัฟฟ์ เขาเล่นให้ ครัฟฟ์ที่บาร์เซโลน่า และเรียนรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง เขาคือคนเดียวที่ควรอยู่ที่ยูไนเต็ด ถ้าไม่นับผมนะ'' 

''ผมต้องการคุมทีม หากพวกเขาเรียก ผมก็จะไป ผมจะสนุกกับมัน พวกเขารู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ไหน แล้วผมจะพาทีมเล่นฟุตบอลที่สร้างสรรค์อีกครั้ง''

''มันคงเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมสำหรับแฟนบอล เหมือนตอนที่มี อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาปล่อยให้นักเตะได้แสดงออกในสิ่งสร้างสรรค์ ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเป็นปัจเจกชน เราทุกคนรู้สึกพิเศษเมื่ออยู่กับเขา ทุกคนรู้สึกเป็นที่รัก เขามีคำชมให้เสมอ เขาเป็นคนดี เป็นผู้นำที่ดี''

คันโตน่า ติดต่อกับ เฟอร์กี้ โดยตลอดนับตั้งแต่แขวนสตั๊ด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยกระดับจากอาจารย์กับลูกศิษย์มาเป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อน และคุยกันมากขึ้นหลังจากบรมกุนซือชาวสกอตต์ผ่าตัดสมองในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

''เขากำลังดีขึ้น เขาดูโอเค ดูแข็งแรง ผมอวยพรให้เขาดีขึ้น ผมมั่นใจว่าเขาจะดีขึ้น ผมรู้สึกว่าเขาแข็งแรงขึ้นในทุกวัน เขายิ่งใหญ่ และก็เป็นยอดโค้ช''


''ผมไม่ชอบการวางแผนมากมาย ผมชอบเป็นอิสระ อิสระเหมือนนกบนท้องฟ้า''

ในเรื่องโค้ชระดับสโมสรและทีมชาติปัจจุบัน คันโตน่า มองว่าโค้ชที่เก่งๆ ต่างทำงานกับสโมสร ขณะที่ทีมชาติได้ตัวเลือกที่คุณภาพน้อยกว่า 

''ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดอยู่ก็กับสโมสรที่เยี่ยมที่สุด - ไม่ใช่กับทีมชาติ นั่นคือความจริง คิดดูเลย''

''ในฟุตบอลโลก โค้ชทีมชาติสเปน (จูเลน โปเลเตกี) ได้รับข้อเสนอคุม เรอัล มาดริด และเขาก็ตอบรับเลยแม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้คุมสเปนอีกต่อไปทั้งที่เป็นหนึ่งในทีมเต็งลุ้นแชมป์โลก เขาเลือกที่จะคุมมาดริดมากกว่าสเปน''

''ทำไมนะเหรอ ? ก็เพราะสุดยอดสโมสรเหล่านี้คือสโมสรที่โค้ชต่างต้องการทำงานด้วย''

''ดูทีมชาติอังกฤษสิ ผมชอบ (แกเร็ธ) เซาธ์เกตนะ แต่เขาทำอะไรมาก่อนในฐานะผู้จัดการทีม ? เขาคุมมิดเดิ้ลสโบรช์ แล้วได้แชมป์อะไรล่ะ ? ไม่เลย แล้วทำไมเขาถูกเลือกให้เป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษ ? ก็เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่กับสโมสรใหญ่ยังไงล่ะ''

''ผมพูดตามความจริง บรรดาโค้ชทีมชาติได้คุมทีมก็เพราะไม่มีสโมสรต้องการพวกเขา''

ย้อนกลับมาที่วันเวลาของตัวเองในฐานะนักฟุตบอล อะไรคือสุดยอดความทรงจำเมื่อพูดถึงเส้นทางลูกหนังที่ไม่ธรรมดาและเป็นหนึ่งในแข้งต่างชาติไม่กี่คนที่บุกเบิกพรีเมียร์ลีกในช่วงแรก

''ไม่ใช่ลูกยิงหรือชัยชนะหรอกนะ แต่เป็นช่วงที่ผมจากฝรั่งเศสไปอังกฤษ ผมไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนเลย อังกฤษเหมือนอยู่ไกลตัว และแตกต่างจากสิ่งที่คุ้นเคย ''

''ตอนที่ผมจากฝรั่งเศส มันเหมือนมีระเบิดลูกเล็กๆ ในตัวผม คือมันตื่นเต้นมาก อังกฤษต่างออกไปเลย ผู้คนก็ขับรถชิดขวาของถนน''

''และในอังกฤษ มันมีความสร้างสรรค์ มีสุดยอดนักเขียน นักดนตรี นักแสดง ผู้กำกับฯ ที่ล้วนเป็นที่รู้จักทั่วโลก''

''อังกฤษทำได้อย่างไร เพราะการศึกษาหรือไม่ ? เราพยายามหาคำตอบว่าทำไม หรือว่าเป็นมรดกตกทอด, สังคมแวดล้อม ? เป็นไปได้ไงที่ประเทศขนาดอังกฤษสามารถผลิตคนอาร์ตๆ ออกมาได้เยอะแยะมากมายขนาดนี้ ?''


คันโตน่าหลงใหลในการสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม เมื่อถูกถามให้นิยามตัวเองด้วยคำ 3 คำ เขาตอบว่า ''สร้างสรรค์, สร้างสรรค์ และ สร้างสรรค์'' ก่อนเสริมว่า ''ผมชอบการครีเอตสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล และแคแรกเตอร์บนเวทีที่สวยงาม''

ก็องโตน่า กล่าวถึงงานใหม่ที่เตรียมลงจอในซีรีส์ทางทีวีของฝรั่งเศส ''การแสดงกำลังไปได้สวย แต่ผมยังคงต้องเรียนรู้เพื่อเข้าใจตัวเอง ยิ่งเรียนรู้การแสดงมากขึ้น ยิ่งทำได้ดีขึ้น'' 

ปัจจุบัน คันโตน่า อาศัยอยู่ในย่านเก่ากลางกรุงลิสบอนของโปรตุเกส อยู่ในบ้านหลังใหญ่พร้อมกับครอบครัวที่ประกอบด้วยภรรยาที่เป็นนักแสดงเช่นกัน และลูกๆ อีก 2 คนทั้ง เอเมียร์ และ เซลม่า

''ผมบอกคุณไปยังว่าผมเจอภรรยาได้ยังไง ? มันตลกมากเลย คุณต้องชอบแน่ ผมแสดงเป็นคนอ้วน อย่างอ้วนเลยในหนังเรื่อง ''The Overeater'' คุณรู้จักเรื่องนี้มั้ย ? คุณต้องดูนะ เพราะมันสนุกมาก'' ก็องโต้ สะกิดนักข่าวให้ติดตามผลงานตัวเอง 

''ตอนแรก พวกเขาถ่ายภาพใบหน้าของผมและนำไปแปะบนหุ่นที่อ้วนสุดๆ และนั่งบนเตียงโดยไม่ใส่เสื้อผ้าใดๆ จากนั้นผมก็ต้องใส่ชุดคนอ้วนไปตลอดเรื่องเลย''

''ผมก็อ้วนอยู่นะ และนั่นก็เป็นตอนที่ผมได้พบกับภรรยาของผม เธออยู่ในเรื่องนี้ด้วย เธอพบผมและตกหลุมรักผม ผมรู้ได้เลยว่าต่อให้ผมอ้วนขึ้นอีกจากการกิน เธอก็ยังคงรักผมอยู่ดี''

  นอกจากงานเดี่ยว ''วันแมนโชว์'' และซีรีส์ที่จะเริ่มถ่ายทำในปีหน้าแล้ว คันโตน่า กล่าวถึงอนาคตตัวเองว่า ''ผมไม่ชอบการวางแผนมากมาย ผมชอบเป็นอิสระ อิสระเหมือนนกบนท้องฟ้า''

''ดังนั้น ผมจึงพร้อมหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการโทร.หา และเรียกผมไปเป็นโค้ช ผมไปได้ ผมมีร่างกายฟิตสมบูรณ์และสุขภาพก็ดี ผมพร้อมนะ''

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด