แต่สำหรับแฟน เชลซี นั้นคงไม่มีใครลืมแข้งชื่อดังเหล่านี้กันแน่นอน

    แม้หลายคนจะคิดว่าบรรดาตำนานแข้งสิงห์บลูส์เหล่านี้น่าจะบอกลาสังเวียนฟลอร์หญ้าไปเรียบร้อยแล้ว

    แต่...ไม่!!!

    พวกเขายังอยู่ และก็ยังคงเป็นนักเตะอาชีพอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้บางคนจะล่วงเลยมาจนถึงวัย 40 ปีแล้ว

    เหล่าตำนานแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่ว่าจะมีใครกันบ้างไปติดตามกันได้เลย

ซามูเอล เอโต้


    ย้อนกลับไปปี 2013 ถือเป็นไฮไลท์เลยทีเดียวกับการที่ เอโต้ ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ที่กำลังขาดแคลนกองหน้า

    เขายิงไป 12 ประตู จาก 35 นัด ซึ่งรวมถึงแฮตทริกที่น่าจดจำในนัดที่พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย

    แต่หัวหอกแคเมอรูนก็ย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากอยู่ได้เพียงแค่ซีซั่นเดียว และใช้เวลาในครึ่งฤดูกาลแรกของปี 2014-15 กับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนไปจะ ซามพ์โดเรีย ในครึ่งปีหลัง

    หลังออกจากลา ซามพ์ เอโต้ ก็ไปยังตุรกี และเล่นให้ อันตัลยาสปอร์ โดยยิงไป 44 ลูก จาก 77 นัดในลีกแดนไก่งวง และเขาก็รับตำแหน่งนักเตะ-ผู้จัดการทีม หลังจากกุนซือคนเก่าโดนปลด

    เขาย้ายออกจาก อันตัลยาสปอร์ ในปี 2017-18 ไปร่วมทีม คอนยาสปอร์ แต่ก็ถูกปล่อยตัวหลังจบซีซั่นนั้น

    ปัจจุบัน ดาวเตะวัย 37 ปียังไม่ได้แขวนสตั๊ด และย้ายไปร่วมทีม กาตาร์ สปอร์ต คลับ ในซัมเมอร์นี้เอง

ฟลอร็องต์ มาลูด้า


    สิงห์บลูส์ ซื้อ มาลูด้า มาจาก ลียง เมื่อปี 2007 และเขาก็อยู่กับสโมสรถึง 6 ปีเลยทีเดียว พร้อมทั้งลงเล่นไป 228 เกม ยิงได้ 45 ประตู และทำอีก 43 แอสซิสต์ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่นัดเดียวในช่วงฤดูกาลสุดท้าย

    ดาวเตะเฟร้นช์แมนกลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ในปี 2013 และย้ายไปอยู่กับ แทร็บซอนสปอร์ กระทั่งปีถัดมาก็กลับลีก เอิง กับ เม็ตซ์

    หลังจากนั้น มาลูด้า ก็ย้ายไปเล่นในลีกอินเดียกับ เดลี ไดนาโมส และอยู่ที่นั่น 2 ซีซั่น โดยระหว่างนั้นก็ไปเล่นกับ วาดี้ เดกลา ในอียิปต์ด้วยสัญญายืมตัวด้วย

    ปี 2017-18 หลังจากที่เดินเตะฝุ่นอยู่ครึ่งปี ดาวเตะวัย 38 ปีในปัจจุบันก็ย้ายไปร่วมทีม ดิฟเฟอร์แดงก์ ในลักเซมเบิร์ก โดยทำไปแล้ว 5 ประตูกับ 3 แอสซิสต์

แอชลี่ย์ โคล


    แข้งรายนี้เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายดีที่สุดของโลกในช่วงเวลากับ เชลซี

    โคล ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2006 และอยู่ที่นี่ถึง 8 ฤดูกาล โดยลงเล่นไป 338 เกม และมีส่วนร่วมคว้าถึง 9 แชมป์กับทีม

    จากนั้นอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษก็ย้ายไปร่วมทัพ โรม่า แบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญา แต่เขาก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเก่าแล้วในอิตาลี

    หลังจากอยู่ได้ปีครึ่ง เขาก็ขอยกเลิกสัญญา และย้ายไปยังเมเจอร์ลีกกับทีม แอลเอ แกแล็คซี่

    ปัจจุบันในวัย 37 ปีเขาก็ยังคงเล่นอยู่กับทีมดังในสหรัฐฯ โดยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ โจวานนี่ โดส ซานโตส

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา


    ดาวยิงตัวฉกาจถือเป็นหนึ่งในตำนานแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยก็ว่าได้

    เขาย้ายจาก มาร์กเซย มาร่วมทีม เชลซี เมื่อปี 2004 และยิงไป 164 ประตูจาก 381 เกมจากการเล่น 2 ช่วงเวลา

    หัวหอกไอวอรี่โคสต์ย้ายออกจาก เชลซี ครั้งแรกในปี 2012 หลังจากช่วยให้ทีมคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก โดยย้ายไปยังซูเปอร์ลีก จีน กับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ก่อนจะกลับมายังยุโรปอีกครั้งกับ กาลาตาซาราย

    ดร็อกบา รีเทิร์นสู่สิงห์บลูส์อีกครั้งในปี 2014-15 ในฐานะแบ็คอัพของ ดีเอโก้ คอสต้า และหลังจากซีซั่นนั้นเขาก็ย้ายไปยังเมเจอร์ลีกกับ มอนทรีอัล อิมแพ็คท์ โดยยิงไป 23 ประตู จาก 41 เกม

    หลังออกจาก อิมแพ็คท์ เขาก็เป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ 4 เดือน ก่อนจะย้ายไปยัง ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง ในศึกยูไนเต็ด ซอคเกอร์ ลีก และกลายเป็นเจ้าของสโมสร พร้อมกลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ควบทั้งตำแหน่งเจ้าของทีม และนักเตะ

    บนวัย 40 ปีเขาก็ยังคงเล่นอยู่กับ ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง และยิงไปแล้ว 11 ประตู จาก 16 เกม

จอห์น เทอร์รี่


    อดีตกัปตันทีม เชลซี ยังคงเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์อยู่ แต่ก็กำลังจะได้สโมสรใหม่แล้วหลังมีการเปิดฉากเจรจากับ สปาร์ตัก มอสโก ในรัสเซีย

    เขาเติบโตขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของสิงห์บลูส์ โดยลงเล่นไป 717 เกม และยิงได้ถึง 67 ประตูในฐานะกองหลัง รวมถึงคว้าแชมป์กับทีมไปถึง 19 ครั้ง ก่อนจะย้ายออกในปี 2017 หลังหมดสัญญา

    เขาย้ายไปร่วมทีม แอสตัน วิลล่า เมื่อซัมเมอร์ก่อน โดยเกือบช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ แต่ก็ไปแพ้ ฟูแล่ม ในรอบเพลย์ออฟ

    ปัจจุบัน เทอร์รี่ วัย 37 ปีก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะแขวนเกือกแต่อย่างใด