ดาร์บี้ คือลูกหม้อ 'หงส์แดง' พันธุ์แท้ เกิดที่นี่, ฝึกฝนฝีเท้าระดับเยาวชนกับทีม รวมถึงตัดสายสะดือแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ ค.ศ.2008 แม้ยังดีไม่พออยู่ยั้งต้องระเห็จออกจากชายคาแอนฟิลด์ช่วง 4 ปีต่อมา 

ทว่าโอกาสสัมผัสบรรยากาศกับเหล่ารุ่นพี่ตัวจริงระหว่างปี 2008 ที่มี่ เคราช์ สวมเครื่องแบบเดียวกัน ก็แสดงเนื้อแท้สเกาเซอร์พันธุ์นักสู้ออกมาซื้อใจดาวยิงร่างโย่งทั้ง 4 ห้องหัวใจ 

ซึ่งพอมาทราบว่าน้องที่สนิทต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้าย ... พี่ชายก็อดเศร้าแทนไม่ได้ 

จากนี้คือความรู้สึกจาก เคราช์ ซึ่งถ่ายทอดถึง ดาร์บี้ ผู้โชคร้าย 

.................................

มันคือช่วงเที่ยงวันอังคารที่ทราบข่าวร้าย จำได้ว่า ณ ขณะนั้น ผมพยายามประมวลว่าควรพูดอะไร หรือสิ่งใดควรทำบ้าง 

การได้ยินประโยคว่า - สตีเฟ่น ดาร์บี้ แขวนสตั๊ด - พร้อมสาเหตุอธิบายต่อมา ตัวผมเย็นไปหมดกระทั่งถึงตอนนี้  ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนก็ยังไม่สามารถเข้าใจว่าเหตุใดเรื่อว่าเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ถึงต้องมาเกิดกับคนหนุ่มวัยแค่ 29 ปี

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลายคนในวงการจึงออกมากล่าวแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจไปยัง สตีเฟ่น ซึ่งต้องจบอาชีพแล้วเข้าเผชิญกับโรคอันน่ากลัวอย่างกล้ามเนื้ออ่อนแรง (เอแอลเอส) 

ดาร์บี้ กัปตันเยาวชนลิเวอร์พูล คว้าเอฟเอ ยูธ คัพ ปี 2006 และ 2007 

ขอยกให้ สตีเฟ่น เป็นหนึ่งในอัจฉริยะลูกหนังอาชีพ เขาคือคนที่ผมยินดีเมื่อได้ร่วมแบ่งปันที่นั่งของห้องแต่งตัว 

ผมไม่ได้จะเกาะกระแสอ้างว่าเราคือเพื่อนที่ดีสุดต่อกัน แต่ต้องการจะบอกว่าเหตุใดจึงให้ความนับถือรุ่นน้องรายนี้มากขนาดนั้น

ครั้งแรกที่ได้เจอเขาไม่นานหลังจากตัวเองเข้าสู่ชายคา ลิเวอร์พูล ปี 2005 ขณะนั้น สตีเฟ่น คือกัปตันทีมเยาวชน - นำทัพคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ สองปีติดระหว่าง 2006 กับ 2007 ทว่าเมื่ออยู่นอกสนามหมอนั่นเป็นคนที่เงียบมาก 

โดยทั่วไปเด็กที่ถูกผลักดันจากทีมเยาวชนสู่ชุดใหญ่ของบรรดาค่ายดังมักจะโอหัง เพราะเหมือนได้ก้าวสู่อีกระดับแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณคือกัปตันมาก่อน ทว่าไม่ใช่กับ สตีเฟ่น 

หมอนี่มันคือเพชรแท้ ยังคงติดดิน, อ่อนน้อมถ่อมตน และไม่เคยแสดงพฤติกรรมน่าหมั่นไส้เลย  

ทางที่ดีสุดจะนิยามถึงเขาคือเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ ในทีมเวลานั้นแม้จะมีนักเตะดาวรุ่งที่เก่งกว่า สตีเฟ่น แต่ก็ไม่มีใครแสดงความมุ่งมั่นอย่างมืออาชีพได้ดีกว่าหมอนั่น ซึ่งจุดนี้เองก็ทำให้แข้งอาวุโสยอมรับเขาแทบจะทันที  

ดาร์บี้ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ 'หงส์แดง' ปี 2008 

เขาเพิ่ง 18 ปีเองเมื่อร่วมซ้อมชุดใหญ่ที่ศูนย์ฝึก เมลวู้ด - ทว่าก็ห้าวสุดๆเสียบสกัดหนักเต็มสูบ เล่นด้วยสไตล์แข็งกร้าว 

ดาร์บี้ นิสัยมั่นคง มีความคิดแบบคนหัวเก่าที่อยู่ในร่างเด็กวัยรุ่น ไม่อายที่จะขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ และอุดมความเป็นมืออาชีพอย่างที่สุด 

หากอยากเอาการวางตัวของเขาไปเทียบกับใครสักคน เจมส์ มิลเนอร์ คือตัวอย่างที่ใกล้เคียงสุด 

มันคือคือภาพจำที่ติดอยู่ในหัวผมมาตลอดเวลาที่เราได้ร่วมงานกันฐานะนักเตะ ลิเวอร์พูล 

ทั้งนี้แม้การเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ดาร์บี้ จะเผชิญความเสี่ยงตลอดเวลาว่าถูกเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ทว่าท้ายสุดเมื่อ ธ.ค.2009 ก็รับโอกาสลงเล่น ยูฟ่า ชปล. 

ทราบว่าก่อนนี้ สตีเฟ่น เพิ่งได้ลงเล่นแบบเต็มๆกับทีมไปแค่หนเดียว นี่จึงเป็นสัญญาณดีว่ากำลังก้าวหน้า - กับสโมมสร ลิเวอร์พูล เพียงทุ่มเทไม่พอ จำเป็นต้องกอปรด้วยฝีเท้าด้วย และหมอนั่นมีทั้งสองอย่าง 

แม้ท้ายสุดอาจไม่ดีพออยู่ในแอนฟิลด์ต่อไป การลดเพดานบินมาเล่นให้ แบร้ดฟอร์ด, มีโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ เมื่อปี 2013 จากนั้นก็ย้ายสู่ โบลตัน ในซีซั่นล่าสุด 

ความจริงก็ดูผิดกาลเทศะจะมาพูดถึงเส้นทางอาชีพของเขา เมื่อมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว 

https://twitter.com/stephhoughton2/status/1042714137623777281

ทวีตจากภรรยาที่ขอบคุณทุกกำลังใจมายังครอบครัว

ปัจจุบันตัวเองในวัย 37 ปี หวังว่าสามารถลงแข่งระดับอาชีพนานสุดเท่าที่ยังไหว มันอยู่แนวทางที่เรายังสมารถควบคุมได้ว่าเวลาไหนจึงใคร่ครวญว่าหยุด แต่กับ สตีเฟ่น การถูกตัดจบตั้งแต่อายุ 29 กะรัต บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่ยากเกินทำใจ  

ด้วยวัยนั้นคือช่วงผลงานพุ่งสูงสุด ส่วนเรื่องชีวิตมันคือการเริ่มต้นสร้างตัว ยิ่งกับ สตีเฟ่น ที่เพิ่งลั่นระฆังวิวาห์กับคู่หมั้นอย่าง สเต็ปห์ ฮิวจ์ตัน กัปตันฟุตบอลหญิงทีมชาติอังกฤษ  

ไม่มีใครรู้ซึ้งถึงประสบการณ์ที่ทั้งคู่กำลังเผชิญอยู่ ณ เวลานี้ ได้ดีกว่าพวกเขา 

เอาจริงๆ หากผมต้องเจอเรื่องนี้กับตัวเองคงทำอะไรไม่ถูก สิ่งเดียวที่ทำได้คือหวังให้ สตีเฟ่น ก้าวต่อไปในชีวิตอย่างราบรื่นสุด 

อยากให้นายรู้ไว้ว่ามีผู้คนมากมายที่เคยร่วมงานด้วย ยังคอยหนุนหลังและช่วยเหลือแกไปเสมอ 

สมมุติในอนาคตหากมีเกมพิเศษจัดขึ้นที่แอนฟิลด์เพื่อหารายได้ช่วยเหลือเขา ขอเพียงบอกมาทุกคนยินดีไปร่วมแบบไม่อิดออด

ปีเตอร์ เคราช์