ชัยชนะเหนือเอฟเวอร์ตัน 2-0 เป็นผลการแข่งขันที่สะท้อนรูปเกมโดยรวมมากนักโดยเฉพาะก่อนที่ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ จะปลดล็อกประตูแรก 

ทอฟฟี่สีน้ำเงินหาโอกาสได้มากมายจากจังหวะโต้กลับและแทงบอลทะลุแผงแนวรับ เล่นเอาอาร์เซน่อลโอนเอน เจียนอยู่เจียนไปหลายรอบ 

ถ้าไม่ได้ ปีเตอร์ เช็ก ช่วยเซฟเอาไว้ อย่าว่าแต่เก็บคลีนชีตเลย ชัยชนะก็อาจหลุดมือด้วยซ้ำ 

ในช่วงเกือบหนึ่งชั่วโมง ปืนใหญ่มีปัญหาในเกมรับอย่างมาก การยืนตำแหน่งผิดพลาดจนเกิดช่องอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่ เอคตอร์ เบเยริน ก็ไม่สามารถรับมือ ริชาร์ลิซอน ได้ 

การได้ ริชาร์ลิซอน พ้นโทษแบนกลับมาช่วยให้เอฟเวอร์ตันมีอาวุธในการโจมตีอาร์เซน่อล ช่วงที่หายไป 3 นัด ทอฟฟี่ไม่ชนะใครได้เลย 

แข้งดีกรีทีมชาติบราซิลมีทักษะที่ดีและกล้าเล่นกล้าลุย จังหวะตัวต่อตัวไม่มีกลัว ได้บอลแต่ละทีเล่นเอากองเชียร์ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หายใจไม่ทั่วท้อง

หากองค์ประกอบในแนวรุกอื่นของทอฟฟี่มีคุณภาพใกล้เคียงกันมากกว่านี้ ทีมของ มาร์โก ซิลวา อาจเผด็จศึกปืนใหญ่คารังได้เลย

ปีเตอร์ เช็ก ช่วยอาร์เซน่อลเอาไว้ได้หลายครั้ง 

ซิลวา เลือกดร็อป เซงต์ โตซุน แล้วใช้ความเร็วและความคล่องตัวของ  โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ออกสตาร์ตก่อน 

หอกดาวรุ่งชาวอังกฤษได้ทั้งหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ และชาร์จจ่อๆ 3 หลา ทว่าทำหมูหกไปหมด

หากเป็นกองหน้าคนอื่นที่มีเจนเวทีและตัดสินใจดีกว่านี้ เอฟเวอร์ตันต้องเป็นฝ่ายได้ประตูนำก่อนแน่นอน

เช่นเดียวกับ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่กลับมาเยือนถิ่นเก่าด้วยความมุ่งมั่น เขามีโอกาสงัดกฎยิงประตูทีมเก่าออกมาใช้ แต่ก็พลาดไปเอง 

วัลค็อตต์ ในวันนี้ไม่ต่างจากช่วงท้ายก่อนอำลาอาร์เซน่อล อดีตดาวรุ่งเซาธ์แฮมป์ตันเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ และได้รับจากจับตามองอย่างมากมาตั้งแต่วัยรุ่น

แต่ปัญหาคือ เวลาผ่านไปเกินสิบปี วัลค็อตต์ ก็ไม่เคยเติมเต็มศักยภาพในตัวเองได้เลย เขาเหมือนเป็นดาวรุ่งตลอดกาลยังไงยังงั้น

เอฟเวอร์ตันมีโอกาสแต่ทำไม่ได้ทั้งเพราะแนวรุกไม่เฉียบขาด ขณะที่ ปีเตอร์ เช็ก ก็ดันเล่นดี ป้องกันลูกยาวๆ ไว้หลายลูก 

แต่โอกาสจะแจ้งครั้งแรกของอาร์เซน่อลกลับเป็นประตูออกนำทันที ลากาแซตต์ ยิงได้ดีจริงกับประตูแรกของเกมที่ปั่นเช็ดสามเหลี่ยมเข้าไป

ริชาร์ลิซอน ป่วนแนวรับอาร์เซน่อลได้อย่างมากในครึ่งแรก

แรงกว่านี้ หรือมุมออกซ้าย-ขวามากกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว คงยากที่จะเป็นประตู ลูกนี้ยิงไม่ง่าย แต่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและผ่านการซ้อมมาเป็นอย่างดี

แต่ประตูที่ 2 ของ โอบาเมย็อง ในอีก 3 นาทีถัดมากลายเป็นประเด็นเลย

อารอน แรมซี่ย์ ล้ำหน้าชัดเจนในจังหวะเขี่ยให้ โอบาเมย็อง กดเน้นๆ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินไม่เห็น 

หากมี "วีเออาร์" ลูกนี้ไม่เป็นประตูอย่างแน่นอน แต่พอไม่มี อาร์เซน่อลเลยได้ประโยชน์จากความผิดพลาดของผู้ตัดสิน ขณะที่เอฟเวอร์ตันก็เสียหายเต็มๆ

ตาม 1 ประตู กับตาม 2 ประตู เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันมากเพราะอย่างที่เห็น โมเมนตัมช่วงนั้น เอฟเวอร์ตันลุ้นเก็บแต้มออกไปได้ แต่จู่ๆ กลายเป็นโดนนำ 2-0 โดยที่หนึ่งในนั้นไม่ควรเสีย

การได้ประตู 2 ลูกรวดของอาร์เซน่อลทำให้สถานการณ์คลายตัว หายใจได้โล่งขึ้นทันที เหมือนวันที่รัว 2 ลูกใส่นิวคาสเซิ่ลทั้งที่รูปเกมเป็นรองสาลิกาชัดเจน

โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส (ขวา) โชคร้ายบาดเจ็บจนเล่นไม่จบครึ่งแรก

รูปเกมจึงเปลี่ยนไปทันที เกมรุกเอฟเวอร์ตันลดความน่ากลัวไปลงเยอะเพราะ ริชาร์ลิซอน ได้รับบาดเจ็บในครึ่งหลัง 

แม้ไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก แต่ก็ไม่เต็มร้อย จังหวะคุกคามแนวรับเจ้าถิ่นแบบที่เห็นในครึ่งแรก แทบไม่มีในครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

เซงต์ โตซุน กับ แบร์นาร์ด ถูกเปลี่ยนเพื่อหวังลงมาพลิกเกม แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เวลาผ่านไป มาร์โก ซิลวา ก็คงประเมินออกว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเอฟเวอร์ตัน เขาไม่เลือกใช้โควตาสุดท้ายในการเปลี่ยนตัว 

อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะได้ 5 นัดติดจากทุกรายการ และเป็น 4 นัดในลีกที่ทำให้ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ด้วยการมีคะแนนเท่ากับ สเปอร์ส และตามหลังลิเวอร์พูลที่ชนะรวดอยู่ 6 คะแนน

อูไน เอเมรี่ หมุนเวียนนักเตะได้ดี โอบาเมย็อง ได้ออกไปพักในนาที 68 เพราะเพิ่งเล่นเกมยุโรปมาหมาดๆ  

ที่ถูกจับตามองอย่างมากคือ ลูคัส ตอร์เรยร่า กับการเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกหลังจากลงสำรองมาตลอด 5 นัดก่อนหน้านี้

ตอร์เรยร่า มีจังหวะชิงตัดบอลได้สวยๆ หลายครั้ง กล้าเสียบ กล้าปะทะแม้รูปร่างเล็ก มีความขยันในการช่วยเกมรับ พร้อมหาโอกาสหยอดบอลสวยๆ ช่วยเกมรุก

สิ่งที่ต้องปรับคือ จังหวะเข้าบอลต้องแม่นยำกว่านี้เพราะสุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะโดนไล่ออก เขาเป็นคนแรกของเกมที่โดนเหลืองตั้งแต่นาที 15 หลังเข้าหนักใส่ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน

ครึ่งหลัง ตอร์เรยร่า มีความระมัดระวังมากขึ้น จากที่ถูกมองว่าคงถูกเปลี่ยนออกแน่ๆ กลายเป็นเล่นครบ 90 นาที 

ที่น่าห่วงจริงๆ คือ อาการบาดเจ็บของ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส กองหลังคนสำคัญที่ถูกเปลี่ยนออกในท้ายครึ่งแรก

แนวรับทีมชาติกรีซกำลังเล่นได้ดี เป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีม หากโชคร้ายต้องเจ็บหนึกจะเป็นข่าวร้ายสำหรับ เอเมรี่ และอาร์เซน่อลอย่างไม่ต้องสงสัย

ชโคดราน มุสตาฟี่ ยังวางใจไม่ได้ ขณะที่ ร็อบ โฮลดิ้ง ก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควรในยุคของ เอเมรี่ ส่วนการคัมแบ็กของ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ก็คงน่าจะเป็นในเดือนพฤศจิกายน 

ยังดีที่โปรแกรมช่วงนี้ของอาร์เซน่อลไม่ได้หนักมาก นัดต่อไปยังได้เล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือเบรนท์ฟอร์ดในคาราบาว คัพ เป็นโอกาสอีกครั้งที่ เอเมรี่ จะได้พักตัวหลัก

ประคองตัวไปเรื่อยๆ มีเป๋ มีแกว่งบ้าง แต่ต้องไม่หลุดออกนอกเลน ไม่งั้นกลับมาลำบาก