:::     :::

เลือดข้นคนจาง!

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
14,727
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อีกฤดูกาลที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกมาครอบครอง โดยแทบไม่มีศัตรู มาเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทาง

ใส่เต็มทุกนัดที่ลงสนาม จัดหนักทุกรายการไม่มีอิดออด ผิดพลาด ถูกยัดเยียดความปราชัยบ้างพอเป็นพิธี ทว่าก็ถีบตัวเองกลับสู่รันเวย์ลูกหนังอย่างรวดเร็ว

เป็นโทรฟี่ลีกใบที่ 6 อย่างไรข้อกังขา

บิดเข็มนาฬิกากลับไปก่อนคิกออฟซีซั่น เนวิน ชิดชอบ พ่อใหญ่ทีม ออกมาเปรยว่า บุรีรัมย์ จะไม่เจียดเม็ดเงินทุ่มซื้อผู้เล่นระดับสตาร์อีกต่อไป

แต่จะใช้ผู้เล่นจากอะคาเดมีที่ปลูกปั้นอยู่ในสวนหลังบ้านตั้งแต่เด็ก หรือ แข้งเลือดเนื้อเชื้อไขบุรีรัมย์ ไล่ล่าแชมป์แทน โดยมีนักเตะต่างชาติเป็นแกนหลักอีกที

เหตุผลของท่านประธานปราสาทสายฟ้าคือ เพราะนักเตะไทยค่าตัวสูงลิ่วเกินไปในท้องตลาด สวนทางกับฝีตีน

คำพูดดังกล่าวทำให้ถูกสาวก บุรีรัมย์ บางส่วนวิจารณ์เช่นกัน เนื่องจากในยุคที่อุตสาหกรรมฟุตบอลไทย ถูกเคลื่อนด้วยเม็ดเงินแข่งกันไขว่คว้าความสำเร็จ เขากลับเลือกยุทธวิธีที่ย้อนแย้งออกไป เพราะการใช้ “ดาวรุ่ง” พาสเจอไรซ์จากอะคาเดมี ไม่การันตีว่าเด็กเหล่านี้จะผลิดอกออกผลให้ได้

ทว่าคำพูดของ เนวิน วันนั้น ได้ตอบทุกอย่างในวันนี้ได้อย่างหายข้อข้องใจแล้ว

ผู้เล่นดาวรุ่งจากอะคาเดมี แข้งดาวรุ่งโนเนม ผสม กำลังหลัก ยังเจ๋งพอที่จะเสกแชมป์ลีกได้ ยังไม่นับรวมโทรฟี่บอลถ้วยที่สโมสรเข้าชิงชนะเลิศอีก


ชิติพัทธ์ แทนกลาง แนวรับลูกรัก ที่พุ่งชนมรสุมคีย์บอร์ดจากแฟนบอล ใช้ฝีตีนตอบแทนคำพูดในสนาม

รัตนากร ใหม่คามิ จากดาวรุ่ง 2 ปีที่แล้วไม่มีใครรู้จัก สู้ยอดมิดฟิลด์ตัวรับเบอร์ต้นของเมืองไทย

ศุภชัย ใจเด็ด ไอ้ก้านยาววัย 20 ที่สโมสรไปคว้ามารดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย กลายเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์สำหรับทีม ทั้งกองกลาง และ กองหน้า

สุภโชค สารชาติ อาจไมได้หวือหวาชวนทะลวงไส้เหมือนปีกลาย ทว่าก็ยังเป็น 1 ในขุนพลสำคัญสำหรับทีม

ศศลักษณ์ ไหประโคน เลือดเนื้อเชื้อไขบุรีรัมย์แท้ ถูกอุ้มจากม้านั่งสำรองทีมเก่า มาปัดฝุ่นใหม่ และแจ้งเกิดในซีซั่นแรกกับ “ปราสาทสายฟ้า” ทันที

หรือจะเป็นแข้งอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวรุ่งวัย 16 ที่กลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดที่เดบิวต์ประตูในไทยลีก กฤษณะ ดาวกระจาย แนวรับที่ได้รับโอกาสบ้างจากทีม ตั้งแต่วัยที่ยังเข้าผับไม่ได้

ยังไม่นับบรรดาผู้เล่นที่ถูกปล่อยยืมไปอีกมากมาย ทั้ง ขวัญชัย สุขล้อม, พีฬาวัช อรรคธรรม, อภิชาติ เด็นหมาน, ยุทธพิชัย เลิศล้ำ (พีที ประจวบ), อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บีจีเอฟซี), ศรายุธ สมพิมพ์ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล), เมธี สาระคำ, จักรพงศ์ สืบสมุทร์ (กระบี่ เอฟซี)

ทั้งหมดทั้งมวลคือ “ดาวรุ่ง” พร้อมเติบใหญ่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในอนาคต


กว่า 1 ทศวรรษ บุรีรัมย์ เป็นสโมสรที่แทบจะเปลี่ยนแปลงไม่หยุดอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งการกล้าหรือบ้าจะ “เปลี่ยน” แทบไม่มีครั้งไหนคุณภาพลดทอนลง

ในขณะที่สโมสรหัวตารางทีมอื่น พากันแบกเงินกว้านซื้อพ่อค้าแข้งฝีตีนดีเข้าสู่ทีม “ปราสาทสายฟ้า” กลับมองหาแข้งอายุน้อย หรือ นักเตะเกรดบีธรรมดา มาใส่จิตวิญญาณบุรีรัมย์

จากการเริ่มขุดดินรดน้ำใส่ระบบเยาวชนในวันนั้น วันนี้ บุรีรัมย์ ได้วัตถุดิบดาวรุ่ง และ เลือดเนื้อเชื้อไขชาวบุรีรัมย์ ที่รอวันแกะใช้งานอย่างมากมาย

ย้อนไปในอดีตอีกซีกโลก หลายคนได้จดจำความแสบสันต์ “คลาส ออฟ 92” ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว

คาดว่าอีกไม่นาน เราอาจได้เห็น “คลาส ออฟ บุรีรัมย์” ที่เป็นผลิตภัณฑ์ลูกหนังโฮมเมด ผลิตจากรั้วอะคาเดมี รวมถึงเป็นผู้เล่นที่มีเลือดบุรีรัมย์แท้ๆ

อาละวาดในไทยลีก!  


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด