:::     :::

คุยกับ "น้าติ๊ก" สมชาติ ยิ้มศิริ : เจาะประเด็นบอลเด็กโกงอายุอดีตที่ต้องจดจำ

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
10,857
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในอดีตที่ผ่านมา ทีมเยาวชนของไทยเคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้ 2 สมัยคือ พ.ศ.2537 และ พ.ศ.2539 ซึ่งถูกครหาว่าใช้ผู้เล่นอายุเกิน หรือเรียกง่ายๆ ว่าโกงอายุไปแข่ง และหลังจากนั้นมาไทยก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกเลยไม่ว่าชุดไหน วันนี้ผมจะพาไปคุยกับ "น้าติ๊ก" สมชาติ ยิ้มศิริ อดีตกุนซือวัย 72 ปีผู้พาทีม "ช้างศึกจูเนียร์" ไปลุยฟุตบอลโลกที่ นิวซีแลนด์ เมื่อ 22 ปีที่แล้ว "น้าติ๊ก" ได้เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย ลองติดตามกันดูครับ

แมน : สวัสดีครับน้าติ๊ก ผมอยากรบกวนถามความเห็นเกี่ยวกับทีมชาติไทยชุดยู-16 หน่อยครับ 

น้าติ๊ก : ครับ ว่ายังไงล่ะ

แมน : เอางี้ก่อนครับ น้าติ๊กถ้าผมขอถามตรงๆ เลยได้มั้ยว่าสมัยตอนที่เราไปบอลโลกยู-17 ที่น้าติ๊กเป็นโค้ช เราโกงอายุจริงมั้ยครับ

น้าติ๊ก : จริงสิครับ คือในเอเชียโดยเฉพาะแถวตะวันออกกลางเขาทำกันแทบทั้งนั้น แล้วตอนนั้นเทคโนโลยีการตรวจสอบต่างๆ ก็ยังไม่ทันสมัยเหมือนอย่างเดี๋ยวนี้ เป็นนโยบายตั้งแต่ก่อนหน้านั้นหลายปีแล้ว เราก็ใช้ผู้เล่นอายุเกินเกณฑ์มาตลอดนั่นแหละ

แมน : แล้วตอนนั้นน้าติ๊กคัดค้านอะไรบ้างไหมครับ

น้าติ๊ก : ค้านอะไรไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นนโยบายที่ทำกันมาตลอด โค้ชที่เข้ามารับหน้าที่ก็เหมือนกับเป็นการขอความร่วมมือให้เข้ามาช่วยทำงานเพื่อทีมชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายไป

แมน : ตอนที่น้าติ๊กคุมทีมไปบอลโลก คือปี 2539 ถูกมั้ยครับ เห็นนักเตะชุดแชมป์เอเชีย กับที่ไปฟุตบอลโลกที่นิวซีแลนด์ มีการเปลี่ยนยกชุด ข่าวในตอนนั้นเห็นเป็นเพราะเอเอฟซีขู่ว่าจะแบนไทยใช่มั้ยครับ 

น้าติ๊ก : ตอนนั้นพอเราได้แชมป์ฺเอเชีย อ.วิจิตร เกตุแก้ว (นายกสมาคมฟุตบอลสมัยนั้น) มาถามผมว่า จะเปลี่ยนมาใช้ผู้เล่นตามอายุจริงผมจะโอเคมั้ย ผมก็บอกว่าได้เลย ผมยินดีอยู่แล้ว เราก็เปิดคัดนักเตะใหม่เลยเพื่อให้ได้ผู้เล่นที่อยู่ในเกณฑ์อายุไม่เกิน 17 ปีจริงๆ แล้วชุดที่ผมทำนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยนะที่จัดระบบโค้ชเหมือนสากลคือมี ชลอ หงษ์ขจร มาสอนเกมรุก มีไชยวัฒน์ พรหมมัญ มาเป็นโค้ชผู้รักษาประตู ตอนนั้น ไชยวัฒน์ เขาดังมากๆ เพิ่งจะคว้าถ้วยอัศวิน (รางวัลแห่งเกียรติยศของผู้รักษาประตู ในการแข่งขันฟุตบอล ถ้วย ก. ปี พ.ศ.2519  ที่พาการท่าเรือได้แชมป์ แบบไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวตลอดทัวร์นาเม้นต์ (ส่วนอีกคนที่ได้รับรางวัล ถ้วย อัศวิน ก็คือ ชัยยง ขำเปี่ยม ในปี พ.ศ.2532) แล้วก็โค้ชก๊อก (พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ) ที่เสียชีวิตไปแล้ว แกเก่งในเรื่องการวางแผนเข้ามาวางแท็กติกให้ ส่วนผมก็จัดการเรื่องการซ้อมและดูแลเรื่องระเบียบวินัย 

ไชยวัฒน์ พรหมมัญ สมัยคว้ารางวัล "ถ้วยอัศวิน"

แมน : ตอนที่ชิงแชมป์เอเชีย น้าติ๊กพอจะบอกได้มั้ยครับว่านักเตะที่อายุมากที่สุดและน้อยที่สุด อายุเท่าไหร่ ไม่ต้องระบุชื่อก็ได้ครับ มีใครที่อายุไม่เกิน 16 ปีจริงๆ มั้ย

น้าติ๊ก : ทุกคนอายุเกิน 16 ปีหมดครับ มากสุดก็ 20 ต้นๆ มีอยู่ 2-3 คน ส่วนเด็กสุดก็ประมาณ 17 ปีเนี่ยแหละ 

แมน : ตอนรุ่นของ อ.หรั่ง (ชาญวิทย์ ผลชีวิน) ที่แกพาทีมไปบอลโลกยู-17 ที่อียิปต์ ปี 2537 ก็เหมือนกันมั้ยครับ

น้าติ๊ก : เหมือนกันหมดแหละ ทำตั้งแต่ก่อนหน้านั้นมาตลอดด้วย แต่มีแค่ 2 รุ่นนี้ที่ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ เอาจริงๆ ตอนที่น้าคุมน่ะ เราไม่ได้คิดว่าจะไปถึงฟุตบอลโลกหรอก กะแค่ผ่านรอบแรกเท่านั้น แต่เราก็ไปได้ถึงแชมป์เอเชียเลย

แมน : แบบนี้จะพูดได้มั้ยครับว่าชุดบอลโลกที่นิวซีแลนด์ คือครั้งแรกที่ใช้นักเตะอายุตามเกณฑ์จริง

น้าติ๊ก : ใช่ครับ ชุดนั้นแหละคือครั้งแรกเลยที่นักเตะอายุไม่เกินที่กำหนดจริงๆ 

แมน : แล้วหลังจากนั้นไทยเรายังมีการโกงอายุนักเตะอยู่มั้ยครับ

น้าติ๊ก : ก็อาจยังมีเป็นรายบุคคลมากกว่า แต่ไม่ใช่ทั้งทีมเหมือนแต่ก่อนแล้ว 

แมน : ปัจจุบันนี้คงไม่มีแล้วใช่มั้ยครับ

น้าติ๊ก : เดี๋ยวนี้ไม่น่ามีแล้วสำหรับบ้านเรานะ แต่ชาติอื่นไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะเทคโนโลยีต่างๆ มันพัฒนาไปไกล สโมสรหรืออคาเดมี่โรงเรียนต่างๆ ก็พัฒนาไปสู่ความเป็นอาชีพหมดแล้ว ดังนั้นเรื่องโกงอายุไม่น่าจะมีแล้วล่ะ

แมน : การทำบอลเด็กสมัยน้ากับตอนนี้ต่างกันเยอะมั้ยครับ

น้าติ๊ก : แต่ก่อนยากกว่าเยอะ เพราะเวลาเราคัดเด็ก เราเรียกมาทั้งประเทศหลายพันคน เราต้องเริ่มตั้งแต่ทดสอบการเลี้ยงหลบกรวย, เดาะบอลแปบอลอะไรพวกนั้นเลย เด็กสมัยก่อนไม่ได้มีเบสิคพื้นฐานแน่นเหมือนเดี๋ยวนี้ แต่ก่อนเราต้องสอนตั้งแต่เบสิกใหม่หมด แต่ตอนนี้เด็กๆ เก่งอยู่แล้วเพราะมีสังกัดอยู่ในอคาเดมี่อยู่ในสโมสรกันหมดแล้ว ทีมชาติแค่หยิบจับมาใช้แล้วใส่แท็กติกได้เลย 

แมน : มีคำกล่าวกันมานานแล้วว่า ไทยเราเก่งบอลเด็กแต่พอโตขึ้นมาความเก่งก็หายหมด น้าคิดว่าเป็นเพราะอะไรครับ

น้าติ๊ก : อย่างแรกก็คือเรื่องวินัย แล้วก็ลงแข่งเยอะเกินไป เด็กๆ ในวัยไม่เกิน 15 ปีเนี่ย ไม่ควรลงแข่งบ่อยขนาดนี้ อาทิตย์นึงบางทีลงแข่งแทบทุกวัน เขาเรียกว่าเด็กกรอบกันหมด จนไม่เหลือเวลาให้คิดให้พัฒนาตัวเอง หวังกันแค่ผลการแข่งขันไปตามรุ่น แล้วน้าจะสอนเด็กๆ อยู่เสมอว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬานั้นต้องมีสมรรถนะที่แข็งแรงอยู่ 3 อย่าง หนึ่งคือ สมรรถนะทางร่างกาย ต้องมีความพร้อม สองคือสมรรถนะทางกีฬา ต้องมีทักษะและความสามารถเพื่อไปสู่ความเป็นเลิศ และสุดท้ายคือสมรรถนะทางจิตใจ ต้องเข้มแข็งพอที่จะต่อสู้กับความกดดันและสิ่งยั่วยวนต่างๆ ที่ทำให้หลงทางได้ ถ้าขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป นักกีฬาคนนั้นก็ไปไม่ถึงจุดสูงสุดของตัวเองได้แน่นอน

แมน : เรื่องเด็กเส้นหรือเอเจนต์นี่มีจริงมั้ยครับกับทีมชาติไทย

น้าติ๊ก : เอเจนต์สมัยน้ายังไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวนี้น่ะมีแน่นอน อย่าให้พูดเลยว่าใครบ้าง ส่วนเด็กเส้นก็มีอยู่ทุกยุค สมัยน้าก็มีเยอะแยะที่มาขอฝากให้ดูแลเด็กให้หน่อย

แมน : แล้วน้าทำยังไงครับ

น้าติ๊ก : น้าก็รับเข้ามาก่อนแหละ คือเอามาคัดอีกที ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ตัดออกแล้วอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเขายังไม่พร้อมจริงๆ แต่ถ้าเด็กเก่งอยู่แล้ว ยังไงน้าก็ต้องเอาไว้

แมน : น้าเคยเจอปัญหาอะไรหลังจากที่ไปตัดเด็กฝากของผู้ใหญ่มั้ยครับ

น้าติ๊ก : ไม่เคยนะ เพราะน้าไม่ได้ตัดแบบหักดิบ แต่ต้องพูดคุยกันแล้วอธิบายเหตุผล เด็กฝากก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถเสมอไปนะ เชื่อมั้ยว่าเจ้าโม้ (พิภพ อ่อนโม้) ตอนนั้นเรียนอยู่อัสสัมศรีราชา  ก็เคยมาคัดกับน้าตอนยู-16 แล้วไม่ผ่าน แต่ทางคุณ xxxx (ขอไม่เปิดเผยชื่อ) มาขอพี่ว่าให้ช่วยเด็กคนนี้หน่อย เพราะว่าทางบ้านเขาลำบาก แล้วเขาอยากจะมีโปรไฟล์ติดทีมชาติเพื่อขอทุนเข้าเรียนที่ม.ศรีปทุม คือเขาฝากให้ช่วยดูแลมันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง เหมือนเราให้โอกาสเขามาคัดอีกรอบ แล้วดูตอนนี้สิ เจ้าโม้รวยกว่าน้าไปแล้ว (หัวเราะ) เวลาเจอกันเขาก็มาไหว้มากอดน้าตลอดแหละ

แมน : อ้าวแล้วแบบนี้จะไม่ไปกินไปเบียดเบียนโควตาเด็กคนอื่นหรอครับน้า เพราะเอาคนที่ถูกตัดชื่อออกไปแล้วกลับมา

น้าติ๊ก : ก็เอามาคัดเพิ่มไง เราไม่ได้ตัดใครออกเพื่อเอาคนนี้มาแทน พอดีว่าตอนคัดเลือกอีกรอบเจ้าโม้ทำได้ดีมาก เรากำลังต้องการกองหน้าในสไตล์เก็บบอลได้และถ่างออกไปเล่นด้านข้าง ซึ่งตอนนั้นก็มีโม้คนเดียวที่เล่นแบบนี้

พิภพ อ่อนโม้ กลายเป็นตำนานของ ชลบุรี เอฟซี ไปแล้ว

แมน : ชุดที่ไปนิวซีแลนด์ ถือเป็นชุดที่ขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัยเลยนะครับ หลายๆ คนเดี๋ยวนี้ก็ยังเล่นอยู่ในลีกสูงสุด อย่าง ลีซอ (ธีรเทพ วิโนทัย), สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุรีย์ สุขะ, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ฯลฯ

น้าติ๊ก : ใช่ครับ ชุดนี้วินัยดีมาก อย่างเจ้าซอเนี่ย ตอนเรียกมาติดเขาอายุเพิ่ง 14 ปีเอง เด็กสุดเท่าที่เคยมีทีมชาติชุดยู-16 หรือ ยู-17 มาเลย ตอนผมเรียกยังโดนคนหาว่าผมเอาใจพ่อเขาอยู่เลยนะ (เทพชัย วิโนทัย ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.เดลินิวส์) แต่เจ้าซอก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขามีความสามารถจริงๆ 

แมน : รุ่นนั้นที่ดังสุดๆ ต้อง สุริยะ อมตเวทย์ เลยนะครับ

น้าติ๊ก : เจ้าเบียร์นี่คือกองหน้าที่เก่งที่สุดแล้วในรุ่นนั้น น่าเสียดายที่เขาต้องเลิกเล่นเร็วไปหน่อยเพราะบาดเจ็บ ตอนที่ผมเรียกมาติดทีมเขาก็เจ็บหลังอยู่แล้วนะ แต่เท่าที่คุยกับหมอประจำทีมเขาก็เชื่อว่าน่าจะพอรักษาให้หายได้ แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเลิกเล่นไปเลย

สุริยะ อมตเวทย์ เจ้าของฉายา "ปิยะพงษ์2"

แมน : นักเตะที่น้าติ๊กเคยร่วมงานมาทั้งหมด คนไหนที่รู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดมีมั้ยครับ

น้าติ๊ก : คนไหนดีล่ะ มีเยอะเลย 

แมน : อย่าง สินทวีชัย ได้มั้ยครับ อาจจะเป็นเรื่องระเบียบวินัย ความสำเร็จในการค้าแข้ง การใช้ชีวิตอะไรแบบนี้

น้าติ๊ก : โกสินทร์ (ชื่อเดิมของสินทวีชัย) ก็โอเคนะ เขาเป็นคนที่มีวินัยสูง ถ้าอีกคนที่ผมชื่นชมมากๆ ก็คงเป็นซิโก้ 

แมน : พี่ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง น่ะหรอครับ พี่โก้เขาเคยเล่นกับน้าในทีมชุดไหน แล้วชื่นชมในเรื่องอะไรบ้างครับ

น้าติ๊ก : โก้เขามาเล่นทีมยู-16 นี่แหละ เขาเป็นเด็กที่ไม่ได้เก่งมากตั้งแต่แรก แต่เขาขยันซ้อมมากๆ เรียกว่ามีพรแสวงมากกว่า แล้วก็มีระเบียบวินัยไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ เขาพัฒนาขึ้นมาจนถือว่าเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งในเมืองไทยได้

กับ "ซิโก้" หนึ่งในศิษย์รักที่ "น้าติ๊ก" ภาคภูมิใจมากที่สุด

แมน : น้าติ๊กมองว่าทีมชาติไทยเรามีโอกาสจะได้ไปบอลโลกมั้ย แล้วคิดว่าเมื่อไหร่ครับ 

น้าติ๊ก : น้าคิดว่าอีกไม่นานหรอก อาจจะไม่เกิน 10 ปี เพราะเดี๋ยวนี้ทั้งเทคโนโลยี, วิทยาศาสตร์การกีฬา, องค์ความรู้ แล้วก็ลีกฟุตบอลของบ้านเรามันพัฒนาขึ้นไปมาก เรามีนักเตะเก่งๆ ที่ไปค้าแข้งต่างประเทศได้แล้ว ขออย่างเดียวคือผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจน่ะต้องไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ต้องดึงคนเก่งๆ เข้ามาทำงานด้วยกัน ไม่ใช่ว่าใครไม่อยู่ในคอนโทรลหรือเห็นต่างก็ร่วมงานด้วยไม่ได้ 

แมน : มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรอครับ

น้าติ๊ก : ก็ใช่น่ะสิ ถึงไปไหนได้ไม่ไกลไง เพราะมัวแต่เล่นพวกกันน่ะแหละ เอ้าน้าถามหน่อย โค้ชทีมชาติน่ะ ในประเทศไทยมีคนที่มีความรู้ความสามารถเยอะแยะ แต่มีแค่กี่คนเองที่ได้รับโอกาส เพราะอะไร เพราะเป็นเด็กของใคร เพราะเขายอมทำตามคำสั่งอยู่ในโอวาททุกอย่างถึงให้เขาทำงานหรือเปล่า แล้วคนบางคนนะ น้าโดนมาหลายรอบแล้ว ไม่อยากจะพูด เอาเป็นว่า "ขี้มันยังไม่ยอมให้หมาแดก" เลยดีกว่า ขอโทษนะน้าเป็นคนพูดตรงๆ แบบนี้แหละ

แมน : น้าติ๊กคิดว่า ถ้าเราดึงคนต่างชาติเข้ามาเป็นประธานเทคนิค จะมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ

น้าติ๊ก : มันก็มีข้อดีข้อเสียน่ะแหละ เราอาจจะได้ความรู้ใหม่ๆ เข้ามา แต่เขาก็จะไม่ค่อยรู้จักวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่นะที่คนต่างชาติจะเข้ามาปรัวตัวน่ะ จริงๆ แล้วคนไทยที่เก่งๆ ก็ยังมี อย่างอ.ชาญวิทย์ (ผลชีวิน) ผมว่าก็เป็นได้ 

แมน : อ.หรั่งคงจะยากหรือเปล่าครับ เพราะตอนเลือกตั้งก็ชัดเจนแล้วว่าอยู่คนละฝั่ง

น้าติ๊ก : ก็นี่ไง มัวแบ่งกันว่าพวกเขาพวกเรา จริงๆ อีกคนผมว่าก็เหมาะสมนะ ชื่อ ดนัย ที่เป็นอดีตทีมชาติกองหน้าจอมโหม่งประตูเลย ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ควบคุมการแข่งขันไทยลีกอยู่

แมน : "น้าติ่ง" ดนัย มงคลศิริ ใช่มั้ยครับ 

น้าติ๊ก : อื้ม... นั่นแหละ น้าว่าเขาเป็นประธานเทคนิคได้สบายเลย 

"น้าติ่ง" ดนัย มงคลศิริ อดีตศูนย์หน้าเจ้าเวหาทีมชาติไทย

แมน : พูดถึงทีม 16 ปีที่เพิ่งแข่งชิงแชมป์เอเชียไปหน่อยครับ คิดว่าเพราะอะไรทีมชุดนี้ถึงไม่ประสบความสำเร็จครับ เด็กชุดนี้ขีดความสามารถอยู่ในระดับที่ควรจะได้ไปบอลโลกมั้ย

น้าติ๊ก : น้ามองว่าฝีเท้าของเด็กไทยไม่เป็นรองใครหรอก แต่น้ายังไม่เข้าใจอยู่ว่าเราเล่นกันแบบประมาณตัวเองไม่เป็นหรีอไง 

แมน : ยังไงหรอครับ

น้าติ๊ก : ก็อย่างตอนเจอญี่ปุ่น เราขึ้นนำแล้วก็ยังเปิดเกมรุกจนถูกเขายิงคืน แล้วพอตอนที่เราตีเสมอเขาได้แล้ว เราก็ยังจะไปบุกใส่เขาต่อ จนแพ้ไปขาดลอย เกมเจอมาเลเซียก็เหมือนกัน พอยิงเขาได้ก็ดันกองหลังสูงอีก แล้วกองกลางตัวรับก็ไม่มี กองหลังก็เล่นกันแบบว่า ถ้าเป็นน้าคุมนะโดนด่าแน่ ไปพิงไปบังเขา แต่เหลี่ยมตัวเองเสียเปรียบเขา เป็นกองหลังต้องไม่เสียดายบอลและไม่ประมาทสิ นี่ถ้าเขาไม่โดนใบแดงไม่รู้เลยว่าจะชนะมาเลย์ได้หรือเปล่า

แมน : น่าจะเป็นเพราะประสบการณ์ในการคุมทีมของโค้ชดาท ยังน้อยหรือเปล่าครับ ในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ 

น้าติ๊ก : ดาทเป็นโค้ชที่มีอนาคตนะ เห็นเขาทำคะแนนข้อเขียนในการสอบไลเซนส์ต่างๆ เป็นอันดับต้นๆ ตลอด แต่เก่งแค่ทฤษฎีอย่างเดียวมันยังไม่พอหรอก มันต้องมีประสบการณ์ด้วย อย่างน้อยก็น่าจะหาผู้ช่วยที่มีประสบการณ์ไปช่วยเขาหน่อย เหมือนกับคนมีแขนซ้ายข้างเดียว อยู่ได้มั้ย ก็อาจจะอยู่ได้ แต่ถ้ามีแขนขวาด้วยเวลาจะทำอะไรมันก็สะดวกกว่า งานโค้ชมันก็ต้องมีทั้งความรู้และประสบการณ์ถึงจะประสบความสำเร็จได้

แมน : ที่่ผ่านมาพอทีมชาติไม่บรรลุเป้าหมายก็จะเปลี่ยนโค้ช น้าติ๊กคิดยังไงครับ

น้าติ๊ก : ไม่เห็นด้วยหรอก เพราะต้องสนับสนุนเขา อย่างดาทเนี่ย ผมเห็นมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กเข้ามาคัดตัวที่วัดสุทธิฯ เขาเป็นรุ่นหลานผมที่วัดสุทธิฯเลยนะ เพราะผมก็ศิษย์เก่าเหมือนกัน แล้วก็มองว่าดาทเป็นเด็กดีมีความมุ่งมั่นสูงมาก ผมอยากให้ทางสมาคมวางเป้าหมายให้ชัดเจนว่าให้เขามาสอบไลเซนส์แล้วเพื่อจะเอาไปทำอะไรต่อ

โค้ชดาท ยังมีอนาคตอีกยาวไกล ขอเพียงเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์

แมน : แต่ละคนก็มีสังกัดมีสโมสรกันอยู่แล้วนี่ครับน้า

น้าติ๊ก : คนที่มีสังกัดอยู่แล้วก็ช่างเขาสิ แต่คนที่ไม่มีแล้วอยากเข้ามาสอบไลเซนส์ล่ะ สอบแล้วเขาจะเอาไปทำอะไรต่อ สมาคมควรจะมีงานรองรับเขามั้ย อย่างในต่างจังหวัดเนี่ยยังขาดโค้ชที่มีความรู้ตามหลักสากล ทำไมไม่ตั้งโค้ชไปประจำตามศูนย์ภูมิภาค คอยอบรมให้ความรู้โค้ชในต่างจังหวัด ทางสมาคมก็อาจจะตั้งคนประเมินการทำงานไปคอยตรวจสอบ ว่าได้ไปอบรมถ่ายทอดจริงมั้ย และสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายหรือเปล่า

แมน : เป็นความคิดที่ดีเลยนะครับ เชื่อว่าทางสมาคมก็คงนำไปใช้ได้เลยนะครับแนวคิดนี้

น้าติ๊ก : แล้วท่านนายกก็เหมือนกัน เวลาให้สัมภาษณ์สื่อก็ไม่ต้องไปโวเยอะว่าเราจะคว้าแชมป์นั่นนี่ จะไปบอลโลกด้วยเด็กชุดนี้ มันจะกลายเป็นการกดดันเด็ก กดดันโค้ช มากเกินไป แค่บอกว่าเด็กชุดนี้มีอนาคต หรือขอให้ช่วยส่งกำลังใจกัน ก็พอแล้ว พอออกตัวแรงเวลาล้มเหลวกลับมาก็โดนถล่มเละ

แมน : สื่อสมัยนี้กับสมัยน้าทำทีมชาติ ต่างกันเยอะมั้ยครับ

น้าติ๊ก : สมัยนี้เด็กจบใหม่มันเยอะด้วยน่ะนะ แล้วก็มีแบ่งฝั่งเหมือนกัน บางทีไม่ใช่พวกกันก็ต้องเล่นงานอีกฝ่าย สมัยก่อนมันถ้อยทีถ้อยอาศัย นักข่าวกับโค้ชกับนักบอลเป็นพี่เป็นน้อง กินนอนอยู่ด้วยกันเวลาไปต่างประเทศ แล้วก็ไม่มีอินเทอร์เน็ตเหมือนสมัยนี้ที่พิมพ์แป๊บเดียวมันก็ไปไหนต่อไหนแล้ว

แมน : โอเคครับน้า วันนี้ผมขอบคุณมากนะครับ ไว้โอกาสหน้าจะขอรบกวนใหม่ครับ

น้าติ๊ก : ครับขอบคุณมากครับ


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด