:::     :::

'เฮนเดอร์สัน'กับ'วันล้างบาป'

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
7,367
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิดสำหรับ ลิเวอร์พูล

    ในที่สุดพวกเขาก็ถูกหยุดสถิติชนะรวดในการออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีกไว้ที่ 6 นัด หลังไม่สามารถคว้าสามแต้มที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้

    ทว่านั่นคือหนึ่งแต้มที่เหล่าเดอะ ค็อป ดูจะมีความสุขมากกว่า เนื่องจากสำหรับสาวกสิงห์บลูส์พวกเขาคงรู้สึกเหมือนโดนปล้นชัยไปกับการโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกมที่เรียกว่าท้ายจริงๆ

    ฮีโร่ของเด็กหงส์จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจาก แดเนียล สเตอร์ริดจ์

    กองหน้าวัยย่าง 30 ปีถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เจมส์ มิลเนอร์ ในนาทีที่ 86 และเขาก็ใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการส่งลูกผีจับยัดสุดสวยให้ผ่านมือนายทวารค่าตัวแพงที่สุดในโลกอย่าง เกปา อาร์รีซาบาลาก้า เข้าประตูไป

    นี่คือลูกที่ 50 ที่ สเตอร์ริดจ์ ยิงให้ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่ทำได้ก็คือ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไมเคิ่ล โอเว่น, หลุยส์ ซัวเรซ, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เดิร์ค เค้าท์

    อันที่จริง สเตอร์ริดจ์ น่าจะผ่านจุดนั้นไปได้ตั้งนานแล้ว หากไม่มัวไปเสียเวลากับการไปพบหมอศิริราชอยู่นั่นแหละ

    ไม่แค่นั้น มันยังเป็นประตูที่ 17 บนเวทีพรีเมียร์ลีกของหัวหอกจอมแดนซ์ในฐานะตัวสำรอง โดยมีเพียง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (19) และ เจอร์เมน เดโฟ (24) ที่ยิงได้มากกว่า

    เท่ากับว่าตอนนี้ หงส์แดงเราเตะไปแล้ว 7 นัด มีอยู่ 19 แต้ม หล่นลงมาอยู่ที่ 2 ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ด้วยผลต่างประตูได้เสียเท่านั้น

    พลันที่เกมจบสิ้น ผมนั่งใช้เวลาอยู่กับตัวเองหลายชั่วโมงเลยทีเดียวว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล

    จะเขียนวิเคราะห์ถึงรายละเอียดของเกมก็ต้องยอมรับตามตรงเลยว่านัดนี้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ และความสนุกตื่นเต้นบีบหัวใจที่ได้รับ

    จะเขียนถึงเรื่องหนึ่งแต้มที่สำคัญ บรรดาเหล่าพี่น้องร่วมสายงานที่คุ้นหน้าคุ้นตากันในบริษัทใหญ่ก็คงจัดหนักไปเยอะแล้ว

    ผมใช้เวลากับโลกโซเชียลอยู่พักใหญ่จึงได้ไปเห็นว่ากระแสของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นั้นรุนแรงมาก

    เหรียญย่อมมีสองด้าน มีรักต้องมีเกลียด มีสุขต้องมีทุกข์

    กระแสของกัปตันทีมหงส์แดงก็แบ่งออกเป็นสองด้าน หนึ่งคือแฟนบอลที่โจมตีเละเทะถึงขั้นแช่งให้เจ็บเลยก็มี ส่วนอีกฝั่งก็กางปีกปกป้อง แต่จากการไล่ดูแล้วส่วนแรกจะเยอะกว่ามาก

    มันทำให้ผมคิดไปถึงภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า 'เดอะ เพิร์จ' (The Purge)

    นี่คือหนังเก่าหลายปีแล้วเหมือนกัน รู้สึกจะมี 4 ภาค ซึ่งผมก็ดูมาครบทุกภาคนั่นแหละ ใครอยากดูอะไรที่แปลกใหม่ก็ลองไปหาชมกันได้ ผมแนะนำ

    มันไม่ใช่หนังที่มีความโด่งดังเป็นมุมกว้าง แต่ค่อนข้างจะเฉพาะกลุ่มนิดๆ เสียด้วยซ้ำ

    เป็นเรื่องที่เล่นกับแง่ในการวัดความเป็นมนุษย์, สำนึกผิดถูก และความเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

    เรื่องมีอยู่ว่าประเทษสหรัฐฯ ในยุคของสังคมเสื่อมโทรม คนว่างงานกันทั่วเมือง รัฐบาลของพวกเขาที่ชื่อ NFFA หมดหนทางแก้ปัญหาจึงกำหนดวัน 'เพิร์จ' ประจำปีหรือที่รู้จักกันว่า 'วันล้างบาป'

    วัน 'เพิร์จ' ก็คือวันที่อนุญาตให้คนทั่วประเทศ ประชาชนทุกคนสามารถก่อเหตุร้ายได้หมด เช่นฆ่าคน ทำร้ายใครก็ได้เต็มที่ โดยที่ทั้งตำรวจ และโรงพยาบาลจะปิดทำการเป็นเวลา 12 ชั่วโมง (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเวลา 1 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า)

    เหล่าคนรวย คนมีอำนาจ คนมีเงิน ก็จะไม่ค่อยเข่นฆ่ากันเอง เพราะถือเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพของสหรัฐฯ ยกเว้นแค่ใครหรือครอบครัวไหนหมั่นไส้ หมั่นหน้ากันแบบไม่มีเหตุผลก็อาจลงมือฆ่ากันได้

    กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ที่จะโดนทำร้ายก็คือคนผิวสี คนไร้บ้าน คนจน คนที่จะเป็นภาระของรัฐบาล คนพวกนี้จะถูกไล่ฆ่าในวันดังกล่าว

    ทำไมถึงต้อง 'เพิร์จ' ก็เพราะหลังจากที่รัฐบาลก่อตั้งวันนี้ขึ้นมา อัตราการว่างงานของคนในประเทศก็แทบไม่มี แถมอัตราการเกิดอาชญากรรมยังเกือบเป็นศูนย์ด้วย

    ถามว่าพวกเขาเหล่านั้นทำผิดอะไร

    ไม่...

    คนพวกนี้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่ดันเป็นคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่มีศักยภาพ ไร้ประโยนช์ มีชีวิตอยู่ต่อไปก็มีแต่จะเป็นภาระ

    สุดท้ายพวกเขาก็ตกเป็นเหยื่อของการ 'เพิร์จ' ไปโดยปริยาย

    กลับมาว่ากันถึงสไตล์การเล่นของ เฮนเดอร์สัน เขาเป็นมิดฟิลด์ประเภทที่รักษาสมดุลย์ให้กับทีม

    ตำแหน่งที่ได้รับจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นคือตัวโฮลดิ้ง ดีเฟนซีฟ มิดฟิลด์ พูดง่ายๆ ก็คือตัวรับที่ไม่ได้เล่นเกมรับ

    เอ๊ะ...แล้วมันจะเป็นตัวรับไปหาพระแสงดาบเลเซอร์อะไรกัน

    เกมรับคืออะไร คือการป้องกัน แต่การเป็นโฮลดิ้งก็คือการยืนตำแหน่งเหมือนตัวรับ ยืนต่ำที่สุดในแผงมิดฟิลด์ แต่คอยโยกสวิตซ์บอลไปหน้า หลัง ซ้าย หรือขวา

    เราจะเห็นได้หลายครั้งว่า เฮนเดอร์สัน มักจะจ่ายคืนหลังบ่อย เล่นสั้นๆ ง่ายๆ ใครๆ ก็บอก 'เล่นแบบนี้กูก็เล่นได้' แต่เอาเข้าจริงมันไม่ง่าย และมีความสำคัญ หรือเป็นจุดยุทธศาสตร์ให้ทีมได้เลย

    การเล่นตำแหน่งนี้ คุณต้องนิ่ง ต้องมีการสัมผัสบอลแรกที่ดีเยี่ยม ไหวพริบที่ดี และการสายตาในการออกบอลที่รวดเร็วแม่นยำ

    การดูอยู่หน้าจอทีวีมันเป็นเรื่องง่ายๆ ครับ แต่ถ้าลองไปยืนปักหลักอยู่ตรงกลางสนาม พร้อมกับเล่นแบบไหนให้ง่ายที่สุด ให้เนียนตาที่สุด และไม่ผิดพลาดมากที่สุด นั่นแหละคืองานยาก

    ลองสังเกตุทีมที่ดี หรือทีมที่พร้อมจะประสบความสำเร็จจะต้องมีนักเตะแบบนี้ในทีม ที่ แมนฯ ซิตี้ มี แฟร์นันดินโญ่ ที่ เชลซี มี จอร์จินโญ่ เรอัล มาดริด มี กาเซมิโร่ หรือ บาร์เซโลน่า มี เซร์คิโอ บุสเก็ตส์

    แต่มันก็อาจจะเพราะฟุตบอลคือเกมที่คนทั่วไปมองกันอยู่ 2 แบบ

    แบบแรกก็คือการเล่นเกมบุก ถ้าคนไหนบุกไม่เก่ง แฟนบอลก็จะไม่ชอบ และบอกว่าตัวรุกคนนี้ไม่เก่ง

    แบบที่สองก็คือการเล่นเกมรับ ถ้าคนไหนรับไม่เก่ง หรือรับหลวม แฟนบอลก็จะไม่ชอบอีก และบอกว่าหลังตัวนี้รั่วเหลือเกิน

    พอดีว่า เฮนเดอร์สัน มันไม่ได้เด่นทั้งสองอย่าง จะให้ทำเกมรุกลากเลื้อยเหมือน ลีโอเนล เมสซี่ ว่องไวเหมือน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มันก็ไม่ได้

    หรือจะให้เก่งเกมรับ แย่งบอลดีเหมือน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เข้าบอลหนัก เข้าบอลหนักเหมือน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ตอนพีคๆ ก็ไม่ได้อีก

    เท่ากับว่า เฮนเดอร์สัน นั้นอยู่ตรงกลาง หลายคนก็เลยไม่รู้ว่ามันจะเก่งเรื่องอะไรดี แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมรู้ดีที่สุด

    ผมไม่ได้บอกว่า เฮนเดอร์สัน นั้นเก่ง พวกแฟนบอลไม่ควรที่จะต้องไปวิจารณ์อะไรทั้งสิ้น

    แต่จะบอกว่ากัปตันทีมคนนี้กำลังตกอยู่ในสถานะจำเลยของสังคม

    บางคนก็ไม่สนใจอะไร ขอแค่เห็นว่าเป็นไอ้นี่ลงอีกแล้วก็ตั้งแง่มันไว้ก่อน ทั้งที่จริงเขาอาจไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่เราคิด

    โอเค...ลองคิดอีกแง่ถ้าเปลี่ยนจาก เฮนเดอร์สัน เป็นคนอื่นที่เก่งกว่า ทีมเราอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ แต่มันก็คงไม่ได้ห่วยแตกถึงขนาดที่ว่าถ้ามีเขาเราจะไม่ชนะ หรือจะถึงขั้นแพ้เลยซะที่ไหน

    คล็อปป์ เองก็ทำงานกับหงส์แดงมา 3 ปีกว่าแล้ว ถ้าเกิดเขาไม่เห็นว่าใครคนไหนดี และมีประโยชน์กับทีมก็คงไม่เก็บเอาไว้

    แต่สำหรับ เฮนเดอร์สัน

    ตอนนี้แฟนบอลส่วนใหญ่ได้ล็อกเป้าเขาสำหรับการ 'เพิร์จ' ไปเรียบร้อยแล้ว

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด