อาร์เซน่อล, อาดิดาส และความคลาสสิค
นับว่าเป็นการกลับมามีชุดแข่งจากการออกแบบของบริษัทยักษ์ใหญ่ของเยอรมันอีกครั้งในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่เคยมี อาดิดาส เป็นสปอนเซอร์มาในช่วงปี 1986-94
บนเสื้อของทัพ "ปืนใหญ่" นับตั้งแต่อดีต รายแรกที่เป็นผู้ผลิตและสปอนเซอร์ให้กับสโมสรและเป็นที่คุ้นเคยของเหล่า "กูนเนอร์ส" เป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้น อัมโบร ที่อยู่คู่กับทีมมาอย่างยาวนานเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1957 และในปี 1961-63 และกลับมาอยู่กับสโมสรยาวตั้งแต่ปี 1965-86 กินระยะเวลากว่า 21 ปีก่อนที่ อาดิดาส จะเข้ามารับช่วงต่อในปี 1986
หลังจากนั้นก็เป็น ไนกี้ ที่เข้ามาในปี 1994 กับสปอนเซอร์ 'JVC' ที่แฟนบอลยุค 90 คุ้นตากันมากโดยเฉพาะในบ้านเราที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเริ่มได้รับความสนใจ
ไนกี้ อยู่กับทีมมายาวนานถึง 20 ปี จนถึงปี 2014 ถือเป็นช่วงเวลาที่ อาร์เซน่อล ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์
และล่าสุดกับ พูม่า ที่เซ็นสัญญา 5 ปีและกำลังจะกลายเป็นอดีตไปหลังจากจบฤดูกาลนี้
ด้วยเม็ดเงินระดับ 300 ล้านปอนด์ที่ อาดิดาส ทุ่มให้กับ อาร์เซน่อล ในการกลับมาสนับสนุนชุดแข่งให้กับสโมรอีกครั้ง ในระยะเวลา 5 ปีนับจากปี 2019-24 ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว เฉลี่ยปีละ 60 ล้านปอนด์
โอเคมันอาจจะยังสู้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฟันกับค่ายยักษ์จากเมืองเบียร์ที่ระดับ 75 ล้านปอนด์ต่อปี แต่ก็สูงเป็นอันดับ 3 กับมูลค่าในครั้งนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งแน่นอนว่าเป็น บาร์เซโลน่า ที่รับอยู่สูงลิบที่ 140 ล้านปอนด์ต่อปี
ก็ต้องรอดูการออกแบบของทางฝั่งอาดิอาสว่าจะออกมาโดนใจแฟนบอลทั้งหลายสักแค่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่าแฟนพันธุ์แม้ยังไงก็ต้องมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยสักตัวต่อฤดูกาลก็ยังดี
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เพราะในสายตาที่มองย่อมแตกต่างกันไป บางคนชอบแบบมีปกคอเสื้อ บางคนชอบเรียบๆ บางคนชอบคลาสสิค ก็แนวใครแนวมัน
แต่วันนี้จะพาย้อนกลับไปสมัยที่ชุดแข่งของทีมปืนโตมีอาดิอาสเป็นสปอนเซอร์ว่าหน้าตาสวยโดนใจแฟนบอลสมัยนี้กันรึเปล่า
ชุดเยือน ปี 1988-91
หนึ่งในเสื้อเยือนที่ขึ้นแท่นคลาสสิคตลอดกาลของสโมสร และไม่เพียงแค่มันถูกออกแบบอย่างสวยงามแล้วยังมีจุดที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
กับสโมสรทุกวันนี้สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนบนเสื้อด้านหน้าก็คือสปอนเซอร์, ตราสโมสร และบริษัทที่ผลิตชุดแข่ง แต่สำหรับชุดเยือนในช่วงเวลานั้นของ อาร์เซน่อล มีการออกแบบให้ไม่มีตราสโมสรปะที่หน้าอกข้างซ้าย แต่เลือกที่จะใช้รูปปื้นใหญ่ตั้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
การผสมผสานอย่างลงตัวกับเสื้อโทนสีเหลืองที่พร้อมแขนเสื้อสี้น้ำเงินที่มีขลิบเหลืองตรงไหล่ พร้อมด้วยกางเกงสีน้ำเงินขลิบเหลืองด้านข้าง มองทีไรก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่เก่าแต่เก๋าเป็นอย่างยิ่ง
และสิ่งที่ทำให้เสื้อชุดนี้ทวีความเข้มคลังอยู่ที่ผลงานของทีมในฤดูกาลนั้นต่างหาก
ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล อาร์เซน่อล ที่มีอยู่ 73 คะแนน จะบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงที่มี 76 คะแนน พร้อมประตูได้-เสียที่ดีกว่าอีก 4 ลูก แต่ทาง "ปืนใหญ่" มีประตูที่ยิงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าทางเดียวที่ทีมจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ก็คือต้องบุกไปชนะให้ได้ 2 ประตูขึ้นไปเท่านั้น
อาร์เซน่อล มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจากลูกโหม่งของ อลัน สมิธ ในนาทีที่ 51 เรียกเสียงเฮให้แฟนบอลที่ตามไปเชียร์อย่างบ้าคลั่งเพราะทีมต้องการอีกประตูเดียวเพื่อแซงคว้าแชมป์ และในขณะที่เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์นี้ ไมเคิ่ล โธมัส หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาผ่าน บรู๊ซ กร็อบเบลาร์ เข้าไปให้ทีมชนะ 2-0 ตามเป้า แซงหน้าคว้าแชมป์ชนิดที่เหล่า "หงส์แดง" ช็อคกันไปทั้งสนาม
เรียกได้ว่าใครมีเสื้อตัวนี้อยู่ในครอบครองถือว่านี่คือหนึ่งในชุดที่มีประวัติความเป็นมาที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาจริงๆ
ชุดเหย้า ปี 1990-92
ถือเป็นชุดที่ควรแค่แก่การมีไว้ในครอบครองเหมือนกับสำหรับเหล่า "กูนเนอร์ส" เพราะมันคือชุดเหย้าของทีมก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงของลีกฟุตบอลอังกฤษที่เปลี่ยนให้ลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าจะไม่ได้มีลักษณะอะไรโดนเด่นแต่เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิคอย่างบอกไม่ถูก แค่พื้นเสื้อสีแดงกับแขนเสื้อสี้ขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมก็ทำให้เหล่าบรรดาแฟนบอลมองได้อย่างไม่มีเบื่อ
และที่สำคัญคือในปี 1990/91 เป็นอีกครั้งที่ อาร์เซน่อล ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกอีกครั้งด้วย
ถือเป็นการคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยในรอบ 3 ปี ก่อนที่ทีมจะหายหน้าไปกลายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ กระทั่งทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกกับการมาถึงของชายที่ชื่อ อาร์แซน เวนเกอร์ นั่นเอง
ชุดเยือน ปี 1991-93
หนึ่งในชุดแข่งที่ได้รับการจดจำ เพียงแต่ไม่ได้จดในฐานะที่มันสวย แต่จำในฐานะที่มัน "ห่วย" ต่างหาก
ถ้าเสื้อลายนี้ถูกผลิตออกวางจำหน่ายในปัจจุบัน มั่นใจได้เลยว่ามันจะเป็นหนึ่งในเสื้อแข่งที่มียอดขาย "ต่ำ" ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างแน่นอน
ชุดแข่งสีเหลืองพร้อมลูกศรชี้ขึ้น-ลงสีกรมท่า ในสมัยนั้นก็ยังถูกมองว่าแปลกอยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงยุคนี้
ถึงกระนั้นชุดนี้ก็เป็นหนึ่งในเครื่องแบบที่ทีมใช้ในการคว้าแชมป์ลีกในปี 1990/91 นั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าคงมีแฟนบอลที่เก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีเช่นกัน
แน่นอนว่าคนที่ใส่ชุดแข่งนี้และดูดีที่สุดคงหนีไม่พ้น เอียน ไรท์ ที่ย้ายมาร่วมทีมในปี 1991/92 ซึ่งเขาทะลวง 24 ลูกจาก 30 เกมในปีแรกกับทีม