:::     :::

ปลดจูเลน!?!?

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
6,640
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จูเลน โลเปเตกี อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนกำลังนับถอยหลังในฐานะเทรนเนอร์ เรอัล มาดริด หลังทำผลงานย่ำแย่ชนะเพียง 5 นัดจากการคุมทีมลงสนาม 12 เกมและออกตัวในช่วง 9 เกมแรกบนเวทีลีกาห่วยสุดในรอบ 17 ปี

เรอัล มาดริด กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติหลังการพ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อกันและไม่ชนะคู่แข่งตลอด 5 เกมหลังโดยยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น 

การทำผลงานห่วยแตกแบบนี้ถ้าหากเกิดขึ้นกับเทรนเนอร์คนอื่นน่าจะถูก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ไล่ตะเพิดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ จูเลน โลเปเตกี ยังเกาะเก้าอี้เหนียวแน่นเพราะได้แรงหนุนหลังจาก เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมชุดขาวนั่นเอง

แต่ใช่ว่าอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนจะอยู่ในตำแหน่งได้อย่างยาวนานเพราะถ้าผลงานของทีมไม่ดีขึ้น ท่านประธานฟลอเรนติโน่พร้อมเตะโด่งพ้นถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ทันทีเช่นกัน

โลเปเตกี กลายเป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลัง เรอัล มาดริด ทาบทามเข้ามารับงานต่อจาก ซีเนดีน ซีดาน แบบไม่เข้าตามตรอกออกตามประตูจน หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนแถลงข่าวปลดออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมกระทิงก่อนลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียเพียง 2 วัน 

นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ สเปน ล้มเหลวจากฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาทั้งที่เป็นหนึ่งในทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์ แต่ไปได้แค่รอบ 16 ทีมก่อนดวลเป้าพ่ายเจ้าภาพ รัสเซีย 


ขณะที่ โลเปเตกี อาจไม่ใช่ตัวเลือกลำดับต้นๆของท่านประธานฟลอเรนติโน่ตั้งแต่แรก เขาเริ่มต้นงานใหม่ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เริ่มออกอาการเป๋ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ทีมของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ไม่ชนะคู่แข่งตลอด 5 เกมที่ผ่านมาโดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พลิกพ่าย เลบันเต้ คาบ้าน 1-2 แถมยังสร้างสถิติสโมสรด้วยการยิงประตูไม่ได้ยาวนานถึง 482 นาที ก่อน มาร์เซโล่ วิเอยร่า จะปลดล็อคด้วยการยิงตีไข่แตกในเกมล่าสุดช่วงนาที 72

12 เกมภายใต้การคุมทีมของอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปน ปรากฎว่า เรอัล มาดริด เอาชนะคู่แข่งเพียง 5 นัดเท่านั้นจนมีกระแสข่าวว่าทีมชุดขาวกำลังจะสั่งปลด โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันจันทร์ 

ตามรายงานข่าวอ้างว่าท่านประธานฟลอเรนติโน่พร้อมจะโปรโมต ซานติอาโก้ โซลารี่ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด กาสตีย่า หรือ เรอัล มาดริด เบ ขึ้นมาคุมทีมชั่วคราวเหมือนที่เคยดัน ซีดาน ขึ้นมาแทน ราฟาเอล เบนีเตซ ในช่วงเดือนมกราคมปี 2016 


ฟลอเรนติโน่ เปเรซ มองว่า โซลารี่ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้มากกว่า อันโตนิโอ คอนเต้ หรือ โลร็องต์ บล็องก์ สองเทรนเนอร์ฝีมือดีที่กำลังว่างงาน 

โซลารี่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงปี 2000-2005 เขาเข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หลังจากการโปรโมต ซีดาน ขึ้นคุมทีมชุดใหญ่แทน'เอล ราฟา'ราว 6 เดือน ตามรายงานข่าวอ้างว่าประธานทีมชุดขาวเสนอให้ โซลารี่ คุมทีมไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้เท่านั้น 

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ต้องการ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ของ สเปอร์ส เข้ามาเป็นอนาคตของทีมชุดขาวในช่วงซีซั่น 2019-2020 หลังความพยายามดึงเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาล้มเหลว เว้นเสียแต่ว่า โซลารี่ จะสามารถสร้างปาฏิหารย์นำทีมประสบความสำเร็จจนได้สัญญาระยะยาวตอบแทนความดีความชอบเหมือน ซีดาน 


ส่วนผลงานการคุมทีมของ โซลารี่ ในซีซั่นนี้คือการนำ เรอัล มาดริด กาสตีย่า เกาะอยู่อันดับ 3 ของ เซกุนด้า เบ กลุ่ม 1 มี 19 คะแนนจากการลงเล่น 9 นัด ทำสถิติชนะ 5 เสมอ 4 ยิง 16 ประตู เสีย 7 ประตูตามหลังจ่าฝูง ปอนเฟร์ราดีน่า (21) กับ ซาน เซบาสเตียน เด โลส เรเยส (20) 

'เราเป็นทีมสำรองของ เรอัล มาดริด และผมเป็นเทรนเนอร์ของ กาสตีย่า เราทุกคนต่างเป็นมืออาชีพที่ให้การสนับสนุนสโมสรในช่วงเวลาที่ดีและแน่นอนในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่จะมีแรงหนุนมากขึ้นกว่าเดิม'เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 42 ปีกล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของทีมชุดขาว

เรอัล มาดริด ทำผลงานในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นเลวร้ายสุดนับจากปี 2001 แม้ทัพ'โลส บลังโกส'จะตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลน่า เพียง 4 คะแนน แต่หลุดมาอยู่อันดับ 7 และมีโอกาสถูกทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลุนย่าฉีกหนีเป็น 7 แต้มหลังแมตช์'เอล กลาซิโก้'วันอาทิตย์นี้ 

ทีมชุดขาวของ โลเปเตกี ทำสถิติชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 3 มี 14 แต้มจากการลงเล่น 9 เกมแรก ดีกว่าเฉพาะผลงานช่วงฤดูกาล 2001-2002 ซึ่งเก็บได้เพียง 10 คะแนนจากสถิติชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 3 


เรอัล มาดริด ยุค บีเซนเต้ เดล บอสเก้ หลุดไปอยู่อันดับ 15 หลังการลงเล่น 9 เกมแรกของซีซั่น 2001-2002 แต่สามารถเร่งเครื่องกลับมาจนเข้าป้ายอันดับ 3 โดยมี 66 แต้มจากการลงเล่น 38 นัดตามหลังเฉพาะ บาเลนเซีย (75) กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า (68) เท่านั้น ก่อน เดล บอสเก้ จะแก้ตัวได้ด้วยการนำทัพ'โลส บลังโกส'คว้าแชมป์ลีกาในฤดูกาลต่อมา 

ทว่าสำหรับ โลเปเตกี คงไม่มีเวลาและโอกาสแก้ตัวเหมือน เดล บอสเก้ 

พลิกปูมหลังของ จูเลน โลเปเตกี ยังไม่เคยประสบความสำเร็จในการทำงานระดับสโมสรเพราะช่วงเวลาการเป็นเทรนเนอร์ส่วนใหญ่จะทำงานกับทีมชาติเท่านั้น 

เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์เทรนเนอร์ของ ฆวน ซาสตีสเตบัน ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ก่อนจะย้ายไปคุม ราโย บาเยกาโน่ บนเวทีเซกุนด้า ก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังการคุมทีมลงเล่นในซีซั่น 2003-2004 เพียง 11 นัด ทำสถิติชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 7 


หลังจากนั้น โลเปเตกี ไปรับงานคอมเมนเตเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ช่อง'ลาเซ็กต้า'ในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 ก่อนจะกลับมารับงานเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ในช่วงฤดูกาล 2008-2009 แต่ก็อยู่ได้เพียงปีเดียว 

ลมพัดหวนให้เทรนเนอร์ชาวบาสโก้กลับมาทำงานกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปนอีกครั้ง เขาเริ่มต้นคุมทีมชาติสเปนชุดยู-19 ในช่วงปี 2010-2013 ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี 2012-2014 ยังคุมเด็กกระทิงทั้งชุดยู-19, ยู-20 และ ยู-21 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวความสำเร็จบนเวทียุโรปของทีมชาติสเปนชุดเล็ก 

โลเปเตกี นำทีมชุดยู-19 คว้าแชมป์ยุโรปปี 2012 และนำทีมชาติสเปนยู-21 คว้าแชมป์ยุโรปปีต่อมา โดยคุมทีมกระทิงน้อยคว้าชัยชนะทั้ง 11 เกมที่ลงสนาม 

หลังหมดสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลสเปนในปี 2014 โลเปเตกี ตัดสินใจรับงานระดับสโมสรอีกครั้งหลังตอบรับข้อเสนอจาก เอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งเขาเซ็นสัญญากับ 7 ผู้เล่นใหม่สัญชาติเดียวกันในช่วงซัมเมอร์ดังกล่าว

แต่ก็ไร้ซึ่งความสำเร็จใดๆในการทำงานที่โปรตุเกสปีแรกหลัง ปอร์โต้ เข้าป้ายอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ เบนฟิก้า 3 แต้ม ตกรอบควอเตอร์ไฟนัลของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แม้จะคว้าชัยชนะเหนือ บาเยิร์น มิวนิค ที่'เอสตาดิโอ ดู ดราเกา'ในเกมแรก 3-1 ก็ตาม แต่ถูกทีมเสือใต้ขย้ำขาดลอยในเกมสองด้วยสกอร์ 6-1


ปอร์โต้ ของ โลเปเตกี ล่องจุ๊นตั้งแต่รอบ 3 ของศึก โปรตุกีส คัพ หลังปราชัยคาบ้านต่อ สปอร์ติ้่ง ลิสบอน 1-3 ส่วนรายการ โปรตุกีส ลีก คัพ ดั้นด้นไปแค่รอบตัดเชือกก่อนพลิกพ่าย มาริติโม่ 1-2 

นั่นคือผลงานในช่วงซีซั่นแรกกับ ปอร์โต้ แม้สโมสรจะเปิดโอกาสให้เทรนเนอร์ชาวบาสโก้แก้ตัวในฤดูกาลต่อมา แต่ผลงานย่ำแย่เกินเยียวยา ปอร์โต้ ตกรอบแบ่งกลุ่มของศึก โปรตุกีส ลีก คัพ หลังพ่าย 3 นัดรวดและหลุดมาเป็นอันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นรองทั้ง เชลซี กับ ดินาโม เคียฟ ได้แค่ตั๋วเล่นยูโรปาลีกรอบปลอบใจเท่านั้น 

ความอดทนของสโมสรสิ้นสุดลงหลังเกมพ่าย มาริติโม่ คาบ้าน 1-3 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2016 เพียงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ปอร์โต้ แถลงการณ์แยกทางกับ จูเลน โลเปเตกี โดยแต่งตั้ง รุย บาร์รอส ขึ้นมาคุมทีมชั่วคราว 

หลังว่างงานราวปีกว่าๆ สหพันธ์ฟุตบอลสเปน เลือก โลเปเตกี เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนหลัง บีเซนเต้ เดล บอสเก้ ตัดสินใจอำลาตำแหน่งหลังตกรอบ 16 ทีมของศึกยูโร 2016 

เทรนเนอร์ชาวบาสโก้เข้ามาพลิกโฉมจากกระทิงหงอยขึ้นมาเป็นทีมที่น่ากลัวอีกครั้งจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่รัสเซีย หลังทำผลงานยอดเยี่ยมคุมสเปนลงเล่น 20 นัด สถิติชนะ 14 เสมอ 6 ยิง 61 ประตู เสียเพียง 13 ประตู


ทว่า โลเปเตกี ไปไม่ถึงฝั่งฝันถูกปลดออกจากตำแหน่งกลางคันหลังแอบลักลอบได้-เสียกับทีมชุดขาวลับหลังสหพันธ์ฟุตบอลสเปน 

แต่ช่วงฮันนีมูนของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้กับทีมชุดขาวอาจเกิดขึ้นเพียงสั้นๆราว 5 เดือน หลังทัพ'โลส บลังโก้'ทำผลงานช่วงออกสตาร์ทแย่สุดในรอบ 17 ปี ซึ่งมันก็มีเหตุผลเพียงพอที่ท่านประธานฟลอเรนติโน่จะสั่งเชือดโลเปเตกีเพียงแต่มันจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการวันใดเท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด