ในแง่ความบันเทิงเริงใจย่อมเทียบไม่ได้กับเกมลีกล่าสุดที่รัวแซงชนะเลสเตอร์ซึ่งได้เห็นทั้งรูปแบบการเข้าทำประตูสวยงามเพลินตาและฟอร์มอันร้ายกาจของ เมซุต โอซิล 

แต่ที่เหมือนกันคือ การเป็นผู้ชนะ และยืดสถิติยอดเยี่ยมเพิ่มเป็นนัดที่ 11 ติดต่อกันจากทุกรายการ

อูไน เอเมรี่ ไม่ได้จัดทีมเต็มสูบแม้ขนตัวหลักที่ฟิตสมบูรณ์ไปทุกคน เมซุต โอซิล, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, ชโคดราน มุสตาฟี่, ลูคัส ตอร์เรยร่า และ อเล็กซ์ อีโวบี้ มีชื่อเป็นเพียงสำรอง ส่วน เอคตอร์ เบเยริน ถูกตัดออกจากลิสต์ 18 คนที่ส่งรายชื่อก่อนแข่ง

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กลับมาเป็นตัวจริงในตำแหน่งหน้าเป้า ตัวรุกเลือกใช้ อารอน แรมซี่ย์ รับบทเพลย์เมกเกอร์ตรงกลาง ขนาบข้างด้วย แดนนี่ เวลเบ็ค และ เฮนริค มคิทาร์ยาน พื้นที่มิดฟิลด์รับผิดชอบโดย โมฮาเม็ด เอลเนนี่ และ มัตเตโอ เกวนดูซี่

แนวรับได้ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส หายเจ็บกลับมายืนคู่กับ ร็อบ โฮลดิ้ง ฝั่งขวาเป็น สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ แต่ฝั่งซ้ายมีเซอร์ไพรส์นิดๆ เมื่อ เอเมรี่ เลือกใช้ กรานิต ชาคา 

เหตุผลของกุนซือปืนโตที่เลือกให้กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์อุดรอยโหว่คือ "เรามีปัญหา 2 แบ็กซ้ายบาดเจ็บ เราอาจเลือกใช้ ลิชท์สไตเนอร์ ก็ได้ หรืออีกคนที่อยากทดลองคือ ชาคา เขามีคุณภาพของเท้าซ้ายที่พัฒนาขึ้นได้กับการผ่านบอลและผมต้องการลองแบบนี้"

เป็นไปอย่างที่คาดกับแนวรับที่ไม่สมบูรณ์ อาร์เซน่อลเล่นผิดพลาดในหลายจังหวะจนเปิดโอกาสให้สปอร์ติ้ง ลิสบอน สร้างความหวาดเสียวตลอดครึ่งแรก

แดนนี่ เวลเบ็ค กลายเป็นฮีโร่ของทีมในนัดนี้

ชาคา เปิดบอลขึ้นหน้าได้ดีอย่างที่ เอเมรี่ อยากเห็น แต่คุณสมบัติอื่นในการเล่นแก้ขัดในตำแหน่งใหม่มีค่อนข้างน้อย 

การเคลื่อนที่ช้า ยืนตำแหน่งกั๊กกับเพื่อนร่วมทีม จังหวะเคลียร์บอลขาดๆ เกินๆ และแทบไม่ได้เติมขึ้นมาช่วยเกมรุกในครึ่งแรก 

ส่วน ร็อบ โฮลดิ้ง มีพลาดบ้างในจังหวะจ่ายบอลแม้ภาพรวมจะค่อนข้างโอเค เช่นเดียวกับ โซคราตีส ที่โหม่งวืดในครึ่งแรกจน เฟรดี้ มอนโร่ ของสปอร์ติ้ง สิสบอน เกือบได้หลุดเดี่ยวหากไม่ดึงเสื้อเอาไว้

โซคราตีส และอาร์เซน่อลรอดอีกครั้งในจังหวะนี้เพราะอย่างน้อยต้องได้ใบเหลือง ผู้ตัดสินบางคนอาจถึงขั้นแจกแดงด้วยซ้ำเพราะเป็นตัวสุดท้ายในแนวรับ ถ้าไม่ฟาวล์ก็หมายถึงหลุดไปล่อเป้า แต่ปรากฏว่าผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์ใดๆ ทั้งสิ้น 

ขณะที่เกมรุกขาดความต่อเนื่องและแทบไม่ได้ต่อบอลเข้าถึงเขตโทษของเจ้าถิ่น โอบาเมย็อง ไม่ได้ประจำในพื้นที่สุดท้ายเพราะต้องฉีกออกมาล้วงบอลสร้างโอกาสเองด้วย

เป็นครึ่งแรกที่เค้นฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้เหมือนเกือบทุกนัดของฤดูกาลนี้ ทว่าข้อดีคือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็ไม่เด็ดขาดทั้งที่มีโอกาสมากมาย

หากเอามาตรฐานทุกนัดในฤดูกาลเป็นที่ตั้ง เดอะกันเนอร์สหลายคนไม่ได้ตกอกตกใจมากนักกับฟอร์มการเล่นในครึ่งแรกเพราะเชื่อว่ายังอีก 45 นาทีหลังที่เหมือนเป็นอีกทีม

อันที่จริง การมาเยือนสปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่ใช่งานง่ายของทีมใด ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด "เดอะ ไลอ้อนส์" แพ้คาบ้านเพียงนัดเดียวในทุกรายการในเกมที่พ่ายบาร์เซโลน่าหวุดหวิด 0-1 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส หายเจ็บกลับมาช่วยทีม

หากเราตามข่าวกันในฤดูกาลก่อนจะจำกันได้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เคยถูกแฟนบอลฮูลิแกนของตัวเองบุกสนามซ้อมทำร้ายร่างกายนักเตะมาแล้ว หลายคนต้องร้องขอย้ายทีมเพราะอยู่ไม่ไหว 

แต่ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ พวกเขายังรักษาจุดแข็งกับเกมในบ้านไว้ได้ มีเพียงนอกบ้านที่หลายนัดหลุดฟอร์มน่าเกลียดจนทำให้แฟนบอลหัวรุนแรงเลือดขึ้นหน้าและมาระบายกับนักเตะ

กลับมาที่อาร์เซน่อลกันต่อ ในครึ่งหลัง อูไน เอเมรี่ ปรับทีมจุดแรกถอด โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ออกแล้วส่ง ลูคัส ตอร์เรยร่า ลงมาแทนในแดนกลาง 

เอลเนนี่ ไม่ได้ผิดพลาดอะไรมากมาย เพียงแต่ไม่ได้มีจุดเด่น และจังหวะการเล่นรีบร้อนเกินไป ตอร์เรยร่า ลงมาทำให้สมดุลมากขึ้น อาร์เซน่อลจึงเริ่มคอนโทรลเกมตรงกลางได้ 

ผ่าน 75 นาทีที่สกอร์ยังนิ่ง 0-0 เอเมรี่ ไม่เปลี่ยนตัวเพิ่ม โมเมนตัมตอนนั้นหากได้ผลเสมอถือว่าไม่เสียหาย แค่เสียสถิติชนะรวด 

กุนซือสแปนิชมองออกว่าเกมรับไม่น่าห่วงเหมือนครึ่งแรก ทีนี้ก็ลุ้นแค่ว่าเกมรุกจะเจาะประตูได้หรือไม่ซึ่งครึ่งหลัง อาร์เซน่อลหาโอกาสได้มากขึ้นชัดเจนและมาได้โอกาสแบบมีโชคช่วยจากการสกัดบอลไม่ดีของ เซบาสเตียน โกอาเกตซ ทำให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ปราดเข้าไปกดเต็มข้อสุดแรงตุงตาข่าย

ลูกนี้ต้องชมทั้ง ลูคัส ตอร์เรยร่า ที่เปิดบอลขึ้นหน้าแบบได้เสีย ก่อนมี โอบาเมย็อง สะกิดให้อีกเล็กน้อยจน โกอาเตส กะจังหวะพลาดและถึงขั้นเสียประตู

ประตูเดียวจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ถือว่าเกินพอกับเกมที่สูสีใกล้เคียงกัน ช่วง 10 นาทีสุดท้าย อูไน เอเมรี่ ก็เพียงส่ง อเล็กซองด์ ลากาแซตต์  กับ อเล็กซ์ อีโวบี้ ลงมาขยับแข้งขาและเป็นการขู่แนวรับเจ้าถิ่นไม่ให้เติมสูง

อาร์เซน่อลชนะ 11 นัดติดต่อกันได้สำเร็จ และเป็นอีกนัดที่ครึ่งแรกแค่เอาตัวรอดก่อนปล่อยทีเด็ดในครึ่งหลัง 

จาก 33 ประตูที่ทำได้ในทุกรายการ เป็นการยิงในครึ่งหลังถึง 23 ประตู เทียบเป็น 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว 

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ได้ลงตัวจริงแต่วันนี้ไร้สกอร์

อูไน เอเมรี่ พอใจที่ทีมรักษาความต่อเนื่องในการเก็บชัยชนะได้ แต่ก็ยอมรับว่ายังแก้ปัญหาฟอร์มการเล่นในครึ่งแรกไม่ได้ 

"สำหรับเรา การรักษาผลงานชนะเป็นสิ่งที่ต้องการ แต่เรารู้ว่าไม่ง่ายและมีโอกาสแพ้เช่นกัน เราต้องหาทางออกเพื่อทำผลงานในครึ่งแรกให้ดีขึ้นให้ได้" อดีตกุนซือเซบีย่า กล่าวหลังเกม 

การเลือกมองในจุดที่เป็นปัญหาไม่ได้หมายความว่าชัยชนะที่ได้มาไร้ความหมาย แต่เป็นการสำรวจข้อบกพร่องเพื่อทำให้ดีขึ้น เพราะสิ่งที่ดีก็รักษาเอาไว้ สิ่งที่แย่ก็หาทางปรับเปลี่ยน

อาร์เซน่อล ไม่ได้เล่นดีในทุกนัด ผลงานชนะรวดทำให้คู่แข่งเตรียมตัวมากขึ้นและต่างต้องการหยุดลูกทีมเอเมรี่ให้ได้

ในช่วงปรับจูนฟอร์มการเล่นครึ่งแรกให้ดีกว่าเดิม อาร์เซน่อลถือว่าเอาตัวรอดได้เยี่ยมเพราะสิ่งสำคัญและชี้วัดความสำเร็จก็คือผลการแข่งขัน ต่อให้วันนั้นไม่ใช่วันที่เล่นได้สวยงามที่สุดก็ตาม