ฟุตบอลโลกที่ยังไม่คู่ควร
การสวมวิญญาณเป็น “ช้างตายยาก” ที่ไล่ฮึดจากตามหลัง 0-2 กลับมาแซง 3-2 คือการกระชากรอยยิ้มแฟนบอลไทยได้ ทว่าไทม์ไลน์ไม่ถึง 5 นาทีที่เหลือจากนั้น พวกเขาเลือกทำตั๋วเวิล์ดคัพไปโปแลนด์หลุดมือไปเอง
โอเคหลายคนเลือกปากำลังใจใส่ให้ ผู้เขียนเองก็เช่นกัน แต่ความผิดพลาด รายละเอียดต่างๆที่มีให้เห็นตั้งแต่นัดแรก และค้างคามาคลอด ไม่สมควร “ถูกกลบ” ด้วยคำว่า “ทำดีที่สุดแล้ว”
สกอร์และผลงานในสนามที่บอกผ่านสายตา มันทำให้ผู้เขียนคิดว่า เรายังดีไม่พอจะไปฟุตบอลโลกจริงๆ และสิ่งเหล่านี้คือ เหตุผลเหล่านั้น
เกมรับที่ชวนหยิบก้านมะยมตีขา !
ทีมชาติไทย U19 มีปัญหาให้เห็นมาตลอดในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเฉพาะตำแหน่งกองหลังที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์บ่อยครั้ง ตั้งแต่นัดแรกที่เสมอ อิรัก 3-3, แพ้ ญี่ปุ่น 1-3, ชนะ เกาหลีเหนือ 2-1 และมาถูก กาตาร์ ยำ 3-7 คือคำตอบชั้นดี
ไลน์กองหลังที่ยังเหมือนประสานงานกันไม่เข้าใจ ใช่การรับมือกับกองหน้าระดับเอเชีย หรือทีมที่ได้ไปฟุตบอลโลกมาแล้วคือเรื่องยาก หากแต่ในสถานการณ์บ่อยครั้งที่คู่แข่งใช้โอกาสเพียงไม่กี่จังหวะ มีผู้เล่นเติมมาไม่กี่คน แต่สามารถทำประตูจากเราได้ทั้งที่แนวรับเรายืนกันเต็มไปหมด
บอลทะลุช่อง จังหวะสกัดบอล การมาร์คผู้เล่น หรือตัดสินใจพื้นที่สุดท้าย ตั้งแต่เกมแรกถึงเกมนี้ เราไม่เคยเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นจากเดิม หรือข้อผิดพลาดดังกล่าวได้เลย เกมกับ กาตาร์ คือคำตอบชั้นดี ที่จะตอบแทนตัวหนังสือหน้านี้ได้หมดจด
สมาธิที่หลุดแล้วหลุดอีกในเวทีระดับเอเชีย
ตั้งแต่เกมแรกมายันเกมล่าสุด สารภาพว่าแฟนบอลไทยอย่างเราๆ ไม่เคยหายใจได้ทั่วท้องแม้ทีมจะเป็นฝ่ายออกนำ เพราะเผลอแวบเดียว ความผิดพลาดจากตัวเอง หรือสติในเกมที่พาเตลิดชั่วครู่ ส่งให้ทีมถูกลงโทษอย่างเจ็บแสบ
เกมกับ อิรัก เราออกนำก่อน ทว่าไม่สามารถยืนระยะเกมได้ จนมาถึงยิงรัว 3 ลูกรวด หรือกระทั่งเกมล่าสุดที่พบ กาตาร์ รายละเอียดเกมสมาธิสั้นๆ จากการออกมาบอลพลาด ส่งผลให้ถูกลงโทษอย่างเจ็บแสบ และนั่นเป็นประตูที่ปิด “ความหวัง” และกระชาก “สภาพจิตใจ” ให้หลุดไปกว่าเก่า
ทีมที่เหมาะสมจะไปฟุตบอลโลกอย่างแท้จริง ต้องแกร่งและเล่นให้เนี๊ยบตลอด 90 นาที เพราะในเวทีระดับเอเชีย ไม่มีโควตาให้ทีมที่พลาดแล้วพลาดอีก
แท็กติก !
แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องถูกเอ่ยถึงอีกเรื่องคือ แท็คติก ของ อิสสระ ศรีทะโร กุนซือของทีม
ผู้เขียนขอไม่วิจารณ์ระบบกองหลัง 3 คน ที่ “โค้ชหระ” ชอบมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนำมาใส่ในทีมชุดนี้ ทว่าในรายละเอียดเกมอื่นๆนั้นน่าสนใจกว่า
บ่อยครั้งที่ทีมขึ้นนำ ทว่าโค้ชยังยึดมั่นในรูปแบบเกมเช่นเดิม คือยังเปิดหน้าบุกไม่หยุด หรือผ่อนเกมเพื่อรอจังหวะฉาบฉวย ตั้งแต่เกมที่ขึ้นนำเกาหลีเหนือ จนถูกตีเสมอ เช่นเดียวกับเกมพบ กาตาร์ หลังจากที่แซงนำ 3-2 ทีมชาติไทยยังมีโควตาผู้เล่นสำรองอีก 1 คน ทว่ากลับไม่ถูกส่งลงมาฆ่าเวลา หรือขันเกมรับให้แน่นขึ้น โค้ชยังยึดมั่นในทีมที่มีอยู่ ทั้งที่คู่ต่อสู้มีนักเตะที่สามารถเลี้ยงกินตัวแนวรับไทยได้ 2-3 คน
สุดท้ายรายละเอียดเล็กน้อยจากการทำฟาล์วจนเสียฟรีคิก ทำให้ถูกลงโทษอย่างเจ็บแสบ
…………………………………..
ผิดหวัง ชอกช้ำ แฟนบอลไทย นักเตะ หรือ ผู้เขียนเองก็มีไม่ต่างกัน หวังเพียงว่าเวทีระดับเอเชียครั้งนี้จะทำให้หลายคนเก็บมันมาเป็นประสบการณ์ และ บทเรียนสำคัญ เพื่อสู้ในอาชีพนักฟุตบอลต่อไป ทั้งในระดับทีมชาติ รวมถึง สโมสร
ไม่มีใครเคยไม่ผิดพลาด
ไม่เคยมีใครไม่เคยผิดหวัง
แต่วันนี้สิ่งที่เห็น เรายังไม่คู่ควรกับการได้ไปต่อแค่นั้น