แม้สิงห์บลูส์จะยิง ดาร์บี้ ได้ถึง 3 ประตูในเกมดังกล่าวจนเอาชนะไปได้ในท้ายที่สุดด้วยสกอร์ 3-2 ซึ่งเกินขึ้นในช่วงครึ่งแรกล้วนๆ

    แต่นั่นก็เพราะความผิดพลาดของแนวรับแกะเขาเหล็กเองที่ช่วยกระโดดถีบทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ให้มาได้ถึงขนาดนี้หลังทำเข้าประตูตัวเองถึง 2 ครั้ง

    เท่ากับว่าจาก 5 ลูกที่เกิดขึ้นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ยิงเองได้สกอร์เดียวจาก เชส ฟาเบรกาส นอกนั้นเป็นการซัลโวของลูกทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด เองล้วนๆ

    มันเลยทำให้นึกไปถึงเหล่านักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเข้าประตูตัวเองในพรีเมียร์ลีก

    บางคนถึงขั้นร้อง 'อ๋อ...' แต่บางคนก็ลืมกันไปหมดแล้วว่าพวกเขามีใครกันบ้าง

    เราไปทบทวนกันหน่อยดีกว่าถึงบรรดาแข้งที่ทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดตลอดกาลของประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

    มาร์ติน สเคอร์เทล

    (ลิเวอร์พูล 6 ครั้งจาก 242 เกม)

    มีนักเตะถึง 6 คนที่ซัลโวประตูตัวเอง 6 ลูกนับตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีกในปี 1992 แต่เมื่อมองถึงจำนวนนัดที่ลงเล่นแล้ว ดาวเตะสโลวักลงสนามน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 จากจำนวน 6 คนนั้น

    เซนเตอร์แบ็กรายนี้ถูก ราฟาเอล เบนิเตซ คว้าตัวจาก เซนิต มาเมื่อเดือนมกราคม ปี 2008 และก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของ ลิเวอร์พูล ในทันทีด้วยการจับคู่กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

    ลูกแรกที่เขาทำเข้าประตูตัวเองเกิดขึ้นเมื่อปี 2010 เมื่อเขายิงได้ทั้งสองฝั่งในเกมที่หงส์แดงแพ้ สเปอร์ส 1-2 ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน

    จากนั้น สเคอร์เทล ก็สร้างสถิติโอว์นโกลมากที่สุดต่อหนึ่งซีซั่นในพรีเมียร์ลีก เมื่อถูกบันทึกไว้ถึง 4 ครั้งในปี 2013-14

    แต่เมื่อมองถึงภาพรวมตลอดอาชีพของเขาในถิ่นแอนฟิลด์ ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เมื่อคว้าแชมป์ลีก คัพ ในปี 2012 และปัจจุบันก็เล่นอยู่กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในตุรกี

    แกเร็ธ แม็คออลี่ย์

    (เวสต์บรอมวิช 6 ครั้งจาก 203 เกม)

    ปราการหลังชาวไอร์แลนด์เหนือลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้ เวสต์บรอมวิช ไป 203 เกม โดยยิงได้ถึง 15 ประตูจากระยะเวลา 7 ปี

    ซีซั่นดีที่สุดของ แม็คออลี่ย์ กับเดอะ แบ็กกี้ส์ เกิดขึ้นในปี 2012-13 เมื่อเขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทั้งสโมสร และจากแฟนบอล ด้วยการทำ 3 ประตู

    แต่ก็น่าเสียดาย ที่เขาถูกจับมาติดอันดับในสถิติดังกล่าว เมื่อทำเข้าประตูตัวเองในพรีเมียร์ลีกไปถึง 6 ครั้ง ซึ่งลูกล่าสุดเกิดขึ้นในเกมพบ สเปอร์ส เมื่อเดือนมกราคม ปี 2017

    หลังจากที่หมดสัญญากับ เวสต์บรอมวิช แม็คออลี่ย์ ก็เซ็นสัญญาไปเป็นลูกทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในทีม เรนเจอร์ส

    เจมี่ คาร์ราเกอร์

    (ลิเวอร์พูล 7 ครั้งจาก 508 เกม)

    นี่เป็นกองหลังระดับตำนานคนหนึ่งในถิ่นแอนฟิลด์

    เด็กหนุ่มจากบูเทิ่ลเติบโตมาจากอะคาเดมี่ของสโมสร ก่อนจะก้าวมาเป็นคีย์แมนสำคัญให้กับทีม

    น่าเสียดายที่เขาทำประตูในพรีเมียร์ลีกให้ ลิเวอร์พูล ได้เพียงแค่ 4 ลูกเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าจำนวนตัวเลขที่เขาทำเข้าประตูตัวเองเสียอีก

    แต่ คาร์ร่า ก็ขึ้นชื่อเรื่องความอเนกประสงค์ โดยเขาลงเล่นมาทุกตำแหน่งในแนวรับแล้ว และแน่นอนหัวจิตหัวใจที่พร้อมทุ่มเททะลุหลัก 100% ของเขาไม่เป็นสองรองใคร

    ไม่ผิดหากจะบอกว่าเขาคือกองหลังที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร เนื่องจากมีเพียง 7 นักเตะเท่านั้นที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวนเกมที่มากกว่าเขา

    แซต ไนท์

    (โบลตัน, แอสตัน วิลล่า, ฟูแล่ม 7 ครั้งจาก 284 เกม)

    นี่คือนักเตะที่มีสถิติทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก

    โชคร้ายสำหรับ ไนท์ เมื่อจำนวนการซัลโวประตูตัวเองของเขานั้นเท่ากับที่เขายิงได้ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีตลอดอาชีพค้าแข้ง

    ไนท์ เคยมีช่วงขาขึ้นในเส้นทางค้าแข้งขนาดก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยได้เปิดตัวนัดแรกในสีเสื้อสิงโตเกมพบสหรัฐฯ

    ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักอย่างดีสำหรับแฟนบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อมักจะวนเวียนเล่นกับทีมกลางตารางอย่าง ฟูแล่ม, แอสตัน วิลล่า และ โบลตัน ก่อนจะไร้สังกัดมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งนั่นทำให้อนาคตในนามทีมชาติของเขาดับสิ้นลง

    ริชาร์ด ดันน์

    (เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า, ควีนส์ปาร์ 10 ครั้งจาก 431 เกม)

    นี่คือนักเตะผู้ครองสถิติดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และก็คาดว่าคงยากจะหาใครมาทำลายได้

    กองหลังไอริชวนเวียนเล่นให้กับหลายทีมในพรีเมียร์ลีก แต่สโมสรที่เขาค้าแข้ง และทำเข้าประตูตัวเองด้วยเยอะที่สุดก็คือ แมนฯ ซิตี้ ที่อยู่มาหนึ่งทศวรรษ

    แต่ใช่ว่าเขาจะเก่งแค่เรื่องยิงประตูตัวเองอย่างเดียวซะที่ไหน เมื่อสถิติบันทึกว่าเขาทำได้ถึง 10 ประตูในพรีเมียร์ลีกเช่นกัน

    นอกจากนี้ เขายังครองสถิตินักเตะที่โดนไล่ออกมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกด้วยที่จำนวน 8 ครั้ง (เท่ากับ ปาทริค วิเอร่า และ ดันแคน เฟอร์กูสัน)