:::     :::

5แข้งในใจ'โด้'กับรางวัลบัลลงดอร์2018

วันศุกร์ที่ 02 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
3,226
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ใกล้เข้ามาทุกทีกับรางวัลบัลลงดอร์ 2018 ที่จะประกาศผู้ที่ได้รางวัลไปครองในวันที่ 3 ธันวาคม นี้ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
         หลังจาก 10 ปีแห่งการครองความยิ่งใหญ่ของสองพ่อค้าแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ผลัดกันคว้ารางวัลมาครองในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าปีนี้น่าจะมีการเปลี่ยนมือเกิดขึ้น
         นักเตะ 30 คนที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลได้มีการเปิดเผยชื่อออกมาแล้วไล่ตั้งแต่ เซร์คิโอ อเกวโร่, อาลีสซง, แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, เอดินสัน คาวานี่, ติโบต์ กูร์กตัวส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เควิน เดอ บรอยน์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดีเอโก้ โกดิน, อองตวน กรีซมันน์, เอแด็น อาซาร์, อีสโก้, แฮร์รี่ เคน, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อูโก้ โยริส, มาริโอ มานด์ซูคิช, ซาดิ โอมาเน่, มาร์เชโล่, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, ลิโอเนล เมสซี่, ลูก้า โมดริช, เนย์มาร์, ปอล ป็อกบา, อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ รามอส, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ซัวเรซ, ยาน โอบลัค และ ราฟาแอล วาราน
         แน่นอนว่าชื่อที่ติดโผมานั้นว่ากันตามตรงแล้วมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับการคาดหมายว่าจะคว้ารางวัลอันยิ่งใหญ่ในปีนี้ไปครอง ซึ่งหนีไม่พ้น ลูก้า โมดริช

         บรรดาบ่อนพนันถูกกฏหมายของอังกฤษต่างยกให้กองกลางทีมชาติโครเอเชียเป็นเต็งหนึ่ง ตามด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อองตวน กรีซมันน์, คีลินัยน เอ็มบั๊ปเป้, ลิโอเนล เมสซี่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ เอแด็น อาซาร์ ตามลำดับ
         แต่ในความคาดคิดของ โรนัลโด้ แม้ว่าเจ้าตัวเองก็หวังอยู่ลึกๆว่าจะได้รางวัลนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 6 แต่ก็เผยรายชื่อในใจว่าใครเป็นตัวเต็งสำหรับตัวเขาเอง โดยไม่มีชื่อของ เมสซี่ อยู่ในนั้น!
         ลองไปดูกันว่า 5 คนที่กัปตันทีมชาติโปรตุเกสคิดว่าจะได้ "บัลลง ดอร์" ปีนี้ไปครองมีใครกันบ้าง
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 
สโมสร : ลิเวอร์พูล
ทีมชาติ : อียิปต์

         ฝากผลงานระดับ "มาสเตอร์พีซ" ตั้งแต่ปีแรกในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่แล้วด้วยการตะบัน 32 ลูกจาก 36 เกมในพรีเมียร์ลีก คว้าตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกไปครองอย่างยอดเยี่ยม
         ไม่เพียงเท่านั้นกับฟอร์มการเล่นในเวทีระดับยุโรปที่กดไป 11 ลูกจาก 15 เกมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พา "หงส์แดง" หรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างยอดเยี่ยม แต่โชคร้ายในรอบชิงชนะเลิศโดน เซร์คิโอ รามอส อัดจนบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนทีมลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 
         แต่ด้วยผลงานนี้ก็ทำให้ ซาลาห์ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแอฟริกันคนแรกที่ยิงได้ถึง 11 ลูกในศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปในซีซั่นเดียว
         ซาลาห์ ทำลายสถิติมากมายในซีซั่นที่แล้วกับต้นสังกัดด้วยการเป็นนักเตะที่ยิงมากที่สุดในการลงเล่นในปีแรก 44 ลูก, ยิงประตูในบอลยุโรปมากที่สุด 11 ลูก (เท่ากับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่), ยิงให้ทีมเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเดียว 34 เกม, ยิงประตูในลีกสูงสุดมากที่สุดในปีเดียว 32 ลูก (เท่ากับ เอียน รัช), คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของทีมถึง 7 เดือน
         นอกจากนี้ยังไล่สถิติยิงประตู 10 ลูกในพรีเมียร์ลีกเร็วสุด (13 เกม), ยิงให้ทีม 25 ลูกเร็วสุด (25 เกม), ยิงในพรีเมียร์ลีก 20 ลูกเร็วสุด (25 เกม), ยิงให้ทีม 40 ลูกเร็วสุด (45 เกม) และล่าสุดกับการยิงถึง 50 ลูกเร็วสุด (65 เกม) ในฤดูกาลนี้
         ไม่ต้องแปลกใจหากเจ้าตัวจะมีชื่อติดท๊อป 3 ของตำแหน่งรางวัลบัลลง ดอร์ในปีนี้
ลูก้า โมดริช
สโมสร : เรอัล มาดริด
ทีมชาติ : โครเอเชีย

        ถือเป็นปีทองที่ยากจะมีใครมาหยุดยั้งความแรงของ ลูก้า โมดริช ได้จริงๆ ทั้งผลงานกับสโมสรและในนามทีมชาติ
         สตาร์ทีมชาติโครเอเชียทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งฤดูกาลโดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บ ยืนระยะช่วย เรอัล มาดริด จนก้าวไปคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่
         โมดริช ยังสานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเมศรัสเซียด้วยการพาทีมฝ่าด่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศอย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าสุดท้ายจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส แต่ก็ยังมีรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์มาครอง
         และด้วยสุดยอดของผลงานส่งผลให้เจ้าตัวยังได้รางวัลมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมยูฟ่าประจำฤดูกาลไปครอง รวมถึงรางวัล เบสต์ ฟีฟ่า เมน เพลย์เยอร์ พ่วงด้วยอีกหนึ่งรางวัล
         หากท้ายที่สุดแล้วรางวัลบัลลง ดอร์จะตกเป็นของกองกลางวัย 33 ปีอีกรางวัลก็คงสมควรด้วยประการทั้งปวง
อองตวน กรีซมันน์
สโมสร : แอตเลติโก มาดริด
ทีมชาติ : ฝรั่งเศส

         ทำผลงานได้เป็นอย่างดีมาต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด ก็ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของโลกไปแล้ว
         อองตวน กรีซมันน์ ถือว่าเป็นอีกคนที่ยืนระยะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องเลยนับตั้งแต่ปี 2014 ไม่เคยมีปีไหนที่ยิ่งต่ำกว่าระดับ 25 ลูกต่อไปเลย
         โอเคมันอาจจะไม่โดดเด่นและยิงกระจุยกระจายเหมือนที่ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำได้ระดับ 40-50 ลูก ต่อปี แต่ก็ถือว่าผลงานโดยรวมไม่ได้ด้อยกว่าสักเท่าไร
         และด้วยผลงานปีที่ผ่านมานอกจากจะช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกแล้ว ยังเป็นกำลังสำคัญพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลก 2018 มาครองได้อีกด้วย พร้อมกับได้รองดาวซัลโวเวิลด์ คัพกับนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3 ประจำทัวร์นาเม้นต์
         เปิดซีซั่นนี้ก็ยังช่วยทีมคว้าถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพเหนือ เรอัล มาดริด ได้อีกใบนึงด้วย ผลงานแบบนี้ทำให้อยู่ในโผอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อย่างไม่ต้องสงสัย
ราฟาแอล วาราน
สโมสร : เรอัล มาดริด
ทีมชาติ : ฝรั่งเศส

         หนึ่งในกองหลังที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม เพียงแต่ยามค้าแข้งกับสโมสรเรอัล มาดริด ถูกบดบังด้วยรัศมีของ เซร์คิโอ รามอส
         นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" เมื่อปี 2011 ราฟาแอล วาราน ก็ค่อยๆยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลังของทีม รวมถึงในทีมชาติฝรั่งเศส
         ฤดูกาลที่ผ่านมาก็ถือเป็นปีทองของเจ้าตัวไปแพ้ใครด้วยการช่วยต้นสังกัดคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครอง แต่ก็ยังเป็นพระรองเมื่อได้แค่อันดับสองในตำแหน่กองหลังยอดเยี่ยม เพราะเจ้าของรางวัลยังเป็นเพื่อนร่วมทีมอย่าง รามอส
         จนถึงฟุตบอลโลก 2018 ที่คว้าแชมป์มาครองกับทีมตราไก่ด้วยผลงานยอดเยี่ยมขีดสุด ติดอยู่ในดรีมทีมเวิลด์ คัพ และ ทีมยอดเยี่ยมฟิฟโปร 
         กองหลังคนสุดท้ายที่ได้รางวัลบัลลง ดอร์ไปครองก็คือ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เมื่อปี 2006 ที่พาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์โลก แฟนๆ วาราน ก็คงต้องลุ้นหนักหน่อยหากจะให้เจ้าตัวก้าวเป็นกองหลังคนแรกในรอบ 12 ปีที่ได้รางวัลนี้
คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
สโมสร : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ทีมชาติ : ฝรั่งเศส
        
         ดาวรุ่งที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดของ พ.ศ. นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
         การย้ายมาอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถือเป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่จากที่โดดเด่นหลังจากที่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ โมนาโก ด้วยอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น
         ฟอร์มในฤดูกาลที่ผ่านมาจัดการทะลวง 21 ประตูจาก 44 เกม กับเด็กที่อายุ 18 ย่าง 19 ปี คงต้องลุกขึ้นปรบมือให้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง พร้อมรางวัลส่วนตัวมากมายของลีก เอิง
         และมันยิ่งเฉิดฉายขึ้นอีกกับฟอร์มในทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการยิง 4 ประตู เป็นดาวยิงสูงสุดของทีม (ร่วมกับ อองตวน กรีซมันน์) ช่วยให้ทีมผงาดคว้าแชมป์โลกมาครองอย่างยิ่งใหญ่
         เอ็มบั๊ปเป้ คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์มาครอง พร้อมติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมทั้งในเวิลด์ คัพและทีมของฟิฟโปร 
         ด้วยผลงานขนาดนี้นี่เองทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยกให้เจ้าหนูรายนี้มีลุ้นคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ในปีนี้ไปครอง
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด