:::     :::

มึงต่อยกู กูต่อยมึง

วันจันทร์ที่ 05 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
3,141
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นับจากความพ่ายแพ้ 2 นัดแรกต่อแมนฯ ซิตี้ และเชลซี อูไน เอเมรี่ พาอาร์เซน่อลแก้ตัวด้วยผลงานไร้พ่าย 13 นัด (ชนะ 12 เสมอ 1) จนกระทั่งเจอบททดสอบของจริงอีกครั้งกับลิเวอร์พูล

13 นัดจากทุกรายการที่ผ่านมา โปรแกรมของ "ปืนใหญ่" ไม่ได้เจอทีมกลุ่มนำด้วยกัน ยากสุดคือเกมยูโรปา ลีก ที่บุกเยือนสปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่ก็เฉือนชนะกลับมาได้จากประตูโทนของ แดนนี่ เวลเบ็ค 

การมาเจอหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงเป็นตัวชี้วัดที่ดีว่า อาร์เซน่อล ดีขึ้นมากเพียงใดตลอด 2-3 เดือนที่ เอเมรี่ ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง  

ในหลายฤดูกาลหลัง อาร์เซน่อล มีผลงานไม่ดีนักในการเจอทีม "ท็อปซิกซ์" ด้วยกัน ฤดูกาลที่แล้ว เก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 10 นัดเหย้า-เยือนที่เจอแมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ สเปอร์ส

นอกจากผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังแล้ว หลายต่อหลายนัด อาร์เซน่อล ก็พ่ายอย่างหมดรูป แทบไม่เหลือสภาพการเป็นทีมใหญ่ที่ควรต่อกรคู่แข่งได้สมศักดิ์ศรีมากกว่านี้

ขีดเส้นจำเพาะเจาะจงกับการเจอลิเวอร์พูลยิ่งเห็นภาพชัด 

ใน 6 นัดหลังสุดที่เจอกัน อาร์เซน่อลไม่สามารถเก็บชัยได้เลย (แพ้ 3 เสมอ 3) และที่น่าตกใจคือเสียประตูมากถึง 17 ประตูจาก 5 นัด

ดังนั้นหากสถิติไร้พ่าย 13 นัดจะถูกหยุดลงในการเจอกันครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์

อูไน เอเมรี่ ยังคงยึดมั่นในแนวทางการเล่นของตัวเองกับการจัดแนวรุกที่ดีที่สุดลงเล่น ไม่มีอัดผู้เล่นเกมรับลงเพิ่มเพื่อเน้นปลอดภัยอย่างที่ โชเซ่ มูรินโญ่ มักใช้แท็กติกนี้ 


ลากาแซตต์ กดประตูสุดสวยให้ปืนใหญ่ตีเสมอ 1-1

อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, เมซุต โอซิล และ เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้เล่นตัวจริงด้วยกันเป็นครั้งแรกในยุคของ เอเมรี่ 

การได้แบ็ก 2 แข้งทั้ง เอคตอร์ เบเยริน และ เซอัด โคลาซินัช หายเจ็บลงเล่นได้ ทำให้จัดเกมรับง่ายขึ้น ไม่ต้องฝืนใช้ผู้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดอย่างการให้ กรานิต ชาคา ไปรับบทแบ็กซ้าย

  ก่อนลงสนาม พอล เมอร์สัน อดีตกองกลางอาร์เซน่อลฟันธงแบบไม่เกรงใจทีมเก่าว่า ลิเวอร์พูลจะบุกมายำปืนใหญ่เละคาบ้านแน่ 

ความเห็นของ เมอร์สัน เหมือนกันกูรูอีกหลายคนที่มองว่าสไตล์การเล่นของอาร์เซน่อลอาจเข้าทางลิเวอร์พูล 

ปืนใหญ่เน้นการเซตบอลขึ้นมาจากแนวรับไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูที่ออกบอลสั้นให้ 4 กองหลัง แทบไม่ได้สาดโด่งหากไม่จำเป็น นอกจากนี้ ยังให้แบ็ก 2 แข้งเติมสูง 

การเล่นแบบนี้ถือว่าเสี่ยงหากเจอทีมที่เพรสซิ่งดี หลายนัดที่ผ่านมาปืนใหญ่หวิดโดนลงโทษในเวลาที่คู่แข่งตัดบอลได้ตั้งแต่หน้าเขตโทษ 

ลิเวอร์พูลยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็คือทีมที่ไล่เพรสได้ดีมาก แนวรุก 3 คนมีความเร็วและขยัน พร้อมลงโทษอาร์เซน่อลทุกเมื่อ 

  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามตลอด 90 นาที รวมถึงอีก 5 นาทีของการทดเจ็บก็ทำให้คนที่เคยปรามาสปืนใหญ่ต้องกลืนน้ำลาย 

เกมรุกอาร์เซน่อลต่อบอลได้อย่างมั่นใจ กล้าเล่น กล้าลุย ใช้จังหวะเข้าทำน้อยกว่ายุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่มีประสิทธิภาพและได้ลุ้นประตูอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่หลังบ้านมีโอนเอนไปบ้าง โดยเฉพาะจังหวะเติมขึ้นมาของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่เกือบทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ แต่โดยรวมอาร์เซน่อลรับมือเกมรุกลิเวอร์พูลได้ดีกว่าที่คาด


เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้โอกาสเยอะมากในนัดนี้

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แผลงฤทธิ์ไม่ออกมากนัก ต้องฉีกออกด้านกว้างคอยตักบอลเข้าเขตโทษ ซึ่งก็สร้างประโยชน์ได้มากกว่า

ในอดีตที่ผ่านมาเกมรับอาร์เซน่อลจะออกอาการแกว่งอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอคู่แข่งบี้หนักๆ ยิ่งเป็นเกมในกลุ่มท็อปซิกซ์ด้วยกันยิ่งแข้งขาสั่น แต่นัดนี้ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีมาก 

ร็อบ โฮลดิ้ง เล่นได้ดีขึ้นผิดหูผิดตาในยุคเอเมรี่ ขณะที่ ชโคดราน มุสตาฟี่ ก็สกัดจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง คนที่น่าห่วงอย่าง เซอัด โคลาซินัช ซึ่งต้องรับมือสายสปีดของหงส์แดงก็เอาตัวรอดได้ดี และมีจังหวะเติมเกมรุกช่วยทีม

เอเมรี่ ปรับเกมรับให้มั่นคง แข็งแกร่งมากขึ้น และการมี ลูคัส ตอร์เรยร่า ช่วยตัดเกมหน้าแผงหลัง ก็ช่วยได้อย่างมาก

กองกลางทีมชาติอุรุกวัยหยุดเกมรุกหงส์แดงได้นับครั้งไม่ถ้วน มีเซนส์การเล่นรับโดยธรรมชาติทำให้รู้ว่าจังหวะการเล่นเกมรุกของคู่แข่งและยืนตำแหน่งได้ถูกต้อง 

อาร์เซน่อลไม่มีผู้เล่นแบบนี้มานานมากนับตั้งแต่หมดยุคของ ปาทริค วิเอร่า และ จิลแบร์โต้ ซิลวา 

การทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบของ ตอร์เรยร่า ที่รับตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ยังช่วยให้ กรานิค ชาคา ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองออกมามากกว่าเดิม

ชาคา ไม่ใช่ตัวรับธรรมชาติ แต่ 2 ฤดูกาลแรกกับทีมต้องทำหน้าที่ตัดเกมไปด้วย ผลงานจึงน่าผิดหวังมากกว่าสมหวังเพราะมีชอตพลาดเสียบอลจนถึงขั้นเสียประตูหลายครั้ง เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่พลิกบอลเอาตัวรอดเก่งแต่ต้องอยู่ในตำแหน่งที่เจอภารกิจแบบนี้


กรานิต ชาคา กลับมาลุยแดนกลางอีกครั้งและช่วยทีมได้มาก

แต่พอมี ตอร์เรยร่า ช่วยซ้อน ชาคา จึงเล่นได้ง่ายขึ้น ได้เปิดบอลสั้น-ยาวตามถนัดอย่างมั่นใจ ขณะที่การเล่นเกมรับก็รู้จังหวะเข้าบอลแม่นยำกว่าเดิม 

กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้เล่นที่ผ่านบอลมากสุดในสนาม, เข้าแท็กเกิลมากสุด และแย่งบอลกลับมาครองได้มากสุดอีกด้วย

ครึ่งแรกที่รอดพ้นการเสียประตูและได้เสมอ 0-0 กลับเข้าห้องแต่งตัวเป็นผลการแข่งขันที่อาร์เซน่อลพอใจเพราะ 10 นัดในลีกก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยขึ้นนำคู่แข่งได้เลยแม้แต่นัดเดียว

ที่สามารถอยู่กลุ่มนำอยู่ได้ในตอนนี้คือผลงานในครึ่งหลังที่เหมือนเป็นคนละทีม สถิติทำประตูใน 45 นาทีสุดท้ายได้มากสุดในลีกบ่งบอกศักยภาพตรงนี้เป็นอย่างดี

อูไน เอเมรี่ ทำให้เห็นอีกครั้งว่าต่อให้เสียประตูไปก่อนแต่การเล่นของทีมก็ไม่ได้ดร็อปลงไปเพราะสามารถบุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลในทุกครั้งที่มีโอกาส  

กุนซือชาวสแปนิชแก้เกมได้ผลอีกครั้ง เขาใช้โควตา 2 ตัวสำรองด้วยการเปลี่ยนตัวรุกแทนตัวรุกทั้ง อเล็กซ์ อิโวบี้ และ อารอน แรมซี่ย์ ที่เล่นแทน มคิทาร์ยาน กับ โอบาเมย็อง 

แต่ที่ได้ใจคือสำรองคนสุดท้ายที่กล้าวัดถอดกองหลังอย่าง โคลาซินัช ออกแล้วส่งกองหน้าอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงไปลุยให้รู้ดำรู้แดงไปเลย

เวลเบ็ค ลงมาก่อนได้ประตูตีเสมอ นั่นแสดงให้เห็นเลยว่า เอเมรี่ ไม่กลัวกับการเปิดหน้าบุกมากขึ้นแม้สุ่มเสี่ยงต่อการเสียประตูเพิ่มก็ตาม

ถ้าไม่มั่นใจในแนวทางการเล่นและศักยภาพของลูกทีม ก็คงเลือกส่งผู้เล่นเกมรับลงมาเน้นปลอดภัยไม่ให้เสียประตูอีก 

แต่ เอเมรี่ ไม่ทำแบบนั้น เขายึดมั่นใจสิ่งที่ตัวเองเชื่อ และได้สิ่งที่ต้องการเมื่อตัวสำรองอย่าง อีโวบี้ ลงไปพลิกเกมสำเร็จด้วยการจ่ายทะลุช่องให้ ลากาแซตต์ ตามไปเก็บแล้วหมุนตัวยิงอย่างสุดสวย 

ผลเสมอ 1-1 เป็นสิ่งยุติธรรมดีแล้วเพราะทั้งสองทีมต่างคิดว่ามีโอการสชนะพอๆ กัน โอกาสพลิกไปพลิกมาตลอด 90 นาที และเป็นเกมบิ๊กแมตช์ที่เล่นกันได้สนุก สมการรอคอย 

การได้ 1 คะแนนของอาร์เซน่อลไม่ใช่แค่เรื่องยืดสถิติไม่แพ้ออกไปเป็น 14 นัด แต่แนวทางการเล่นของทีมได้ใจและมีความหวังอย่างมาก

มันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ปืนใหญ่กลับมายืนหยัดสู้กับทีมในกลุ่มนำด้วยกันได้อย่างไม่เป็นรอง ไม่มีหงอ ไม่มีถอดใจง่ายๆ 

สู้ด้วยแท็กติกก็สู้ได้ หรือจะสู้แบบเปิดหน้าแลก ใครดีใครอยู่ก็ไม่กลัว เรียกได้ว่ากล้าถลกแขนเสื้อลุยเข้าใส่ 

มึงต่อยกู...กูก็ต่อยมึงคืน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด