:::     :::

เดนิส ลอว์: เซอร์ แม็ตต์ บอกพวกเราว่า 'ออกไปฆ่าพวกมันซะ'

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,944
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เดนิส ลอว์ 1 ในตำนานนักเตะปิศาจแดง และเป็น 1 ใน 3 ทหารเสือร่วมกับ จอร์จ เบสต์ และ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ซึ่งถือกำเนิดในยุคของผู้จัดการทีมเซอร์ แม็ตต์ บัสบี้

แฟนบอลปิศาจแดงคงรู้จักนามนี้เป็นอย่างดี หลายคนเกิดไม่ทันชมเกมของตำนานรายการ แต่ด้วยผลงานและชื่อเสียงที่ส่งต่อจากอดีต ทำให้แฟนบอลต่างหลงรักชายคนนี้

ตำนานที่ยังมีชีวิตของ ปิศาจแดง ใช้เวลาหลังจากงานการกุศลให้สัมภาษณ์กับตัวแทนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีเรื่องราวในอดีตสมัยที่ย้ายมายัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมไปถึงความทรงจำกับ เซอร์แม็ตต์

ที่สำคัญคือปรัชญาในช่วงยุคปี 60 ที่ถูกปลูกฝังลงในดีเอ็นเอของนักเตะ

อย่าเสียเวลา ลองอ่านความเห็นและมุมมองจากคำถามและคำตอบที่เราถอดความมาให้ ณ บัดนี้



เดนิส คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณย้ายมาร่วมทีมที่แสนวิเศษทีมนี้ในฐานะนักเตะในแผนการการสร้างใหม่ของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ หลังจากโศกนาฏกรรมที่ มิวนิค ผ่านไป 4 ปี?


"อืม ผมรู้จักพื้นที่ของ แมนเชสเตอร์ เพราะผมเคยมาที่นี่พร้อมกับ 'ทีมอื่น' ในช่วงเวลาสั้นๆ! ผมรู้จัก เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ มาก่อนแล้วเพราะว่าเขาเคยทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติสกอตแลนด์ และเขาก็เรียกผมไปเล่นในทีมตอนที่ผมอายุได้เพียง 18 ปี ผมเดินทางไปเล่นให้ โตริโน่ ในอิตาลี และหลังจากที่ผมกลับมาบ้านเพื่อเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์ในเกมกระชับมิตร เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ พูดกับผมว่า 'ใน อิตาลี เป็นไงบ้าง?' ผมตอบไปว่า 'ไม่ดีเลย ... ฟุตบอลแย่มาก' เขาพูดเพียงว่า 'โอเค' ... และมันก็เป็นแบบนั้น ไมกี่เดือนต่อมาเขาดึงผมกลับมา ผมรู้ว่าตนเองกลับมาเพื่อช่วยในการฟื้นฟู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า และแน่นอน มีนักเตะหนุ่มในทีมที่ชื่อ จอร์จ เบสต์ ดังนั้นมันเป็นเพียงเรื่องที่แสนวิเศษที่ได้กลับมาที่นี่"




เพียงปีเดียวที่กลับมา คุณได้ไปเล่นที่ เวมบลีย์ และคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในการเจอกับ เลสเตอร์ ... ความสำเร็จนั้นช่วยในเรื่องของการเริ่มต้นที่ดีใช่หรือไม่?


"นั่นคือการเริ่มต้นในการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าลืมไปว่าในอดีตนั้น เอฟเอ คัพ คือถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ ผมคิดว่ามันคือความปรารถนาของนักเตะทุกคนที่ต้องการลงเล่นรอบชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ สำหรับ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ การคว้าแชมป์บอลถ้วยมันเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเหตุการณ์สูญเสียที่มิวนิค มันคือการเริ่มต้นที่แสนวิเศษในไม่กี่ฤดูกาลเมื่อ ยูไนเต็ด ต้องสร้างทีมจากจุดนั้น"




มีทีมที่แสนวิเศษในยุค 60 และมีนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปทั้งตัวคุณเอง, จอร์จ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน การที่ได้เล่นกับนักเตะที่แสนวิเศษเหล่านั้น มันทำให้เกมของคุณง่ายกว่าเดิมหรือไม่?


"แน่นอนเลยล่ะ คุณกำลังลงสนามเคียงข้างนักเตะที่ดีกว่าคุณ ทำให้เกมง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าปราศจากคนที่เหลือ คุณจะไม่มีทีม และนั่นคือสิ่งที่ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ มีในฐานะผู้จัดการทีม เขามีทีม ใช่ พวกที่ทำประตูดูจะสำคัญกว่า แต่หากปราศจากคนที่เหลือในทีมคุณไม่สามารถทำอะไรได้หลายสิ่ง คุณต้องการผู้รักษาประตูที่ดี คุณต้องการผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังและกองกลาง ... ยกตัวอย่าง น็อบบี้ สไตล์ส ... ผมไม่ชอบเท่าไหร่ที่ต้องมาอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเขา! ดังนั้นมันเป็นงานของทีม และนั่นคือสิ่งที่ แม็ตต์ บัสบี้ ทำ เขาทำให้มันเป็นทีม ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล และทีมนั่นเดินหน้าคว้าแชมป์มากมาย"




คุณคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย และจากนั้นในปี 1967 คุณเข้าร่วมรายการ ยูโรเปี้ยน คัพ อีกครั้ง ซึ่งเป็นเป้าหมายของ เซอร์ แม็ตต์ ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนั้น มีการพูดอะไรในห้องแต่งตัว - ทั้งหมดคือการโฟกัสไปที่ ยูโรเปี้ยน คัพ เพราะ เซลติก เพิ่งคว้าแชมป์ในปี 67 ?


"แน่นอน มันคือทีมจากสกอตแลนด์ทีมนั่นที่เป็นแรกของสหราชอาณาจักรในการคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ อย่างที่ผมย้ำเตือนเสมอว่าทุกคนอยู่ที่นี่ เรามีผู้จัดการทีมที่แสนวิเศษ และทิศทางฟุตบอลที่เราเล่น เซอร์ แม็ตต์ ต้องการให้ทีมบุกและเพื่อให้กองเชียร์ส่งเสียง และเพื่อทำให้ผู้คนสนุกตื่นเต้น และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำ"




เอกลักษณ์ในการพูดในช่วงก่อนเกมของ เซอร์ แม็ตต์ เป็นอย่างไร?


"มันเป็นคำพูดไม่มาก เช่น 'ออกไปฆ่าพวกมันซะ!' อะไรประมาณนั้น ... ไม่มีการพูดคุยของทีมหรืออะไรก็ตาม นักเตะรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาต้องทำ ดังนั้นเราเพียงแค่ออกไปและทำมันซะ และสิ่งหนึ่งคือ ไม่ว่าเกมจะเป็นอย่างไรหรือสกอร์ตอนนั้นเท่าไหร่ เราไม่เคยยอมแพ้จนกว่าผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลา นั่นคือสิ่งที่เราทำทุกๆครั้ง และถ้าหากเราทำได้ 2 ประตู เราก็ต้องการและเดินหน้าทำประตูต่อไปเรื่อยๆ มันไม่สำคัญว่าสกอร์เท่าไหร่ ตราบเท่าที่คุณกำลังต่อสู่ใน 90 นาที ... ผมไม่สนใจว่าคุณกำลังเล่นกับใคร ถ้าคุณไม่สู้ คุณจะหงายหลังไม่ว่าเจอกับทีมไหน มันไม่สำคัญว่าพวกเขาอยู่ดิวิชั่นอะไร ตราบเท่าที่คุณสู้ คุณมีโอกาส"



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด