:::     :::

ครั้งหนึ่งที่ยูไนเต็ดกับ "นานี่"

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,298
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เพิ่งผ่านพ้นวันเกิดครบรอบ 32 ปีหมาดๆ กับดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส อย่างนานี่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดของเขา จึงทำบทสัมภาษณ์พิเศษออกมา เป็นการระลึกความทรงจำถึงเขา ที่เคยผ่านการคว้าแชมป์กับทีม ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และสโมสรโลก อย่างละสมัย

แม้ว่าปัจจุบัน เจ้าตัวพร้อมกับกลับไปรับใช้ต้นสังกัดแรกในอาชีพอย่างสปอร์ติ้ง ลิสบอน และสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมด้วย แต่ก็ยังมีความทรงจำดีๆมากมาย ที่พร้อมจะเล่าสู่กันฟัง สมัยเป็นนักเตะของพลพรรค "ปีศาจแดง"

คุณเคยกล่าวเอาไว้ สมัยย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การที่ย้ายมาเล่นร่วมกับซูเปอร์สตาร์มากมาย ย้อนเวลากลับไป คุณรู้สึกกับมันอย่างไรบ้าง ?

"มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผมเลย แน่นอนว่า ผมรู้สึกตื่นเต้น แต่มันก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน เพราะคุณจำเป็นต้องปรับตัวอย่างหนัก"

"ผมไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษ อาหารการกินก็แตกต่างออกไป แม้แต่การขับรถยนต์ในเลนถนนที่แตกต่าง ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เพราะครอบครัวของผมอยู่ที่โปรตุเกส"

"ขณะเดียวกัน ผมก็โชคดีมากๆ เพราะมีเพื่อนร่วมทีมอย่างอันแดร์สัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และโค้ชอย่างคาร์ลอส เคยรอซ เราต่างพูดกันเป็นภาษาโปรตุกีส ผมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทีละเล็กทีละน้อย ผ่านการสนทนากับโรนัลโด้ และคาร์ลอส"


คุณจำอะไรได้บ้าง เกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลตามท้องถนนในอมาดอร่า ประเทศโปรตุเกส (บ้านเกิดของนานี่) ?

"ย้อนกลับไปตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมคิดถึงแต่เรื่องของฟุตบอลเท่านั้น ผมตื่นนอนเร็ว และออกไปเล่นฟุตบอลด้านนอก ผมไม่ได้กลับมากินอาหารกลางวันด้วยซ้ำ พร้อมกับเล่นฟุตบอลจนหมดวันเลย"

"มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม แต่บางครั้ง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผมเติบโตมาในสถานที่ที่ยากลำบาก มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นที่นั่น"

"ผมจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่ง เพื่อให้แน่ใจว่า ผมจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ผมต้องไม่ฟุ้งซ่าน และหันเหไปในทิศทางอื่น ผมเป็นคนที่โชคดีนะ ที่โฟกัสแต่เรื่องของฟุตบอลเท่านั้น"

คุณมีความเชื่อหรือเปล่าว่า คุณจะสามารถก้าวมาเป็นนักฟุตบอลได้ ? 

"มันเป็นความฝันของผมเสมอมา พี่ชายของผมอย่างเปาโล โรแบร์โต้ คือคนที่นำผมสู่โลกของฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก เขาถือเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และเก่งสุดในย่านที่เราเติบโต"

"พี่ชายคอยสอนผมในทุกอย่าง คุณพ่อของผมอยู่ที่แคปเวิร์ด ในตอนนั้น และไม่ค่อยกลับมาที่ประเทศโปรตุเกส มากนัก ดังนั้น พี่ชายจึงเหมือนกับพ่อคนที่สองของผม เขาเป็นแรงบันดาลใจของผมเลยล่ะ"


คุณมีชื่อเสียงในเรื่องของฝีเท้า คุณใช้เวลาเรียนรู้ และฝึกฝนเทคนิคอย่างไร ? 

"ใช่แล้ว ผม และเพื่อนๆ ฝึกฝนตามท้องถนน เราพยายามดูนักเตะที่ยอดเยี่ยมผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ และพยายามเลียนแบบพวกเขาเหล่านั้น"

"ผมจำได้ว่า นั่งดูโรนัลโด้ (R9) และหลุยส์ ฟิโก้ สมัยที่พวกเขาเล่นให้กับสโมสรอย่างบาร์เซโลน่า ทักษะทำให้คุณเกิดความมั่นใจในการเล่นฟุตบอล แต่ที่เหลือ คุณจำเป็นต้องฝึกฝนกับสโมสร"

"ส่วนตัวผมโชคดีมากที่ได้ร่วมทีมอย่างสปอร์ติ้ง ลิสบอน เพราะสโมสรสอนผมเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง พร้อมกับคอยดูแลผมเป็นอย่างดี"


ช่วยพูดถึงชีวิตวัยเด็กที่สปอร์ติ้ง ลิสบอน หน่อยซิ ? 

"ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย ขณะที่อยู่ที่นั่น มีคนคอยอธิบายให้ฟังเสมอ ในเรื่องที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยทำให้ผมเลือกในทางที่ถูกต้อง และไม่ให้ไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ดี"

"คนที่สโมสรสปอร์ติ้ล ลิสบอน คอยพร่ำสอนผมในสิ่งที่ถูกที่ควร โดยเฉพาะเรื่องในสนามแข่งขัน ผมขอบคุณแรงสนับสนุนของพวกเขาเสมอมา

คุณเคยไปเยือนสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สมัยที่เล่นกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน คุณเคยคาดคิดมาก่อนหรือไม่ว่า คุณจะได้กลายมาเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ? 

"ผมจำได้ว่า การเยี่ยมชมครั้งนั้น ผมเดินทางมากับเพื่อน เรามีโอกาสเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และก็ตัวสนาม ผมจำได้เสมอเลยว่า ตัวเองเคยนั่งในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยนะ"

"ผมกับเพื่อนพูดกันว่า -ว้าว .... นี่มันเป็นที่นั่งของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยนะ !! นอกจากนี้ เวย์น รูนี่ย์ และไรอัน กิ๊กส์ ก็ยังนั่งตรงนี้ด้วย-"

"เรายังพูดกันอีกว่า -ลองจินตนาการดูซิ ถึงการเป็นส่วนหนึ่งของห้องแต่งตัวนี้ ในสักวันหนึ่ง- หลังจากนั้น 2 ปี ผมก็ได้ย้ายมาร่วมทีมจริงๆ !!"


การเล่นให้กับแมนเขสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นความฝันของคุณเสมอ ?

"มันเป็นเพียงแค่ความฝันจริงๆ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เลย จนกระทั่งมันมาถึงจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ตอนที่ผมเซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีม เพื่อนคนที่มาเยี่ยมชมสโมสรกับผมในครั้งนั้น เดินทางมาในวันเซ็นสัญญกับผมด้วย"

"เราต่างหัวเราะกันออกมา ถึงบทสนทนาที่เราเคยพูดกันในห้องแต่งตัว มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก สำหรับการได้มาเป็นนักเตะของสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด