'มันเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก'มาซินโญ่ อดีตแข้งทีมชาติบราซิลกล่าวถึงสถานภาพในทีมอาซูลกราน่าของลูกชาย ราฟินญ่า 'เขาไม่เข้าใจอะไรเลย (เกี่ยวกับเหตุผลที่เขาไม่ได้ลงเล่น)'

ราฟินญ่า ใช้เวลาช่วงครึ่งฤดูกาลหลังด้วยการย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นที่ผ่านมาหลังฟื้นตัวจากการเจ็บเข่า มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมีโอกาสลงเล่นกับทีมงูใหญ่สม่ำเสมอ แต่ทีมเนรัซซูร่าไม่พร้อมจ่ายเงิน 35 ล้านยูโรเพื่อเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะ 

มิดฟิลด์วัย 25 ปีหวนคืนสู่'คัมป์ นู'ในช่วงปรีซีซั่นพร้อมความหวังที่จะลงหลักปักฐานในทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่าหลังการอำลาสโมสรของ อันเดรส อีเนียสต้า เนื่องจากเป็นนักเตะเล่นสามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์และแนวรุก แต่ปรากฎว่าเขามีส่วนร่วมเพียง 4 จาก 12 เกมแรกของซีซั่นนี้จนพ่อนักเตะต้องออกมาโวยวายและเตรียมมองหาทางออกให้ลูกชายย้ายทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ 

'โค้ชคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ลงเล่นและความจริงก็คือเราต้องพยายามจะทำให้ ราฟา กลับมาเล่นอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง'

'ที่ บาร์เซโลน่า เขาได้โอกาสลงเล่น 3 เกมติดต่อกันจากนั้นก็ถูกดร็อบ โค้ชมีแนวทางการทำงานในหัวของเขา แต่สำหรับ ราฟา เขามีช่วงปรีซีซั่นที่ดีมากและมีเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่เข้าใจยาก'

'เราต้องมองหาทางออกเพราะมันมีความยุ่งยากซับซ้อนมากที่นี่ มันเป็นเรื่องจริงที่ตลอด 2 ปีนี้ เขาลงเล่นน้อยมากและต้องการสโมสรที่จะทำให้เขาลงเล่น 30 หรือ 40 เกมต่อฤดูกาล'

'เขาขาดความต่อเนื่องในเกมมาเป็นเวลานาน เราจะไม่ตัดสิทธิ์ในการย้ายทีมช่วงเดือนมกราคมนี้และมีหลายสโมสรแสดงความสนใจ'

'บาร์เซโลน่า ยินดีเปิดไฟเขียวให้ย้ายทีมและนักเตะก็มีความสุข ดังนั้นพวกเราจะทำงานร่วมกัน'มาซินโญ่ ร่ายยาว

ราฟินญ่า เกิดที่เมือง เซา เปาโล ก่อนจะย้ายมาอยู่กับทีมเยาวชนของทัพอาซูลกราน่าตั้งแต่อายุ 13 และลงประเดิมเกมอาชีพกับ บาร์เซโลน่า เบ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2011 จากนั้นจึงได้โอกาสลงประเดิมกับทีมชุดใหญ่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันหลังถูกส่งลงสนามแทน เชส ฟาเบรกาส ช่วง 15 นาทีสุดท้ายในศึก โกปา เดล เรย์ กับ โอสปีตาเล็ต 

ด้วยเหตุที่ไม่สามารถสอดแทรกเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้อย่างที่คาดหวัง ราฟินญ่า ถูกปล่อยตัวไปเล่นกับ เซลต้า บีโก้ ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงฤดูกาล 2013-14 ในช่วงที่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ยังเป็นนายใหญ่ที่บาไลโดส ซึ่งมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนทำผลงานดียิง 4 ประตูจากการลงเล่นลีกา 32 เกม ก่อนหวนคืนสู่ถิ่น'คัมป์ นู'พร้อม เอ็นรีเก้ ที่ถูกดึงมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของทัพอาซูลกราน่าต่อจาก เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ 

ราฟินญ่า มีส่วนร่วมกับทีมอาซูลกราน่าในช่วงซีซั่นแรกยุค เอ็นรีเก้ โดยลงเล่น 24 เกม ยิง 1 ประตูบนเวทีลีกา แต่ขาดความต่อเนื่องหลังบาดเจ็บหนักถึงขั้นเอ็นเข่าขวาฉีกขาดในการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกกับ โรม่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2015 จนต้องปิดเทอมยาว 6 เดือน 

หลังฟื้นตัวจากการบาดเจ็บดังกล่าว ราฟินญ่า กลับมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่าอีกครั้ง เขาทำผลงานดีด้วยการยิง 6 ประตูจากการลงเล่นลีกา 18 เกมในช่วงฤดูกาล 2016-17 แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังเกมกับ กรานาด้า ในช่วงเดือนเมษายนและพักยาวจนกระทั่งถึงสิ้นปี ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคมปี 2018

ราฟินญ่า เป็นมิดฟิลด์ประเภท'ไฮบริดจ์'สามารถเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่ยังทำได้ดีไม่ทั้งสองรูปแบบและยังขาดความสม่ำเสมอ บางนัดเล่นดี หลายเกมเล่นแย่จึงไม่ได้เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ 

ดังนั้น มาซินโญ่ จึงต้องมองหาทางออกให้ลูกชายด้วยการหาทีมใหม่ในช่วงเดือนมกราคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายทีมแบบยืมตัวหรือถาวร ซึ่งมีโอกาสที่จะย้ายกลับมาเล่นที่อิตาลีอีกครั้งหลังตกเป็นเป้าสนใจของ โรม่า 

ทั้ง เป๊ป เซกูร่า ผู้จัดการทั่วไปและ เอริก อบิดาล เลขาธิการฝ่ายเทคนิคกำลังทำงานร่วมกับ บัลเบร์เด้ ในการผ่องถ่ายนักเตะที่อยู่นอกเหนือแผนการทำทีมของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ ทั้ง ราฟินญ่า, เดนิส ซูอาเรซ, มูนีร์ เอล อัดดาดี้, เซร์จี้ ซามเปร์ หรือแม้แต่กองหน้าค่าตัวแพงอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ 

มูนีร์ กองหน้าวัย 23 ปี เป็นอีกหนึ่งเด็กปั้นจากศูนย์ฝึก'ลา มาเซีย'ที่ไม่สามารถลงหลักปักหลักกับทีมชุดใหญ่เหมือน ราฟินญ่า เขาเคยย้ายไปเล่นกับ บาเลนเซีย และ อลาเบส ด้วยสัญญายืมตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่อหวนคืนสู่ถิ่น'คัมป์ นู'ก็กลับเข้าวงจรเดิมเป็นเพียงตัวสำรองอดทนเท่านั้น 

หนุ่มมูนีร์ เคยตั้งความหวังไว้ว่าจะมีโอกาสลงเล่นมากขึ้นหลังสโมสรปล่อย ปาโก้ อัลกาเซร์ อีกหนึ่งคู่แข่งแย่งตำแหน่งย้ายไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัว แต่กองหน้าวัย 23 ปีได้เล่นบ้างเป็นบางครั้ง ทว่ามันยังไม่เพียงพอกับที่เจ้าตัวต้องการ ขณะเดียวกันนักเตะยังเหลือสัญญาอยู่กับทีมจนถึงช่วงเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น 

แม้ว่าบาร์เซโลน่าจะพยายามสร้างแรงจูงใจให้นักเตะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ด้วยการเพิ่มค่าเหนื่อยเป็นสองเท่าก็ตาม แต่มันยังไม่สามารถโน้มน้าวให้หนุ่มมูนีร์ฝากอนาคตระยะยาวกับสโมสร เนื่องจากกองหน้าเชื้อสายโมร็อกโกต้องการโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอ 

ดังนั้นทางออกที่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายคือการย้ายสังกัดในช่วงเดือนมกราคมนี้ ทีมอาซูลกราน่าจะได้เงินตอบแทนกลับมาส่วนหนึ่งดีกว่าเสียนักเตะฟรีๆในช่วงซัมเมอร์ ขณะที่มูนีร์จะได้โอกาสลงเล่นอย่างที่ปรารถนากับทีมใหม่ 

สำหรับ เดนิส ซูอาเรซ มีข่าวว่าตัวแทนนักเตะกำลังเจรจากับ โรม่า และ อาร์เซน่อล เกี่ยวกับอนาคตของมิดฟิลด์วัย 24 ปีที่กลายเป็นเพียงตัวสำรองอดทนนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แมนฯซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 

หนุ่มเดนิสมีความฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทัพอาซูลกราน่าและประสบความสำเร็จร่วมกับสโมสรเหมือนแข้งรุ่นพี่ๆอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ หรือ อันเดรส อีเนียสต้า ทว่าฝันของเขาไม่ใกล้เคียงกับความจริงแม้แต่น้อย โดยมีโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่รวมกันเพียง 64 เกม 

หลายครั้งที่ทีมโรเตชั่นสับเปลี่บนหมุนเวียนนักเตะลงสนาม บัลเบร์เด้ ยังเลือก ราฟินญ่า หรือ การ์เลส อาเลนญ่า ดาวรุ่งจาก บาร์เซโลน่า เบ ลงเล่นก่อน เดนิส ซูอาเรซ ด้วยซ้ำ ดังนั้นนักเตะจึงต้องมองหาอนาคตกับทีมอื่น 

นอกจากการเจรจากับทัพหมาป่าและทีมปืนโตตามที่ตกเป็นข่าวแล้ว มิดฟิลด์วัย 24 ปียังมีอีกหลายทางเลือกหากไม่ต้องการย้ายออกนอกสเปนก็ยังมีทั้ง เรอัล เบติส, บาเลนเซีย กับ เซลต้า บีโก้ ที่แสดงความสนใจนักเตะเช่นเดียวกัน

รายถัดมาคือ เซร์จี้ ซามเปร์ มิดฟิลด์วัย 23 ปีที่เข้ามาอยู่ศูนย์ฝึก'ลา มาเซีย'ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกเมื่อปี 2013 ทว่า ซามเปร์ ไม่สามารถปรับสถานะจากการเป็น'ดาวรุ่ง'ตั้งแต่การลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2014 ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เขาเคยถูกปล่อยไปเล่นกับ กรานาด้า และ ลาส ปัลมาส ด้วยสัญญายืมตัวก่อนหน้านี้ด้วย 

อีกปัญหาที่สกัดกั้นการก้าวหน้าของหนุ่มซามเปร์คือการบาดเจ็บที่ตามรังควานมิดฟิลด์วัย 23 ปีมาโดยตลอด ดังนั้น ซามเปร์ จึงต้องมองหาทุกทางที่จะสามารถช่วยสานต่ออาชีพค้าแข้งของตนเองต่อไปในอนาคตข้างหน้าและแน่นอนการย้ายทีมด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคมนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด 

คนสุดท้ายที่ต้องเอ่ยถึงคือ อุสมาน เดมเบเล่ กองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสวัย 21 ปีที่ บาร์เซโลน่า ลงทุนซื้อมาจาก ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวแพงมหาศาล 105 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 40 ล้านยูโร 

แต่เด็กชาวเมืองน้ำหอมมีปัญหาเรื่อง'ทัศนคติ'ขาดความรับชอบผิดแบบมืออาชีพจนมีข่าวว่า บาร์เซโลน่า พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแม้ว่าการปล่อยเดมเบเล่ออกจากถิ่น'คัมป์ นู'จะทำให้พวกเขาขาดทุนบานเบอะก็ตาม โดยมีสองทีมดังเมืองผู้ดีทั้ง ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล สนใจนำเด็กคนนี้ไปปรับ'ทัศนคติ'แทน 

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ จอร์ดี้ เมสเตร้ รองประธานสโมสร, เป๊ป เซกูร่า ผู้จัดการทั่วไปและ เอริก อบิดาล เลขาธิการฝ่ายเทคนิคว่าจะให้โอกาส เดมเบเล่ แก้ตัวหรือปล่อยเด็กเจ้าปัญหารายนี้ออกจากถิ่น'คัมป์ นู'

ส่วน โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังกระดูกเปราะที่ใช้เวลาในห้องพยาบาลมากกว่าบนสนามก็มีโอกาสถูกปล่อยตัวออกจากทีมเช่นเดียวกัน หากทีมอาซูลกราน่าประสบความสำเร็จในการดึงผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟเข้ามาทดแทนกองหลังชาวเบลเจี้ยน 

นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในถิ่น'คัมป์ นู'ช่วงเดือนมกราคมนี้