แมน : สวัสดีครับเจ

ชนาธิป : ครับพี่แมน

แมน : ว่าจะถามเจเรื่องนี้อยู่ ตอนที่้เจยิงประตูมาเลเซีย ตอนไปเยือน นัดชิงซูซูกิ คัพ 2014 นั่นใช่สนามบูกิตจาลิล หรือเปล่านะ เจจำได้มั้ย อยากจะถามว่าบรรยากาศกองเชียร์ที่นั่นสามารถกดดันนักเตะฝั่งเราได้เยอะปะ มันมีความยากกว่าการไปเยือนสนามอื่นๆ มั้ย

ชนาธิป : จำได้พี่ ใช่ครับสนามบูกิตจาลิล ถ้าถามว่ากดดันเราได้มั้ย ผมเล่นไม่มีความกดดันนะครับ เพราะเรามั่นใจมาก และเราไม่เคยมีความคิดว่าจะแพ้ด้วย เราคิดแต่่ว่าเราชนะได้แน่นอน 

แมน : แล้วคิดว่าฟอร์มของทีมชาติไทยในรอบแบ่งกลุ่มซูซูกิคัพ ครั้งนี้เป็นไงบ้าง

ชนาธิป : ผมว่าด้วยสไตล์โค้ชแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ราเยวัชเขาเกมรับค่อนข้างดีมาก และใช้โอกาสค่อนข้างดี เพราะราเยวัชเขาซ้อมเกมรับเยอะมาก ก็เป็นสไตล์ของเขาล่ะครับ

แมน : ฟอร์มของแคมป์ สรรวัชญ์ (เดชมิตร) นี่เด่นเลยนะ

ชนาธิป : ใช่ พี่แคมป์นี่นา เขาเป็นผู้เล่นที่เซนส์บอลดีมาก แล้วก็จ่ายบอลดี ถ้าเล่นกับแกเนี่ยแล้วปล่อยให้แกมีเวลาให้เล่นให้คิดเยอะ แกจะออกบอลดี แต่ถ้าเล่นกับแกแล้วเพรสซิ่งแกเยอะๆ อะ การตัดสินของแกก็จะจ่ายบอลได้ไม่ถนัด

แมน : คือถ้าโดนเข้าเพรสเร็วๆ ในเอเชียก็น่าจะยากกว่านี้ล่ะเนาะ

ชนาธิป : มันก็อาจจะเทียบไม่ได้เพราะว่าพี่แคมป์เขาเป็นนักเตะที่ฉลาด เขาไม่ค่อยปะทะ แต่เขาเป็นคนที่จ่ายบอลดี คล้ายๆ โอซิล อะ สไตล์นั้น เอาง่ายๆ สไตล์คล้ายๆ  มาริโอ ยูรอฟสกี้ เนี่ยแหละ คล้ายกันเลย เป็นนักฟุตบอลที่แบบใช้สมอง

แมน : เออจริงแฮะคล้ายๆ กับ มาริโอ เลย แบบนี้ถ้าเกิดเจต้องเล่นด้วยกันกับแคมป์ กองกลางก็ต้องหายไปคนหนึ่งรึเปล่า

ชนาธิป : ดูแล้วโค้ชอาจจะจับผมไปเล่นด้านข้าง เพราะเขาชอบจับผมไปยืนด้านข้างหรืออาจจะเป็นหน้าเป้าคู่มั้งครับ มันก็คนละสไตล์ของโค้ชอยู่แล้วครับ เราก็ต้องปรับตัวเข้าหาโค้ช เพราะโค้ชเขาคงไม่มาปรับตัวเข้าหาเราหรอก เพราะบอลมันเล่นเป็นทีม

แมน : แล้ว "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด เป็นไงบ้าง ใจเด็ดสมชื่อเลยมั้ย

ชนาธิป : โหย ก็อย่างที่ผมเคยบอก ตอนนั้นที่ผมโพสต์ชมอะครับ ว่าเขาเป็นนักเตะที่เบสิกดีแล้วก็เก็บบอลดีอะครับ อืม... เก่งเนาะ ผมว่าอนาคตนี่คือแบบเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง อาจจะได้อนาคตไกลเลย

แมน : เนอะ เขาเพิ่งจะ 19 เองอะ แล้วเดี๋ยวอีกสัก 3-4 ปีนี่คงจะเก่งขึ้นอีกเยอะเลย

ชนาธิป : โอ้โห ถ้าปีหน้ามีโอกาส อยากได้ไปญี่ปุ่นได้ก็ไปเลย

แมน : ญี่ปุ่นนี่ต้องไปตั้งแต่อายุน้อยๆ เลยเนาะ

ชนาธิป : ถ้าไปเร็ว อนาคตมันก็อาจจะสดใสกว่าครับ

แมน : ถามถึงวันที่ 1 ธ.ค. นี้หน่อยดิ เจอกับมุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) พอดีเลย เป็นเกมตัดสินกันเลย

ชนาธิป : ผมก็ต้องทำเพื่อทีม พี่มุ้ยก็ต้องทำเพื่อทีม แต่ว่าจริงๆ ผมก็เป็นกำลังใจให้พี่มุ้ยตลอดมา คือก็อยากให้เขาได้แชมป์อะตอนนั้น ส่วนผมก็มีหน้าที่เราต้องไปเอซีแอล แต่พอมันตัดสินกันแมตช์สุดท้าย คือผมก็ต้องเต็มที่ มันก็เป็นปกติของนักฟุตบอลอาชีพแหละครับ

แมน : พูดจริงๆ ไม่ได้จะอวยนะ พี่ว่าช่วงประมาณ 4-5 นัดหลัง ดูแล้วทีมซัปโปโรเล่นเนียนตากว่าแต่ก่อนเยอะเลย ต่อบอลเล่นกันเจ มันไม่ค่อยมีจังหวะตะกุกตะกักเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ชนาธิป : ก็อาจจะด้วยทุกคนเริ่มมั่นใจ แต่ผมก็ยังติดเกรงใจเพื่อนอยู่เหมือนเดิม เวลาจะยิงเอง บางทีเราก็กลัวเขาด่าเรา

แมน : ยังด่าอยู่อีกหรอ

ชนาธิป : ก็ไม่ด่าหรอก แต่สไตล์คนอื่นเขาก็อาจจะเรียกบอลไรเงี้ย แล้วเราก็แบบติดนิสัยที่ไม่ได้คิดที่จะยิง คิดแต่จะจ่าย นอกจากมันจะแบบมีมุมจริงๆ แต่ทุกนัดมันก็เหนื่อยพี่ คือมันต้องวิ่งเยอะไง อยู่นี่ฟุตบอลมันไวอะ มันไวแบบไวมากๆ

แมน : พี่ดูอยู่ทุกเกมแหละ นัดที่แล้วก็ดูทางTrue4u อยู่ ปีนี้พี่ว่าเจดีขึ้นกว่าปีที่แล้วเยอะเลยนะ

ชนาธิป : ปีที่แล้วมีหน้าที่วิ่งลงไปรับอย่างเดียวเลย หน้าที่ผมก็พอช่วยได้ เราก็ทำตามที่โค้ชสั่ง เล่นเกมรับรอโต้ ตอนนี้รูปแบบมันเปลี่ยนไป คือโค้ชเขาเก่งจริงคนเนี้ย ผมเองก็ได้ร่วมงานโค้ชมาหลายๆ คนที่เป็นต่างประเทศ แต่ละคนก็สไตล์ต่างกัน แต่โค้ชคนนี้ไม่เหมือนทุกคนที่เคยซ้อมมา พอผมพูดไปไม่มีใครเชื่อหรอกว่าฟุตบอลมันไปได้แค่ไหน มันมีอะไรมากกว่านั้นอะ ผมก็ไม่สามารถบอกได้หรอก ต้องมาซ้อมเองได้มาสัมผัสด้วยตัวด้วยตาตัวเองถึงจะรู้

แมน : แล้วซ้อมฟรีคิกเป็นยังไงบ้าง น่าจะใกล้ๆ ได้ยิงบ้างหรือยัง

ชนาธิป : คือ ฟุกุ (อากิโตะ ฟุกุโมริ) เขาบอกว่าเขาเริ่มยิงไม่ค่อยได้แระ เดี๋ยวเปลี่ยนให้เป็นชนาบ้าง (หัวเราะ) ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะได้ยิงหรอก แต่เราก็ซ้อมให้มันชำนาญแหละครับ

แมน : แล้วซ้อมเป็นไงบ้าง ดีเปล่ายิงฟรีคิก 

ชนาธิป : ก็ไม่มีใครซ้อมเลยนอกจากผมกับฟุกุ 

แมน : เดี๋ยว นิว ฐิติพันธ์ (พ่วงจันทร์) จะไปญี่ปุ่นอีกคน ได้แนะนำอะไรเพื่อนเราบ้างหรือยังว่าจะต้องไปเจออะไรบ้าง

ชนาธิป : เขามาชัวร์ยังอะ

แมน : ยังไม่ได้คอนเฟิร์ม 100% แหละ แต่เห็นคุณ ปวีณ (ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี) แกบอกว่าไปญี่ปุ่นน่าจะชัวร์แระ อาจจะยังไม่ใช่เซเรโซ่ โอซาก้า แต่เซเรโซ่เขาเป็นพันธมิตรกันไง ก็เลยอาจจะเป็นตัวเลือกแรก

ชนาธิป : ถ้าชัวร์ว่านิวมา นิวก็กำลังฟอร์มดี เป็นช่วงที่ดีที่สุด น่าจะต้องมาแล้วแหละ แล้วนิวก็ร่างกายแข็งแรง เล่นรับก็ได้รุกก็ได้

แมน : ถ้าไม่ได้ไปเสียดายแย่เลย

ชนาธิป : ถ้าไม่ได้ไปมันก็เสียโอกาส สำหรับอายุเราก็จะมากขึ้น แล้วถ้าเรารีบออกมา นิวออกมาอย่างเนี้ย เขาก็สามารถตัดสินใจเอาคนอื่นมาอีกได้ ตามนิวมาอีก

แมน : จริงๆ เสียดายอยากเห็นแคมป์ไปอีกคนนะ แต่แคมป์อายุเยอะไปแล้วเนอะ 29-30 แล้วอะ จริงๆ แคมป์เล่นคลาสได้เลยอะ

ชนาธิป : ใช่พี่แคมป์เซนส์ได้เลยแหละ

แมน : แล้วเจคิดว่าจะไปยุโรปช่วงไหนดี

ชนาธิป : โอ้โห ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นหรอกครับ มันเป็นอนาคตอะพี่ ผมก็เหมือนเป็นตัวแทนในนามคนไทยอะพี่ ผมก็พยายามทำผลงานให้ดี ต้องได้ลงทุกนัด ยิงให้ได้ แอสซิสต์ให้ได้

แมน : ตอนแรกที่เจไปอยู่ซัปโปโร คนก็ปรามาสไว้เยอะอะนะ แต่ตอนนี้เราก็ทำให้เห็นแล้ว ดังนั้นการไปเล่นยุโรปก็คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ชนาธิป : ผมว่าที่ทำให้เห็นน่ะ อาจจะด้วยโค้ชด้วยแหละ ด้วยระบบที่... คือทีมผมเป็นทีมเล็กพี่ก็เห็นอยู่ ทีมเป็นทีมเล็กนักบอลก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่ทำไมผลงานถึงดีล่ะ คิดแค่เนี้ย พอผลงานดีเอ้ากลับไปดูว่า ตั้งแต่ต้นฤดูกาลเราซ้อมมายังไง เข้มงวดยังไง คือโค้ชแต่ละคนก็ต่างกันด้วยสไตล์ ผมไม่ได้ว่าโค้ชคนอื่นไม่เก่งนะ แต่โค้ชคนนี้เขาก็เหมือนกับเป็นอีกระดับนึงอะไรอย่างนี้อะ

แมน : คือเขายกระดับให้ทั้งทีมได้เลยอย่างงี้ปะ ทำให้เราเก่งขึ้นด้วย

ชนาธิป : ใช่ คือเราไม่ได้อวยเขานะ มันเป็นความจริงอะ ที่เขาสามารถเข้ามาเพื่อยกระดับฟุตบอลให้มันเปลี่ยนไปได้

แมน : แหมเขาระดับเคยคุมทีม (อุราวะ เรด ไดม่อนส์) ระดับได้แชมป์เจลีกมาแล้ว เขาประสบการณ์เพียบเลยนะ

ชนาธิป : ใช่ครับ ก็คือทุกคนยอมรับว่าเขาเก่งที่สุดในเจลีก

แมน : แล้วเรื่องเบอร์ 10 ว่ายังไงบ้าง

ชนาธิป : ยังไม่รู้เลย แต่ว่าผมเป็นคนที่ชอบเบอร์ 10 ที่สุดแล้ว แต่ตอนที่อยู่เทโร ตอนนั้นมันไม่มีให้เลือกแล้วไง เบอร์ 10 อะ ผมก็เลยเลือกเบอร์ 18 เพราะเป็นเบอร์ที่ใส่แล้วเราบวกกันเป็น 9 ไง ก็เป็นก้าวหน้า แต่จริงๆ แล้วเบอร์ 10 คือเบอร์ที่ผมอยากใส่ที่สุด แต่ก็ต้องคิดดูก่อน เพราะว่าเราก็ใส่เบอร์ 18 มา 5-6 ปีแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 10 เล่นบอลอีกซัก 6-7 ปีมันก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ

แมน : ก็ดีนะ พี่จุ้ง (ก้องภพ สรงกระสินธุ์) พ่อเจเขาบอกพี่ว่า แต่ก่อนตอนเล็กๆ เจใส่เบอร์ 13 กับ เบอร์ 10 มาก่อนใช่ปะ แล้วพอเข้าสโมสรก็มาใส่เบอร์ 18 ยาวเลย

ชนาธิป : ตอนเรียนใส่เบอร์ 10 ครับ ตอนนักเรียนไทยก็ใส่เบอร์ 10 จริงๆ ผมก็ไม่ได้กล้าใส่นะ แต่เพื่อนมาพูดเอง 3-4 ครั้ง กัปตันทีมอะ ผมไม่เคยไปพูดไปขออะไรเล้ย เขามาบอกว่า ชนา อยากใส่เบอร์ 10 มั้ยอะไรงี้

แมน : จริงๆ เขาดูจะน่ารักกว่าที่คนไทยคิดเยอะเลยนะ กัปตันทีม (ฮิโรกิ) มิยาซาว่า อะ

ชนาธิป : เขาก็สไตล์พี่มุ้ยอะครับ ไม่ค่อยพูด แต่ตอนเล่นแบบเขาโคตรดุเลยอะ 

แมน : ตอนนี้มาเล่นเป็นเซนเตอร์แล้วอะ แล้วเล่นดีเลยด้วย

ชนาธิป : โอ้ย เล่นดีกว่ากลางอีก (เสียงสูง) คือเขาอ่านเกมโคตรดี คือเซนเตอร์สไตล์โค้ชผมเนี่ย ต้องกล้าพาบอลมาข้างหน้า เปิดบอลดี ไม่ต้องตัวใหญ่แต่อ่านบอลดีอะไรงี้ คือเขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแต่อ่านทางบอลดีอะ 

แมน : พูดถึงถ้าเขาเล่นเซนเตอร์ เขาคงไม่อยากใส่เบอร์ 10 แล้วล่ะมั้ง

ชนาธิป : ใช่ เขาก็บอกถ้าเขายืนเซนเตอร์เขาก็คงไม่ใส่เบอร์ 10 แล้วล่ะ

แมน : เพลย์เมกเกอร์ในทีมก็มีแค่ เจ กับ โคจิ มิโยชิ อะนะ ไม่รู้จะอยู่ต่อหรือเปล่าที่ยืมมา

ชนาธิป : คิดว่าน่าจะอยู่ต่อ อาจจะยืมต่อ ในความคิดผมอะนะกลับไปเขาก็อาจจะยังแทนรุ่นพี่เขาไม่ได้ (คาวาซากิ ฟรอนทาเล่) ถ้าอยู่นี่อีกสักปีสองปี เขาอาจจะไปยุโรปก็ได้ แต่เขาเป็นนักบอลที่เก่งมาก รู้เปล่าตอนแรกที่ผมเจอเขาอะ ผมไม่เคยกลัวผู้เล่นคนไหนเลยนะ แต่ผมกลัวเขามากเลยอะ ตอนมาซ้อมวันแรก ผมนี่แบบนี่ใครวะ ผมพูดกับพี่ทิเลย แม่งโคตรเก่งเลย ไม่เคยเห็นใครเก่งเท่าเขาเลย จริงๆ (เสียงสูง) ในไทยไม่มีใครเก่งเท่าเขาเลยในอายุเท่ากัน เขาเพิ่งอายุ 21 อะ เก่งมาก

แมน : ดูการเล่นสไตล์ก็คล้ายๆ เจเลยนะ คล่องๆ ล็อกๆ เลี้ยงๆ 

ชนาธิป : ผมอาจจะเป็นสไตล์จ่ายเยอะมากกว่า แต่เขาจะยิง บางทียิงจนโค้ชด่าก็มี

แมน : บางทีพี่เองก็ด่า 555

ชนาธิป : แต่โค้ชเขาชอบผมกับโคจิมาก โค้ชจะเรียกผมว่าลูกชายในภาษาญี่ปุ่นว่าซันจิ เรียกเป็น ซันจิ กับ โคจิ คู่กัน เรียกแบบเป็นลูกอะไรเงี้ย แล้วก็ส่วนโค้ชเขาก็ชอบให้ผมกล้าตัดสินใจ ยิงไปเลย ไม่ต้องเกรงใจเพื่อน

แมน : เออ บางครั้งพี่ก็คิดแบบน่ายิงทำไมเจยังไม่ยิงอะไรงี้เหมือนกันนะ

ชนาธิป : แต่คือมันไม่ใช่ว่าเห็นจังหวะยิงแล้วมันจะยิงได้พี่เข้าใจปะ มันไม่ได้เหมือนที่เห็นนอกจอว่ามันจะยิงได้แต่ในสนามมันแคบ ในสนามมันไม่ได้เหมือนนอกจอที่เราดูว่าทำอะไรก็ได้ มันคนละเรื่องเลยนา ไม่ใช่ว่าทำไมลูกนี้ไม่ยอมยิง ก็มันยิงไม่ได้อะ

แมน : บางทีพี่เห็นพวกญี่ปุ่นยิงไม่ได้มันก็ยังจะยิงเลยนะ

ชนาธิป : บางทีผมก็ยิงก็ฟลุ๊คเข้านะ

แมน : แหมก็ไม่ฟลุ๊คหรอก ลูกไหนฟลุ๊คล่ะ เออไอลูกแรกที่เจยิงเข้าก็เป็น โคจิ เปิดให้โหม่งนี่แหละใช่ปะ

ชนาธิป : ฟลุ๊คจริง แต่โคจินี่มันเก่งจริง เป็นนักเตะที่เก่งมากในสายตานะ ผมว่าเขาไปยุโรปได้สบาย มันเหมือนว่าเราทั้งคู่ยอมรับซึ่งกันและกัน คนทั้งทีมเขายอมรับผมอะไรเงี้ย

แมน : ตอนนี้เห็นคนนึงที่ชัดเลยว่าเล่นกับเจเยอะขึ้นมากก็คือ ไดกิ ซูกะ แต่ก่อนคนชอบด่าใช่มะ ว่าไม่ค่อยจ่ายให้เจ เดี๋ยวนี้พี่เห็นเขาก็จ่ายให้เจตลอดแล้ว

ชนาธิป : มันก็อยู่ที่จังหวะแหละ ก็ต้องแบบคุยกันมากขึ้นอะ แต่เป็นน้องที่น่ารัก

แมน : บางทีคนก็อาจจะคิดกันไปเอง ว่าคนนั้นคนนี้ จริงๆ แล้วในทีมก็รักกันดีอะนะ ทุกคน ตอนนี้ดูดีขึ้นเยอะแล้วด้วย การต่อบอลกันอะไรเงี้ย

ชนาธิป : ใช่ครับ

แมน : ไม่ชวนมุ้ยไปอยู่ด้วยกันล่ะ

ชนาธิป : โห ผมอยากชวนทั้งพี่มุ้ยพี่อุ้มมาอยู่มาก คือถ้าแกมาอยู่นะ บอกเลยโคตรสบาย คือพี่มุ้ยเก็บบอลดีไง สไตล์แบบเก็บบอลสไตล์มิช่า (มิไฮโล เปโตรวิช) เลย คือ มิช่า ชอบกองหน้าที่อยู่ในตำแหน่ง มีหน้าที่แปะบอลแล้วเข้าฮอร์ส อย่างพี่อุ้ม สมมติมาเล่นตำแหน่งทางซ้าย ก็อาจจะเล่นกับผมได้ไหลลื่นขึ้น แต่คืออันนี้ผมก็ไม่รู้อะนะ

แมน : มันก็มีหลายเรื่องอะนะ ทั้งเรื่องเงินเรื่องสโมสร หลายขั้นตอน จริงๆ ก็อยากให้อยู่ญี่ปุ่นต่อทุกคนแหละ

ชนาธิป : จริงๆ ผมว่าทุกคนก็อยากอยู่ต่อแหละ เพราะว่ามันก็เป็นอนาคตที่ดี แล้วก็ดีต่อทีมชาติไทยด้วย

แมน : พี่ก็ว่าสไตล์อย่างอุ้มนี่เขาอยากสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้วแหละ เขายังไม่อยากกลับหรอก

ชนาธิป : พี่อุ้มนี่จะสไตล์คล้ายๆ (โยชิอากิ) โคไม (แบ็กขวาเบอร์ 14) คือจะแบบจริงจังอะไรเงี้ย 

แมน : เอาประมาณนี้ก่อนดีกว่า เจทำธุระก่อนแล้วกัน ไว้เดี๋ยวคุยกันใหม่ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์โทรมาหา

ชนาธิป : ได้พี่ ไว้คุยกันใหม่ครับ

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ ด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)