:::     :::

เช็คอินเกมรับที่ บูกิต จาลิล

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
3,818
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
4 ปีก่อน ประตูของ ชาริล ชัปปุยส์ กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เสกให้ ผู้คนเรือนแสนใน บูกิต จาลิล เงียบงันที่สุด


แม้สิ้นเสียงนกหวีด มาเลเซีย จะกลายเป็น “ผู้ชนะที่พ่ายแพ้” หลังสกอร์รวมสองนัดเป็นรอง ทีมชาติไทย 1 เมล็ด แต่ผลงานในสเตเดียมชามอ่างยักษ์ ยังเป็น “ฝันร้าย” ของช้างศึกต่อไป

4 ปีถัดมา ทีมชาติไทย ภายใต้ควานช้างสัญชาติเซอร์เบีย เตรียมลงสนามทีนี่อีกครั้ง ใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบตัดเชือกนัดแรก

ท่ามกลางแฟนบอลเฉียดแสนในสีเสื้อเหลืองดำ ท่ามกลางกลุ่ม อุลตร้า มาลายา (ที่ภูมิลำเนาไม่ได้อยู่แถวศาลายา) พร้อมแหกปากแบบวัดเดซิเบลไม่ได้ใส่ผู้มาเยือน

คงเป็น “อีกครั้ง” ที่เกมรับของ มิโลวาน ราเยวัช ถูกท้าทาย

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เฮดโค้ชเลือดเซิร์บเลือกซื้อ “เกมรับ” เป็นแท็คติกหลักรายการนี้ แต่ 4 นัดที่ล่วงผ่านมาในรอบแรก อาจเทียบเคียงไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป กับการบุกเยือนทัพเสือเหลืองในวันเสาร์ที่จะถึง

นอกจากความคาดหวังจากแฟนบอล ความกดดันของเจ้าถิ่นที่เปรียบเสมือนผู้เล่นคนที่ 12 รุมปาใส่ตลอด 90 นาที เกมหนัก จากเจ้าถิ่น สายลมที่ไม่หวังดี หรือ สิ่งนอกเหนือการควบคุมคอยแสยะยิ้มให้อีก

เหล่านี้คือสิ่งที่ “ช้างศึก” ต้องเจอ

ปรัชญาเกมรับ “ราเยวัช” จะถูกเทกองใน บูกิต จาลิล อย่างแน่นอน รวมถึงรายละเอียดเรื่องวินัย หรือ แท็คติก ที่ใส่ใจเก็บทุกเม็ด จะเสกช้างศึกเชือกนี้ให้ต่อกรกับคู่ต่อสู้แบบไหน


จากมุมผู้เขียนยังเชื่อว่า แผงแบ็กโฟว์อาจยังคงหน้าเดิมนั่นคือ มิก้า ชูนวลศรี, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์ และ กรกช วิริยอุดมศิริ

การใช้แบ็กเติมเกมพอประมาณแค่ฝั่งเดียว หากขวาเติม ซ้ายห้ามลอย  หรือต้องอยู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนที่ 3 ให้แนวรับตลอด โดยมี ธนบูรณ์ คอยทำความสะอาดอยู่หน้าแนวรับอีกที

อีกทั้งไลน์การยืนของแนวรับที่ต่ำ ยิ่งทำให้คู่ต่อสู้เจาะอย่างยากลำบาก ครั้นจะโยนเข้ามา แนวรับทีมชาติไทย ก็โหม่งทิ้งจนหัวระบม

แต่จุดอ่อนของระบบนี้คือ พื้นที่แถวสองจะมีช่องว่างมากกว่าเก่า นั่นอาจทำให้ มาเลเซีย เน้นการยิงไกลมากกว่าเดิม เหมือนที่ อินโดนีเซีย ทำ หรือ หาทางยัดบอลเข้าไปในเขตโทษให้ได้มากที่สุด

นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวสุด เพราะมีโอกาสที่เจ้าถิ่นจะฉวยความ “นกหวีดหวาน” ยามเล่นในถิ่น และอาศัยจุดโทษ หรือ ลูกตั้งเตะในกรณีนี้ กล่าวคือ “สะกิดเป็นร้อง เฉียดเป็นล้ม”

นั่นคือสิ่งที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

ริจะเล่นเกมรับสิ่งสำคัญคือ “ต้องขาด” ทั้งการสกัดบอล หรือสมาธิที่ห้ามโฉ่งฉ่าง

ขณะที่เกมรุกเองก็ต้องสร้าง “ความต่าง” และใช้โอกาสที่มีให้เปลืองน้อยสุด เพราะทราบอยู่แล้วว่า “คีย์แมน” อย่าง สรรวัชญ์ เดชมิตร จะถูกตามติดหนึบ และเล่นเกมหนักใส่ตลอด 90 นาที

แน่นอนเรื่องรูปเกมส์ต้องออกมาอึดอัด จนลุ้นเยี่ยวเหนียว หากแต่อย่างที่เกริ่นไป ถ้าแนวรับมีสมาธิตลอด ฝ่ายที่กดดันจะกลายเป็น มาเลเซีย เสียเอง เพราะทัพเสือเหลืองรู้แก่ใจว่า หากไม่ตีทีมชาติไทยให้ตายคากัวลาลัมเปอร์ การบุกไปเยือนหัวหมาก ในอีก 4 วันให้หลัง คืองานอภิมหายาก

ถึงจุดนี้ พิจารณาจากวัตถุดิบลูกหนังที่มี ระบบการเล่น ความสามารถผู้เล่น ยังเชื่อว่าช้างศึกของ ราเยวัช น่าจะ “เอาอยู่” หากเล่นได้ตามแท็คติก

และเราอาจได้ลิ้มรส เสือ(เหลือง)ร้องไห้ แบบติดมัน(ส์) เป็นของแถม


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด