“เขา (ตอร์เรร่า) ยิงประตูได้ และเป็นคนเซ็ตเกมรุกอาร์เซนอลในทุกจังหวะเข้าทำ” คำบรรยายของนักข่าวจากฟ็อกซ์ สปอร์ต เอ่ยปากชมมิดฟิลด์ร่างเล็กที่วิ่งเข้าปะทะคู่แข่ง บดบี้กับนักเตะร่างใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตายจนกลายเป็นภาพคุ้นตาของแฟนบอลอาร์เซนอลไปแล้ว ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ห้าวหาญ ร่างกายต้องการปะทะตลอดเวลา ทำให้หลายคนนึกถึง ‘ปาทริค วิเอร่า’ อดีตมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนของทัพปืนใหญ่ยุคไร้พ่ายที่จุติใหม่ในร่างไซส์มินิของ ‘ไอ้หมาบ้า’ ลูคัส ตอร์เรร่า แม้ว่าขนาดรูปร่างและส่วนสูงจะแตกต่างกันสิ้นเชิง แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือความมุ่งมั่นทุ่มเท ตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มเสียงนกหวีด การเล่นที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และวิ่งพล่านไปทั่วสนามอย่างชาญฉลาดของตอร์เรร่าทำให้แนวรุกอาร์เซนอลสามารถรีดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มพิกัด นั่นทำให้สภาพทีมในตอนนี้เกิดความสมดุลเป็นอย่างมาก แม้ตอร์เรร่าจะไม่ใช่มิดฟิดล์เชิงสูงแต่กลับทดแทนด้วยการอ่านเกมที่เฉียบขาด การเข้าปะทะตัดบอลที่แม่นยำ การผ่านบอลที่แน่นอน มันจึงทำให้เขากลายเป็นกลางรับที่ถูกทำฟาวล์มากที่สุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ย้อนกลับไปในช่วงต้นซีซั่นที่ ‘อูไน เอมิรี่’ กำลังพยายามจัดหาสูตรสำเร็จในแผงกลางที่ลงตัวเริ่มจากการจับ ‘ชาก้า’ ยืนคู่กับ ‘เกนดูซี่’ แต่ก็ยังไม่ลงตัวจนกระทั่งปรับแก้ได้คู่หูที่เข้าขาอย่างไม่น่าเชื่อระหว่างตอร์เรร่า - ชาก้า การลงมาเล่นคู่กับกันของสองคนนี้ทำให้เกมของอาร์เซนอลมีมิติมากขึ้น ด้วยการปล่อยให้ชาก้ารับผิดชอบในการจ่ายบอลมากกว่าเดิมจากซีซั่นก่อนที่ต้องคอยสกรีนบอลไปด้วย การมาของตอร์เรร่าแบ่งเบาภาระตรงนี้ไปได้มาก ทำหน้าที่ปัดกวาดเข้าสกัดตัดจังหวะเกมรุกของของคู่แข่งก่อนถึงแนวหลังได้อย่างหมดจด

“เขาคือนักเตะที่อาร์เซนอลขาดหายมานาน เขาไม่ใช่แค่วิ่งไปทั่วสนาม แต่เขาคือไอ้หมาบ้าที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้” เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อดีตนักเตะระดับตำนานของอาร์เซนอลให้คำจำกัดความถึง ลูคัส ตอร์เรร่า ก่อนที่จะลงทำศึกลอนดอนดาร์บี้ว่า เป็นนักเตะจำพวกยอมทำงาน "สกปรก" ให้กับทีม ยอมปะทะเข้าแลกให้ทุกจังหวะ 50-50 อย่างไม่กลัวตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เซนอลขาดหายไปนาน "เขาไม่ได้เป็นคนที่สร้างความประทับใจให้คุณด้วยร่างกายที่แกร่งทั่วแผ่น แต่คุณจะสัมผัสถึงลมหายใจของเขาที่คอยรดที่ต้นคอคุณ หน้าแข้งของเขาที่พร้อมจะปะทะกับคุณอยู่ตลอดทั้งเกม" โดยเปอตีต์ยังบอกอีกว่า “เขาเห็นแวววิเอร่าอยู่ในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ คำกล่าวของเปอตีต์คงไม่เกินจริงไปนัก นักเตะอย่างตอร์เรร่าคือสิ่งที่อาร์เซนอลขาดหายไปนานจริงๆ เพราะนับตั้งแต่หมดยุคของวิเอร่าทัพปืนใหญ่ยังไม่มีนักเตะคนไหนเฉิดฉายในตำแหน่งนี้ได้เลย นักเตะรุ่นพี่อย่าง ‘อเล็กซ์ ซง’ , ‘มาติเยอ ฟลามินี่’ , ‘อาบู ดิยาบี้’ ก็ไม่สามารถแบกรับหน้าที่ตรงนี้เอาไว้ได้ หรือแม้แต่ชาก้าเองที่เคยถูกจับไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิดล์ตัวรับก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนตอร์เรร่า ชัยชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ‘ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์’ เมื่อคืนวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์คำพูดของเปอตีต์ได้อย่างหมดจด ตอร์เรร่าควบคุมจังหวะเกมในแดนกลางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไล่ตัดบอล เข้าสกัดแผงกองกลางของไก่เดือยทองได้อยู่หมัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งเวลาหลัง แถมเจ้าตัวยังเป็นคนยิงประตูปิดกล่องใส่ และนั่นยังเป็นประตูแรกของเขาในสีเสื้ออาร์เซนอลนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ‘ซามพ์โดเรีย’ อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอตอร์เรร่ายังได้รับรางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ในเกมดังกล่าว นับเป็นการคว้ารางวัลนี้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 จาก 4 เกมหลังสุดที่เขาลงสนามให้อาร์เซนอล

“นี่คือรางวัลตอบแทนการทำงานหนักของผม แน่นอนว่ามันเป็นดาร์บี้แมตช์แรกของผมกับอาร์เซนอล และเป็นเกมที่สุดเหลือเชื่อ ระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอลแสดงให้ผมรู้ได้ว่าเกมนี้มันสำคัญมากแค่ไหน” “มันยอดเยี่ยมมากที่เราสามารถเอาชนะในเกมนี้ และเดินหน้าต่อไปในพรีเมียร์ ลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเรา สเปอร์สเป็นทีมที่ดีมาก และพวกเขาทำให้เราเจองานยาก แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงทีมสปิริตและจิตวิญญาณของเราระหว่างเกมว่ามากขนาดไหน" "ผมพอใจมากที่ทีมชนะ และยังยิงประตูได้ด้วย มันเหมือนรางวัลตอบแทนการทำงานหนักตั้งแต่วันแรกที่ผมย้ายมาอาร์เซนอล ผมอยากขอบคุณทีมงานและเพื่อนร่วมทีมทุกคน” ตอร์เรร่าให้สัมภาษณ์หลังจบเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ครั้งแรกของเจ้าตัว พาทีมคว้าชัยชนะในดาร์บี้แมตซ์-ฟอร์มการเล่นโดดเด่น-เบิกประตูแรกให้กับต้นสังกัด ช่างเป็นค่ำคืนที่เพอร์เฟคสุดๆ สำหรับหนุ่มวัย 22 เสียจริง... 26 ล้านปอนด์คือตัวเลขที่อาร์เซนอลยอมควักออกจากกระเป๋าเพื่อคว้าตัวมิดฟิลด์ร่างเล็กเข้ามาร่วมทีม แต่เมื่อเวลาผ่านไปตอร์เรร่าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันคุ้มค่ากับการกล้าที่จะควักจ่าย แม้จะมากกว่านี้สักสามสี่เท่าก็ยังคุ้ม! เพราะชั่วโมงนี้เหสำหรับเหล่า กูนเนอร์ รวมไปถึงบิ๊กบอส อย่าง เอมิรี่ บอกได้คำเดียวเลยว่า.... “ขาดเธอเหมือนขาดใจ”!