หนึ่งในมังงะเล่มโปรดและรีรันอ่านจนจำได้ทุกฉากคือ “มหัศจรรย์สิงห์นักเตะ” ตัวเอกของเรื่องชื่อ “ซากาโมโต เทปเป” เป็นเด็กหนุ่มจากโอกินาว่า ที่รักฟุตบอลแต่วัยกะเตาะโดยมีพี่สาวแท้ๆ “โคโตเนะ” เป็นกุนซือคอยสอนศาสตร์ลูกกลมๆให้ในวัยเด็ก
ช่วงคาบเกี่ยวของวัย พี่สาวเลือกไปเรียนต่อ และเป็นโค้ชในระดับโรงเรียนที่เมืองหลวงโตเกียว ทิ้ง เทปเป ให้อยู่ซ้อมบนเกาะคนเดียว โดยใช้วิธีส่งจดหมายเป็นแท็คติกรูปแบบการเล่นต่างๆกลับมาให้เจ้าตัวฝึกซ้อม
ไม่นาน “เทปเป” ตามมาเรียนต่อที่โตเกียวโดยศึกษาโรงเรียนเดียวกับที่พี่สาวเป็นโค้ช
“เทปเป” โชว์ฟอร์มจนกระชากตาแมวมองจากอิตาลี ท้ายสุดเขาเลือกจากเพื่อนในทีมเพื่อไปเป็นนักเตะอาชีพที่ เอซี มิลาน ในระดับพรีมาเวร่า (ทีมสำรอง)
บ่อยครั้งที่อ่านถึง “เทปเป” เรามักวาบถึงนักเตะคนหนึ่งในไทยที่คล้าย “เทปเป” ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่น รูปร่าง รวมถึงการสร้างความต่างในมิติเกมรุก
ชนาธิป สรงกระสินธ์
“เจ” เติบโตมาในครอบครัวฟุตบอลเหมือน “เทปเป” โดยมี “พ่อ” เปรียบเสมือนกุนซือคอยบ่มเพาะการเล่นตั้งแต่เด็ก
จำได้ว่าตอนเจอหมอนี่หนแรกที่สนามเทพหัสดิน ในฟุตบอลนักเรียน 18 ปี ก. เวลานั้นเด็กหนุ่มร่างเล็กในชุดยูนิฟอร์มฟ้าอ่อน โรงเรียนพณิชยการราชดำเนิน โชว์ฟอร์มเด่นเกินหน้าเกินตา ป่วนแนวรับคู่ต่อสู้จนหัวปั่น ไม่นานนักหมอนี่เซ็นสัญญาเข้าสังกัด “มังกรไฟ” ก่อนสถาปนาตนขึ้นทีมชาติชุดใหญ่บนวัยเพียง 20
จากนั้นไทม์ไลน์ชีวิต “เจ” ก้าวแบบกระโดด ทั้งการเป็น MVP ระดับอาเซียน เป็นขุนพลสำคัญในทีมชาติไทยชุดใหญ่ ขณะที่ในระดับสโมสรอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ก็โดดเด่น
ก่อนเจ้าตัวจะได้รับโอกาสสำคัญในชีวิต เหมือนกับ เทปเป คือ การไปโลดแล่นต่างบ้านต่างถิ่น กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเจลีก
สิ่งหนึ่งที่คล้ายกันสำหรับฉากชีวิต “เจ” กับ “เทปเป” คือ ช่วงเริ่มต้นของการไปตะบันชีวิตต่างแดน ทั้งสองไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
สิ่งที่จะทำให้ “เจ้าถิ่น” ยอมรับได้ มีเพียง “ภาษาฟุตบอล” ใช้ฝีตีนตอบแทนคำพูด
ในหนังสือการ์ตูน เทปเป ใช้ความมกัศจรรย์เป็น FANTASISTA มองภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าที่นักเตะคนอื่นไม่เห็น เพิ่มมิติในเกมรุกจนเพื่อนคารวะ จนกลายเป็นผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างในแบบที่ขาดไม่ได้
ขณะที่ “เจ” ใช้ฝีตีนและความสามารถที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นไม่มี สร้างความต่างในเกมรุก คอนซาโดเล ซัดไป 8 ประตู และมีส่วนสำคัญอย่างมาก ช่วยให้ทีมกลายเป็นสโมสรหัวตาราง
ผลลัพธ์อีกอย่างที่ตอบแทนได้ดีคือ ชนาธิป สามารถคว้ารางวัล MVP ของสโมสรมาครองได้ เพียงฤดูกาลที่ 2 หลังจากย้ายมา จากการโหวตของแฟนบอล
ไม่นับรวมถึงกัปตันอย่าง ฮิโรกิ มิยาซาวา ที่เสนอมอบยูนิฟอร์มหมายเลข 10 (ซึ่งเป็นหมายเลขที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมาก) ให้กับ ชนาธิป สวมใส่ในฤดูกาลหน้า
สิ่งเหล่านี้บอกได้ดีว่า ชนาธิป กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลบนเกาะฮอกไกโดไปแล้ว
แม้วันนี้ เจ ยังไม่ไปไกลถึงยุโรปเหมือนกับ เทปเป จนไปเจอคู่แข่งสมน้ำสมเนื้ออย่าง มัลโก คุโอเร
ทว่าบนขวบวัยเพียง 25 ปี เจ้าตัวยังสามารถไปไกลได้มากกว่านี้ ตราบที่ยังไม่หยุดการพัฒนา
และเป็น “มหัศจรรย์สิงห์นักเตะ” ในชีวิตจริง ที่ไม่ใช่เพียงในหนังสือการ์ตูน
