:::     :::

เมื่อ'หงส์แดง'เกาถูกที่คัน

วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2561 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
7,282
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปราการหลังตัวกลางของพวกเขาคือกวางน้อยบนพื้นน้ำแข็ง

    ผู้รักษาประตูของพวกเขาคือรถไฟเหาะที่ขึ้นสูง และพร้อมลงสุด

    นั่นคือ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    แต่จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ คือคนที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของแนวรับหงส์แดงได้ในเวลาชั่วข้ามคืน

    ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นปี และซัมเมอร์ที่ทั้งสองก้าวเท้าเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ตามลำดับ เสียงเย้ยหยันกับราคาค่าตัวนั้นแผ่ขยายไปเป็นมุมกว้าง

    ฟาน ไดค์ ยังคงเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่ราคา 75 ล้านปอนด์ ส่วน อาลีสซง ก็เป็นนายทวารราคาสูงที่โดน เชลซี และ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ทำลายได้ในตลาดนักเตะรอบเดียวกัน

    แต่คำชมเชยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งสองนักเตะคือแทบทุกคนกลับพูดเป็นเสียงเดียวกันในเวลานี้ว่าราคาที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จ่ายไปมันคุ้มโคตรๆ

    โลกฟุตบอลสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว...

    ช่วงเวลาที่กันนี้ของฤดูกาลก่อน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โชว์แฮตทริกช่วยให้ ลิเวอร์พูล สามารถกรุยทางทะลุสู่แชมเปี้ยนส์ลีกรอบน็อคเอาต์

    ทว่ากับปีนี้ ทั้ง ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง คือคีย์แมนสำคัญที่ทำได้แบบเดียวกันในเกมกับ นาโปลี ซึ่งนั่นคือการเปลี่ยนแร่แปรธาตุมาจากเงินที่พวกเขาขาย คูตินโญ่ ในราคา 145 ล้านปอนด์ไปให้กับ บาร์เซโลน่า

    แน่นอน ในบางครั้งบางจังหวะที่ทีมเล่นเกมรุกไม่เป็นใจ ใครหลายคนอาจพากันคิดถึงเพลย์เมกเกอร์บราซิเลี่ยนขึ้นมาจับใจ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่าทั้ง ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง นั้นกลายเป็นหนังบทใหม่ที่ดีกว่าจนถึงเวลานี้

    ในช่วงที่แมตช์แข่งขันชุกชุม และน่าตื่นเต้นที่สุดของซีซั่น อาลีสซง ได้โชว์การความเสียหายจากการเสียประตูระดับเวิลด์คลาสถึง 3 ครั้งจาก 4 เกมที่ผ่านมา

    "ถ้าผมรู้ว่าอาลีสซงจะเจ๋งขนาดนี้ ผมจะยอมจ่ายค่าตัวเขาเพิ่มเป็น 2 เท่าเลย" คล็อปป์ กล่าวชมนายทวารคนเก่งหลังโชว์แมตช์วินเนอร์ด้วยการหยุดลูกยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ อาร์คาดิอุส มิลิค ทำให้หงส์แดงฟาดเงินจากการผ่านเข้ารอบถึง 9 ล้านยูโร แทนที่จะได้แค่ 500,000 ยูโรจากการไปเล่นรอบ 32 ทีมยูโรปา ลีก

    ซีซั่นก่อน หงส์แดงกระเสือกกระสนอยู่เหมือนกันจนกระทั่งจบท็อปโฟร์แม้ว่าจะใช้มาตรฐานจากนายทวารคนเก่าซึ่งปัจจุบันระหกระเหินไปอยู่ที่ตุรกีแล้ว

    สถิติไม่เคยโกหกใคร

    ถึงตอนนี้ เดอะ ค็อป ทั่วโลกได้เชิดหน้าชูตาโอ้อวดผู้รักษาประตูของพวกเขาบ้างว่าเป็นระดับโลกเหมือนกับที่ทีมใหญ่ของลีกมี ดาบิด เด เคอา, อูโก้ โยริส, เอแดร์ซอน, ปีเตอร์ เช็ก หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ในฤดูกาลก่อนๆ

    ในขณะเดียวกัน ฟาน ไดค์ ก็สร้างอิมแพ็คให้กับแนวรับหงส์แดงได้อย่างน่าเชื่อเช่นเดียวกัน

    ตั้งแต่ที่เซนเตอร์แบ็กทีมชาติฮอลแลนด์เดินทางมาถึง ลิเวอร์พูล ทีมของ คล็อปป์ ก็เสียเพียง 16 ประตูจาก 31 เกมในพรีเมียร์ลีก โดยเกมล่าสุดที่ชนะ นาโปลี 1-0 นั้นทำให้พวกเขาเก็บไป 15 คลีนชีตจาก 18 เกมเหย้าหลังสุดอีกด้วย

    ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนรอบตัวเขาไม่ว่าจะเป็น โจ โกเมซ ไปสู่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน หรือไปสู่ โฌแอล มาติป ต่างก็ดูเติบโตเป็นผู้เป็นคนมากยิ่งขึ้นในการร่วมงานกับภูผาสูงจากแดนกังหันผู้นี้

    เมื่อเห็นจุดอ่อนก็ต้องกำจัด และแน่นอนตอนนี้หงส์แดงได้กำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปแล้ว แล้วคู่แข่งของพวกเขาล่ะ ทำอะไรอยู่บ้าง

    ???

    ใช่ นั่นก็คือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทุกวันนี้กลายเป็นลูกไล่ของหงส์แดงไปเรียบร้อยแล้ว

    แมวมองหงส์แดงอาจเคยโดนเยอะเย้ยหลังจากมีข่าวว่าพวกเขาเคยสนใจในตัว ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว และเหมือนตาถั่วที่จะบอกปัดเอาทั้งสองมาร่วมทีมในขณะนั้น

    แต่ใครจะรับประกันไหมว่าหากย้อนกลับไปในช่วงเวลาโน้น ทั้ง ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง จะเก่งได้เหมือนทุกวันนี้

    การกล้าทุ่มถูกจุดของหงส์แดงทำให้พวกเขาผงาดนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกอย่างสง่าผ่าเผย

    ถึงผมจะเป็นแฟนหงส์เต็มขั้น และเกลียดทีมผีแดงเข้าไส้ แต่หากต้องวิเคราะห์ตามเนื้องานด้วยการตัดอคติออกไปแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ควรต้องเรียนรู้จาก ลิเวอร์พูล เอาไว้

    ทีมผีแดงนั้นเคยมีข่าวว่าสนใจในตัว กาลิดู กูลิบาลี่ ที่มีราคาสูงถึง 90 ล้านปอนด์

    แม้ดาวเตะเนเปิ้ลส์จะไม่ได้มีฟอร์มที่โดดเด่นเลยในเกมล่าสุดที่พ่าย ลิเวอร์พูล เมื่อคืนวันอังคาร แต่เขาก็เคยพิสูจน์ตัวเองมาแล้วในการทำให้สามแนวรุกของหงส์แดงทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ต้องเจอฝันร้ายในเกมแรกที่อิตาลี

    ถ้า ฟาน ไดค์ สามารถรังสรรค์แนวรับของ ลิเวอร์พูล ให้แข็งแกร่งดุจหินผาได้ในเวลาเพียง 12 เดือน แล้วทำไมการเสี่ยงกับ กูลิบาลี่ จะไม่น่าสนใจสำหรับทีมผีแดงล่ะ?

    สมัยก่อน ฟิล โจนส์ เคยได้ชื่อว่าเป็นกองหลังอนาคตไกล แต่ตอนนี้มีใครไหมที่เชื่อใจในตัวไอ้หนุ่มคนนี้มากกว่า โจ โกเมซ

    ลิเวอร์พูล ได้จัดการข้อบกพร่องของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว และมันก็ตอบแทนด้วยผลงานอย่างเด่นชัด

    แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ทำเช่นเดียวกันกับการทุ่มเงินซื้อฟูลแบ็กถึง 3 รายในซัมเมอร์เดียว และมันก็ตอบโจทย์ด้วยการทำให้เรือใบเป็นแชมป์ลีกในฤดูกาลก่อน

    แต่สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาคงลืมไปแล้วว่าการเกาถูกที่คันนั้นเป็นยังไง

    หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด