ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านอีกครั้งของ ปิศาจแดง หลังจากสิ้นยุครุ่งเรืองที่นำโดยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โคตรผู้จัดการทีมอันเป็นที่รักของ เร้ด อาร์มี่

ผลงานในทีมผีแดงหลังการลงจากตำแหน่งของ 'เฟอร์กี้' มีแต่ดิ่งเหว แม้จะมีแชมป์เข้ามาบ้างทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ หรือ ยูโรปา ลีก แต่ฟอร์มใน พรีเมียร์ลีก กลับวูบลง ซึ่งดูแล้วไม่มีอนาคตเอาเสียเลย

ยิ่งช่วงที่ผ่านมายิ่งไปกันใหญ่ จากบอลเกมรุกสนุกสนานกลับกลายเป็นบอลน่าเบื่อ ไร้จินตนาการ กลัวคู่แข่ง (และคู่แข่งไม่เกรงกลัวอีกต่อไป) ไม่มีการประสานงานกันเป็นทีมเหมือนต่างคนต่างเล่น และลงสนามให้เกมนั้นๆจบไป

ถึงตรงนี้การเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้น โซลชาร์ คือคนที่บอร์ดบริหารเลือกให้เข้ามารับเผือกร้อนชิ้นนี้โดยมีภารกิจถึงสิ้นสุดซีซั่น 2018/19 พร้อมกับได้ ไมค์ ฟีแลน มาระดมความคิดร่วมกับ ไมเคิ่ล คาร์ริค และ คีแรน แม็คเคนน่า

แฟนผีต่างวาดฝันว่าทีมรักของพวกเขาจะกลับมาเล่นฟุตบอลเกมรุกที่สนุกสนานเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาโดยตลอด และที่สำคัญคือการเข้ามารื้อระบบและสร้างจิตวิญญาณลงไปใน 'ดีเอ็นเอ' ให้นักเตะชุดนี้รู้ซึ้งถึงความเป็น 'ยูไนเต็ด' และความสำคัญถึง 'อัตลักษณ์' ของสโมสร

งานแรกของอดีตกองหน้าเจ้าของฉายา 'เพชรฆาตหน้าทารก' คือการยกพลออกไปเยือน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ อดีตต้นสังกัดเก่าในเวทีพรีเมียร์ลีกเสาร์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างจับตามองผลงานนัดแรกหลังสิ้นสุดยุค 'มูรินโญ่'

นอกจากงานใหญ่ในสนามที่รอพวกเขาอยู่ บรรดาสื่อในอังกฤษก็ไม่ลืมที่จะนำบทวิเคราะห์ต่างๆสอดแทรกให้แฟนบอลได้ติดตาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแข้งคนใหม่ในช่วงหน้าหนาวที่ (อาจ) จะเข้ามาเป็นสมาชิกใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด

โดยช่วงที่ผ่านมาสื่อในเมืองผู้ดีต่างรายงานว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด พร้อมฉีดเงินเสริมทัพเพื่อให้ โซลชาร์ ได้แข้งที่ต้องการในการนำมาพัฒนาทีมให้ดีกว่าที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้เลยยกเอา 5 นักเตะที่ (อาจจะ) มีโอกาสย้ายมาสวมเครื่องแบบอสูรแดง ซึ่งเป็นไปตามการวิเคราะห์ของ 'เดอะ ซัน' ให้แฟนๆได้พิจารณาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

อันเดรียส คริสเตนเซ่น (เชลซี)

ปัญหาที่ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาของ ยูไนเต็ด คือการเสียประตูในศุกพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 29 ลูกจากการลงสนามเพียง 17 เกม และที่น่าวิตกคือเป็นทีมที่โดนเจาะตาข่ายมากที่สุดในพื้นที่ 10 อันดับแรก

นี่คือปัญหาที่เห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหากนำไปเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมาที่นักเตะในแนวรับก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม 

ทำให้ชื่อของ คริสเตนเซ่น ในวัย 22 ปี โผล่เข้ามามีเอี่ยวกับ ปิศาจแดง โดยสถานการณ์ในรั้ว แสตมฟอร์ด บริดจ์ ของกองหลังชาวเดนมาร์กก็ไม่สู้ดี เพราะโดนจำกัดการลงสนามแถมเคยมีข่าวเช่นกันที่ คริสเตนเซ่น เปรยว่าตนเองอาจจะมองถึงโอกาสในการย้ายสังกัดเพื่อการลงสนามทำให้สื่อจับโยงเข้ากับ ปิศาจแดง โดยทันที

มองถึงโอกาสความเป็นไปได้ถือว่า 'ยาก' พอสมควร เพราะ สิงโตน้ำเงินคราม คงไม่ยอมปล่อยแข้งรายนี้ให้คู่แข่งในลีกเอาไปบ่มเพาะและรอวันกลับมาเล่นงานแน่นอน

แต่ ... เดอะ ซัน มองว่าด้วยการที่ ยูไนเต็ด มี โซลชาร์ เข้ามาเป็นนายใหญ่ กุนซือรายนี่้อาจจะใช้งสายสัมพันธ์ของคนในแถบสแกนดิเนเวียนกล่อมแนวรับรายนี้ให้เก็บข้าวของไปเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เป็นไปได้

ดั๊กลาส คอสต้า (ยูเวนตุส)

ตกเป็นข่าวตั้งแต่สมัย มูรินโญ่ ยังเป็นใหญ่ในทีมปิศาจแดง และยังคงลากยาวมาจนถึงตอนนี้

ปีกชาวบราซิเลียนกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ของ ยูเวนตุส หลังจากทีมไปคว้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีม นอกจากนี้ยังมีแนวรุกอย่าง มาริโอ มานด์ซูคิช และ เปาโล ดีบาล่า ที่ มักซ์ อัลเลกรี มองหาก่อนเป็นอันดับแรก

จึงไม่แปลกใจที่ช่วงผ่านมาจะมีข่าวว่า ดั๊กลาส คอสต้า อยากย้ายสังกัดแล้วซึ่งแน่นอนว่า 1 ในนั้นมีชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมอยู่ด้วย

ความเร็ว, ทะลุทะลวง, การกระชาก และที่เด็ดในริมเส้น คือสิ่งที่แข้งวัย 28 ปีจะเข้ามาเพิ่มมิติในจุดนี้ ที่สำคัญหากเป็นตามที่สื่อคาดกันไว้ทาง เบียงโคเนรี่ เองก็พร้อมเจรจาเช่นกัน

เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (แอร์เบ ไลป์ซิก)

นี่คืออีก 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจในแนวรุก เพราะถือเป็นแกนหลักในทีมชาติสวีเดน รวมไปถึงในสโมสร แอร์เบ ไลป์ซิก ในช่วงที่ผ่านมา

แม้จะรู้จักจากตำแหน่งปีกซ้าย แต่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของแข้งวัย 27 ปี คือหมายเลข 10 หรือเป็นตัวขับเคลื่อนแนวรุกของทีมที่จะคอยสร้างจินตนาการในการเข้าทำและเพิ่มมิติในการทำลายเกมรับคู่แข่ง

โดยช่วงที่ผ่านมา ฟอร์สเบิร์ก ก็ตกเป็นข่าวว่าต้องการย้ายมาเล่นในลีกอังกฤษ แถมยังมีข่าวกับหลายสโมสรแต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น

ยิ่งกับการที่สัญญาของ ฆวน มาต้า ยังไม่คืบหน้าและมีโอกาสที่แข้งชาวสเปนจะย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็มีความเป็นไปได้ที่ ปิศาจแดง อาจจะเดินหน้าดึง ฟอร์สเบิร์ก จะเข้ามาเป็นตัวแทน

เอดินสัน คาวานี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง)

1 ในกองหน้าจอมถล่มประตูของโลกกับผลงานการสอยตาข่ายที่ยอดเยี่ยมในทีม เปแอสเช 

ด้วยการที่ โรเมลู ลูกากู ฟอร์มฟลุดแบบน่าใจหาย และกลายเป็นคนละคนกับฤดูกาลที่ผ่านมา จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทีมต้องหาตัวเข้ามาเสริมในแนวรุก

เดอะ ซัน มองว่าแม้ทีมจะมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่สามารถปรับไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่หากวัดจากสถิติและธรรมชาติในการสังหารประตู ทั้งสองรายยังคงเป็นกอกชาวอุรุกวัยเยอะ

อายุอาจจะครบ 32 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่ประสบการณ์อันโชกโชนและสภาพร่างกายที่ยังดีเยี่ยมจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ บวกกับปัญหาในทีมที่โดนสื่อโหมหนักว่าไม่พอใจกับบทบาทในทีม ทำให้มีโอกาสที่ คาวานี่ จะลองออกมาความท้าทายในอังกฤษ

ฮาเมส โรดรีเกซ (บาเยิร์น มิวนิค)

สัญญายืมตัวจาก เรอัล มาดริด กำลังจะหมดลงและอนาคตของ ฮาเมส ยังอยู่ในเครื่องหมายคำถามว่าสุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางหลังจากนั้นจะไปอยู่ที่ใด

แม้อนาคตยังไม่กระจ่างแต่ฝีเท้านี่ถือว่าชัดเจนและถือเป็น 1 ในแข้งที่มีทักษะอันน่าตื่นตาและสามารถทำลายแนวรับคู่แข่งได้ทุกจังหวะ

ปัญหาหลักจริงๆไม่ใช่เรื่องข้อสงสัยของผลงาน แต่คงหนีไม่พ้นเรื่องของการเจรจาดึงตัวเพราะมันค่อนข้างซับซ้อน ยิ่งหากอยากได้มาร่วมทีมในหน้าหนาวนี้เลยก็ต้องเป็นการเจรจา 3 ฝ่าย ยูไนเต็ด-เรอัล-บาเยิร์น ซึ่งคงยุ่งยากพอสมควรเพราะแต่ละฝ่ายจะพยายามรักษาผลประโยชน์ของตนเองให้ดีที่สุด