:::     :::

เรื่องราวลูกหนังกับ "ซาดิโอ มาเน่" (ตอนแรก)

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2561 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,462
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก้าวเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 ภายใต้สีเสื้อลิเวอร์พูล ของซาดิโอ มาเน่

แน่นอนว่า ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล รายนี้ ถือว่าเป็นฟันเฟืองคนสำคัญในแนวรุก ภายใต้การคุมทีมของทางเจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน

แม้ว่าบางเกม เจ้าตัวจะใช้โอกาสเปลืองไปบ้าง แต่ผลงานโดยรวมก็ยังถือว่าน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการยิงประตู และช่วยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ

ช่วงนี้ เจ้าตัวจะมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตของเขา ตั้วแต่วัยเด็ก จนกลายมาเป็นนักฟุตบอลของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูล 

ช่วยพูดถึงชีวิตวัยเด็กที่ประเทศเซเนกัล หน่อยซิ ?

"ผมก็เหมือนเด็กปกติทั่วไป ผมอาศัยอยู่กับครอบครัว, ไปเรียนหนังสือ และเล่นกับเพื่อนตามท้องถนน มันก็เป็นชีวิตที่เรียบง่าย โดยคนแอฟริกัน มักทำอะไรร่วมกัน เราอาศัยร่วมกัน และเรากินอาหารร่วมกัน"


ความทรงจำที่มีต่อฟุตบอล ในช่วงวัยเด็กของคุณล่ะ ? 

"ฟุตบอลเปรียบเหมือนกับชีวิตของผม มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมเกิดมาเลย ผมเกิดมาก็หลงรักฟุตบอลแล้ว แน่นอนว่า ถึงตอนนี้ มันยังไม่เปลี่ยนแปลงไป"

"ผมต้องขอบคุณพระเจ้ามากเลย ที่ส่งให้ผมมาอยู่ในลีกที่ดีสุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก และสโมสรที่ยอดเยี่ยมอย่างลิเวอร์พูล ผมอยากบอกว่า ผมเองมีความสุขกับการใช้ชีวิตมาก"


แสดงว่าคุณมมีความหมกมุ่นต่อฟุตบอลมาตลอด ?

"แน่นอน !! ผมยังคงจำได้ดี บ้านของผมอยู่ห่างจากเมืองหลวงมาก เพราะผมเกิดในหมู่บ้านธรรมดา ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยาก เพราะผมมีความฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาโดยตลอด"

"ย้อนกลับไปเวลานั้น ครอบครัวไม่ค่อยช่วยเหลือผมเท่าไหร่ พวกเขาไม่อยากให้ผมเล่นฟุตบอล เพราะมองในสิ่งที่แตกต่างไป แต่สำหรับผมแล้ว ฟุตบอลมันคือชีวิตจริงๆ มันถือว่าเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดจะลงมือทำ"

สมัยอยู่ที่เซเนกัล คุณได้ดูเกมพรีเมียร์ลีก บ้างหรือเปล่า ?

"ด้วยความสัตย์จริง ส่วนมากผมจะดูการแข่งขันฟุตบอลลีกของฝรั่งเศส เพราะตอนนั้น ผมชอบทีมโอลิมปิก มาร์กเซย มากเลย นี่เป็นสโมสรที่ผมชอบดูมาก แต่บางคร้ัง ผมก็ดูพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกคนดูลีกพวกนี้กันทั้งนั้นแหล่ะ"


คุณจำได้หรือเปล่ากับนักเตะที่ชอบดูผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ ?

"ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น มันต้องเป็นเอล ฮัดจิ ดิยุฟ อยู่แล้ว เขาคือฮีโร่ของผมเลย ตอนนั้นเขาลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ด้วยนะ ตอนแรกผมชอบเขามาก แต่หลังจากนั้น คนที่ผมชื่นชอบก็คือโรนัลดินโญ่ นี่คือไอดอลด้านลูกหนัง 2 คนของผม"

"ทั้งคู่เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ผมจะดูพวกเขาลงแข่งให้มากสุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ เป็นนักเตะที่น่าหลงใหล พร้อมกับยังเปี่ยมไปด้วยความสามารถ นอกจากนี้ ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลา"


การย้ายมาเล่นกับลิเวอร์พูล เป็นการตามรอยเท้าของ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ถือเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่เลยใช่มั้ย ?

"ใช่แล้ว เอล ฮัดจิ ดิยุฟ อาจจะเป็นนักเตะคนละสไตล์กับโรนัลดินโญ่ แต่เขาก็ถือว่าเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ แม้ดูเหมือนว่าเขาพร้อมมีเรื่องตลอดเวลาก็ตาม !!! ทว่าผมรักแนวทางการเล่นฟุตบอลของเขานะ"

คุณจำรองเท้าฟุตบอลคู่แรกได้หรือเปล่า ?

"ผมได้รองเท้าฟุตบอลคู่แรก ในช่วงราวปี 2005 มันทำให้ผมดีใจมากๆ .... แน่นอนว่า มันเป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันลืมเลือน เพราะผมเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อน ที่มีรองเท้าฟุตบอล แต่ช่วงแรกมันจะลำบากหน่อย เพราะผมไม่เคยสวมรองเท้าเตะบอลมาก่อน"


ช่วยเล่าชีวิต และการเดินทางจากประเทศเซเนกัล จนกลายมาเป็นนักเตะลิเวอร์พูล หน่อยซิ ?

"ผมเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้าน เพราะผมเตะฟุตบอลเก่ง เหมือนกับโรนัลดินโญ่ ดังนั้น พวกเขาจึงเรียกผมว่าเป็นโรนัลดินโญ่ ประจำหมู่บ้าน !!!"

"ผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียง เดินทางมาดูผมเล่นฟุตบอลด้วย พวกเขารู้จักชื่อผม พร้อมกับแปลกใจในสิ่งที่หลายคนพูดถึงตัวผม ยังมีคนจากเมืองหลวงอย่างดาการ์ เดินทางมาดูด้วย"

"จากนั้น ผมมีโอกาสเดินทางเข้าไปยังเมืองหลวง และยังได้ยินผู้คนพูดถึงตัวผม ผมคิดว่า ตัวเองได้กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว !!!"


ประสบการณ์การเล่นฟุตบอลในหมู่บ้านเป็นยังไงบ้าง ?

"ย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น มีการวิ่งขึ้นวิ่งลงกันอย่างรวดเร็วมาก !!! อย่างไรก็ตาม ผมไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ผมเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดแล้ว"

"แต่สำหรับผมแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกระชากบอลผ่านทุกคนไป และจบด้วยการยิงประตู ถึงกระนั้น ก็มีผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่รายล้อมเช่นเดียวกัน"


ครอบครัวของคุณเสียสละมากเลยใช่มั้ย ?

"ด้วยความสัตย์จริง พวกเขาไม่เคยคิดว่าผมจะกลายมาเป็นนักฟุตบอล ผมเข้าใจพวกเขานะ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะก้าวมาประสบความสำเร็จในเส้นทางลูกหนัง"

"คนที่เก่งกาจเรื่องฟุตบอลหลายคน ต้องสูญเสียทุกอย่างไป เพราะมอบมันให้กับฟุตบอลไปหมดสิ้นแล้ว ทว่าสุดท้าย พวกเขากลับพลาดในการลงมือทำในสิ่งอื่น"

"มันจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมครอบครัวถึงไม่อยากให้ผมเป็นนักฟุตบอล พวกเขาต้องการให้ผมทำอย่างอื่น ครอบครัวคิดว่าผมเป็นคนบ้าเสมอ เพราะเอาแต่พูดถึงเรื่องการเป็นนักฟุตบอล"


ตอนนี้คุณกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว มันเหมือนกับความฝันเลยมั้ย ?

"บางทีมันอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ผมเป็นคนที่มีความเชื่อเสมอมา อีกอย่างคือ ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความโชคดีด้วย มันมีเรื่องของโชคเข้ามาเป็นส่วนประกอบหนึ่ง"


โปรดติดตามตอนต่อไป 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})