:::     :::

บทบาทใหม่ของดาวยิง 0 ประตู

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชื่อของ สิโรจน์ ฉัตรทอง ดูเหมือนจะเป็นรายนามที่เซอร์ไพรส์สุด ในการคลอดโผทีมชาติไทย ชุดลุยศึกเอเชียนคัพ

หลังห่างหายรั้วทีมชาติไปพักใหญ่ ดาวยิงวัย 26 จาก พีที ประจวบ โผล่มามีชื่อเป็น 1 ใน 27 ขุนพลช้างศึก ชุดเตรียมทีมลุยศึกเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์

แน่นอนว่า การมีชื่อหนนี้ย่อมเกิดคำถามจากแฟนบอลว่า เหตุใด มิโลวาน ราเยวัช ถึงเรียก สิโรจน์ ฉัตรทอง กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง หลังผลงานในสีเสื้อช้างศึกที่ผ่านมา ก็ไม่เจ๋งถึงขั้นได้รับคำคารวะ เช่นเดียวกับผลงานระดับสโมสร ที่ต้องพุ่งชนอาการบาดเจ็บ รวมถึงตัวเลขที่ปรากฏในฐานะ “ดาวยิง” ชวนทำแฟนบอลเอาตีนก่ายหน้าผาก

ผลงานกับ เอสซีจี เมืองทอง 21 เกม 0 ประตู

ผลงานกับ พีที ประจวบ 11 เกม 0 ประตู

นี่อาจจะเป็นผู้เล่นตำแหน่ง “กองหน้า” คนเดียวในโลก ที่ติดทีมชาติโดยยิงให้สโมสรไม่ได้สักประตู กับสโมสรในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ยิ่งกับทัวร์นาเมนต์นี้เป็นรายการที่แขวนอนาคต ราเยวัช อยู่บนเส้นด้าย เขาไม่มีโอกาสได้ “ลองผิดถูก” อีกต่อไป การหว่านเมล็ดพันธุ์ที่เปรียบเสมือน “ทดลองทีม” มาก่อนหน้านี้กินเวลานานเกินพอ และควร “ผลิดอกออกผล” ได้แล้ว

ในมุมผู้เขียน แม้เฮดโค้ชชาวเซิร์บยังต้องตัดผู้เล่นออกอีก 4 ราย เพื่อหนีบ 23 แข้งดีที่สุด บินสู่แดนตะวันออกกลาง ถึงกระนั้นก็ยังเชื่อสนิทใจว่า “ปีโป้” จะไม่ถูกตัดชื่อออกอย่างแน่นอน (หากไม่เจ็บ หรือแพ้ยาย้อมผมอีก)

แม้ สิโรจน์ จะผลงานแทบไม่เอาอ่าวในการเป็น “มือปืนล่าตาข่าย” ทักษะความสามารถเฉพาะตัวก็ไม่ดีเด่น ความเร็วก็ไม่ได้ถึงขั้นสปีด 9 การผ่านบอลก็แทบไร้คิลเลอร์พาส หรือจังหวะสวยงามให้เห็น

กอปรกับเมื่อมองไปที่คู่แข่งตำแหน่งเดียวกันในเรื่องผลงาน ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร, ศุภชัย ใจเด็ด รวมถึง ชนานันท์ ป้อมบุบผา นักเตะเหล่านี้ผลงานดีกว่า สิโรจน์ ฉัตรทอง ทุกคน


แต่ ปีโป้ มีสิ่งที่ต่างออกไปจากในบรรดานักเตะทั้งหมดนั่นคือ “สภาพร่างกาย” ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ดีเอ็นเอลูกหนังที่มุ่งมั่น ทุ่มเทตลอดโมงยามที่ได้รับโอกาสลงสนาม

การเจอกับคู่แข่งจากตะวันออกกลาง ที่สรีระเป็นต่อทีมชาติไทย ทำให้สิ่งที่ สิโรจน์ มีอาจใช้ประโยชน์ได้ในรูปแบบแท็คติกของ ราเยวัช

ก่อนหน้านี้ “ปีโป้” ถูกจับไปยืนตัวริมเส้นไปส่วนใหญ่ในการเล่นให้ทีมชาติ บางนัดร่างกายเขาสามารถสร้างจุดเปลี่ยนได้ (หากนึกไม่ออก ให้ย้อนดูเกมเสมอ ออสเตรเลีย 2-2 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2018)

อย่างไรก็ตามดูเหมือนหนนี้ ราเยวัช จะมีไพ่ตายที่ต่างออกไป

หลังการซ้อมล่าสุด เฮดโค้ชทีมชาติไทยได้มีการซ้อมลงทีม 2 ฝั่ง โดยที่ สิโรจน์ ถูกจับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ รวมถึง กองหลัง

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ตำแหน่ง “ถนัด” โดยธรรมชาติของเจ้าตัว แต่อย่างที่บอกว่า สิ่งที่เขามีคือสรีระที่แข็งแกร่ง การดึงประโยชน์ของ สิโรจน์ ที่มีอยู่ มาเสริมเติมแต่งในแท็คติก ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ (สมัยก่อนผู้เขียนยังเอา โรแบร์โต คาร์ลอส มายืนกองหน้าคู่ โรนัลโด ในวินนิ่ง 3 เลย)

หรือครั้งหนึ่งใครจะคิดว่ากองหน้าอย่าง อลัน สมิธ จะพบตัวเองในตำแน่งใหม่อย่าง มิดฟิลด์ตัวรับ

แม้ไม่มีผลลัพธ์ชัดเจนว่า การลองหาบทบาทใหม่ให้ สิโรจน์ จะโอเคหรือ และน่าสนใจว่าการ “เดิมพัน” หนนี้ของ ราเยวัช จะออกหัวหรือก้อย

ในมุมของ สิโรจน์ เขาไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่แล้ว เพราะนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อ “โอกาส” เข้ามาเคาะประตู ก็ต้องเปิดคว้ามันไว้ และทำให้ดีที่สุด

ดูเหมือนครั้งนี้ จะเป็นอีกหนที่เขาจะได้โอกาสพิสูจน์ฝีตีนกับ “บทบาทใหม่” ที่ได้รับอาจไม่ใช่ภาพคุ้นตาที่เราเคยเห็น

และ สิโรจน์ ฉัตรทอง อาจฉายแสงในตำแหน่งที่ไม่ใช่ธรรมชาติของเขาก็เป็นได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด