นับตั้งแต่หมดยุค “แบ็กขวาฟ้าประทาน” ปกาศิต แสนสุข ที่เปรียบเสมือนแบ็กขวาสแตนดาร์ดไป ทัพกิเลนผยอง ชนกับโจทย์นี้บ่อยครั้ง แม้จะพยายามหาแข้งรายอื่นมาทดแทน ทว่าก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจ

ทางออกสุดท้ายคือ การใช้ผู้เล่นตำแหน่งอื่นมา “ขัดตาทัพ” ในตำแหน่งแทน

ปิยพล ผานิชกุล (จากมิดฟิลด์มาเล่นแบ็กขวา)

จักรพันธ์ แก้วพรม (จากมิดฟิลด์มาเล่นแบ็กขวา)

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์(จากมิดฟิลด์มาเล่นแบ็กขวา)

วัฒนา พลายนุ่ม (จากมิดฟิลด์มาเล่นแบ็กขวา)

เหล่านี้คือกลุ่มนักเตะดัง ที่ถูกปัดฝุ่นเปลี่ยนบทบาทมายืน แบ็กขวา ให้ เอสซีจี เมืองทอง ทั้งสิ้น จนกระทั่งทีมมาคว้า ทริสตอง โด ได้ ตำแหน่งดังกล่าวจึงถูกสัมปทาน ให้ฝรั่งหน้าหล่อรายนี้ยึดครอง โดยสลับกับ อดิศร พรหมรักษ์ และ วัฒนา ในกรณีที่ โด ถูกดันไปเล่นเป็นปีก  

อย่างไรก็ดี หลังจบซีซั่น 2018 ทริสตอง โด ย้ายไปเหล่สาวที่ ม.ธรรมศาสตร์ กับ ทรู แบงค็อกฯ ทำให้ “แบ็กขวา” เป็นหลุมใหญ่ในทีมอีกครั้ง

แบ็กขวาแท้ที่มีอยู่อย่าง สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ขวบวัยและประสบการณ์ อาจยังไม่ตอบโจทย์ทีมดีพอ ทำให้ทีมเบนเข็มเล็งไปที่ ฟิลิป โรเลอร์ จาก ราชบุรี มิตรผล แต่ดีลดังกล่าวถูกขัดขวางโดย “ราชันมังกร”

และทีมมาลงเอยกับ “เซฟ” ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล

แบ็กขวาวัย 25 ปี ผู้นับตัวเองเป็น “บุตรพระเจ้า” ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ พัทยา ยูไนเต็ด และฟอร์มการเล่นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ

แม้จะเพิ่งหายจากอาการเอ็นไขว้หลังขาด แต่เมื่อกลับมา เขาช่วยทีมได้อย่างดี จนมีเสียงเชียร์ถึงขั้นให้ติดทีมชาติไทย

อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไป “เซฟ” ถือเป็นหนึ่งในลูกหม้อและเด็กปั้นคนหนึ่งของ “กิเลนผยอง” ที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์จากระบบอะคาเดมีสมัยเยาวชน

ศุภนันท์ คือคือหนึ่งในผลผลิตจากรั้ว “เจเอ็มจี อะคาเดมี” ที่คอยป้อนดาวรุ่งฝีตีนดีให้กับ เอสซีจี เมืองทอง แต่ชื่อของเขากลับไม่ถูกเลือกเข้าสโมสร จนต้องแบกสตั๊ดไปตะบันชีวิตที่อื่น

แม้จะได้รับสัญญาจาก “กิเลนผยอง” ในวัย 18 ฝน ทว่าเจ้าตัวแทบไม่มีส่วนร่วมกับ เมืองทอง สักนิด เมื่อไทมไลน์ลูกหนังส่วนใหญ่ของ “เซฟ” คือการถูกปล่อยยืมไปเล่นที่อื่นมากกว่า

แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล, จันทบุรี เอฟซี, นครนายก เอฟซี, ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมเหล่านี้คือปลายทางที่ ศุภนันท์ ถูกปล่อยไปค้าแข้ง จนขายขาดให้ พัทยา ยูไนเต็ด

แบ็กขวา พาเปลี่ยนชีวิต

อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนคือ ศุภนันท์ ไม่ได้เริ่มเล่นอาชีพในตำแหน่ง “แบ็กขวา” แต่อย่างใด

เขาคือตัวรุกดาวรุ่งธรรมชาติ ที่ถูกโชคชะตาบิดเปลี่ยนตำแหน่ง หลังวันหนึ่งสมัยที่ค้าแข้งกับ นครนายก แบ็กขวาทีมเกิดเจ็บทั้งหมด แอนดรูว์ ออร์ด โค้ชโมงยามนั้นจับ “เซฟ” มาเล่นขัดตาทัพ แต่เจ้าตัวดันทะลึ่งทำได้ดี แถมยิงประตูได้อีก

จากนั้นเป็นต้นมา ศุภนันท์ บุรีรัตน์ คือ 1 ในแบ็กขวาชั้นดีของเมืองไทย

แม้ชื่อชั้นจะไม่โด่งดัง ขายได้ เหมือนผู้เล่นรายอื่น ทว่าหากวัดกันที่ฝีตีนเพียวๆ ผู้เขียนเชื่อว่า ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ผลงานไม่เป็นรองแบ็กขวาคนไหนที่ติดทีมชาติไทย

บนวัยเบญจเพส “เซฟ” บรรเลงฝีตีนได้โดดเด่นทั้งเกมรุก-รับ เล่นในระบบกองหลัง 3 และ 4 ได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ แม้จะมีจุดอ่อนตรงลูกกลางอากาศบ้างก็ตาม

ทำให้การเสริมทัพของ เอสซีจี เมืองทอง ในตลาดหนนี้ถือว่าน่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะนี่คือหนึ่งในผู้เล่นที่เปรียบเสมือนการ “เกาถูกที่คัน” หลังที่ผ่านมาหลังบ้านกิเลนผยอง แทบไม่ต่างจาก “ประตูน้ำเซ็นเตอร์”

จากเด็กหนุ่มที่ถูกเมินเฉยสมัยดาวรุ่ง เวลาล่วงผ่าน เขาตะบันชีวิตบนโลกลูกหนัง ผ่านร้อนหนาวพิสูจน์ตัวเองนับไม่ถ้วน

ความตั้งใจ ผิดหวัง ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่ขวางหน้า เปลี่ยนเป็น “รางวัล” ที่ใครหลายคนเริ่มมองเห็น

จนได้กลับมายืนอยู่ในจุดที่วาดฝันไว้