:::     :::

ของเสียที่พา 'หงส์' บินสูง

วันพุธที่ 02 มกราคม 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
23,464
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บางครั้งความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องมาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี

    ดังเช่นสำนวนไทย คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน คนจะรวย รวยศิลทาน ใช่บ้านโต

    โอเค ในวงการฟุตบอลทุกวันนี้ ไม่มีใครเถียงว่าเงินเป็นปัจจัยแรกของความสำเร็จ

    เมื่อมีเงินการจะหานักเตะที่เปี่ยมไปด้วยศักยรูป เอ้ย!!!... ศักยภาพซึ่งราคาต้องแพงอยู่แล้วก็คงจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไร

    แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล แน่นอนกับพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้พวกเขายังไม่ได้ประสบความสำเร็จ และก็ไม่มีอะไรที่มาการันตีว่าพวกเขาจะจบฤดูกาลด้วยรอยยิ้ม ทว่าการที่ทีมอย่างพวกเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดต่อตีกับทีมเงินถังอย่าง แมนฯ ซิตี้ คือสิ่งที่ต้องได้รับคำชื่นชม

    โอเค พวกเขาใช้เงินไปเยอะกับทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ 75 ล้านปอนด์และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ในราคา 67 ล้านปอนด์

    แต่ถ้ามองให้ลึกบางตำแหน่งที่เป็นตัวหลักของทีมปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้ทุ่มเงินบ้าคลั่งซื้อดาราดังจากทีมใหญ่เสียเมื่อไหร่

    นี่คือสิ่งที่หงส์แดงได้ประโยชน์ ขณะที่มองไปยังทีมอื่นๆ แล้วแทบไม่มีใครเป็นเหมือนพวกเขาเลย

    ตลอด 3 ซัมเมอร์ที่ผ่านมา จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ได้พบเพชรเม็ดงามจากเหล่าทีมตกชั้น และพวกเขาก็ได้เสนอโอกาสให้กับแข้งจากทีมพวกนั้นได้อยู่ต่อไปในเวทีพรีเมียร์ลีก

    พวกเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เซอร์ดาน ชากิรี่

    ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คงจะทะยานไกลมาเป็นจ่าฝูงหลังผ่านพ้นช่วงปีใหม่พร้อมท้าชิงแชมป์อย่างเต็มตัวไม่ได้เลยหากขาดใครคนใดคนหนึ่งจาก 3 คนนี้ไป

    พวกเขาเหล่านั้นเคยหัวใจแตกสลายเมื่อต้นสังกัดต้องร่วงหล่นชั้นจากลีกสูงสุด แต่มันไม่ใช่กับทุกวันนี้แล้ว

    เริ่มกันที่ ไวนัลดุม เขาถูกเซ็นสัญญามาจาก นิวคาสเซิ่ล เมื่อปี 2016 ตอนนั้นดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์เด่นมากในเรื่องของการเล่นเกมรุก เนื่องจากเคยเป็นพวกนักเตะริมเส้นมาก่อนในสมัยดาวรุ่ง

    สำหรับการเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางที่สาลิกาดง เขาก็มีดีบ้าง แย่บ้าง ส่วนใหญ่เกมดีๆ ก็จะเกิดขึ้นที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค แต่พอเป็นนัดเยือนทีไร ไวนัลดุม หายเข้ากลีบเมฆทุกที จนได้ชื่อว่านักเตะเกมเหย้า

    แต่พอสีเสื้อเปลี่ยน ต้นสังกัดเปลี่ยน ไวนัลดุม กลับยกระดับตัวเองขึ้นมาได้เยอะมาก โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมิดฟิลด์ระดับมาสเตอร์คลาสของทีมเลยทีเดียว

    ย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ไม่แปลกที่ จีนี่ จะมีข่าวอาจถูกปล่อยตัวออกจากทีม เพราะหงส์แดงใช้เงินไปกว่า 90 ล้านปอนด์ในการคว้าทั้ง ฟาบินโญ่ และ นาบี เกอิต้า มาร่วมทีม ซึ่งมันกลายเป็นทับตำแหน่งกับมิดฟิลด์ดัตช์แมนพอดี

    แต่ขอบอกว่า ไวนัลดุม เหมือนถอดรูปเงาะงัดเอาระดับการเล่นที่แท้จริงออกมา เรียกได้ว่าทุกวันนี้กลายเป็นคนที่ลงตัวจริงเยอะที่สุดในแผงกลาง และเป็นคนที่ คล็อปป์ จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว

    ถัดมาก็คือ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน รายนี้ต้องบอกว่าน่าเซอร์ไพรส์ของจริง

    เขาย้ายจาก ฮัลล์ ซิตี้ มายังถิ่นแอนฟิลด์ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์ ในปี 2017 และ ลิเวอร์พูล ก็ขาย เควิน สจ๊วร์ต ไปให้ ฮัลล์ ในราคา 8 ล้านปอนด์เช่นเดียวกัน

    มันเหมือนเป็นการได้นักเตะที่ไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียว เพราะเอาเข้าจริง สจ๊วร์ต จะไปเบียดลงตรงไหนในแผงกลางของหงส์แดงได้

    แต่ทีแรกแฟนทีมอื่นต่างเย้ยหยัน ขนาดเหล่าเดอะ ค็อป เองก็ยังไม่เชื่อมือเลยว่าแบ็กซ้ายจากทีมตกชั้นมันจะมาอุดรูรั่วตรงตำแหน่งนี้ที่มี อัลเบร์โต้ โมเรโน่ เพียงแค่คนเดียวจนต้องถอย เจมส์ มิลเนอร์ มาประคองได้อย่างไร

    ช่วงแรก โรเบิร์ตสัน ไม่ได้รับโอกาสเลยจนมีข่าวเตรียมเก็บข้าวของออกจากทีมในเดือนมกราคมถัดมาเสียด้วยซ้ำ

    นักเตะต้องเข้าไปเคาะห้องทำงานของ คล็อปป์ พร้อมหล่นประโยคประมาณว่าเขาต้องทำอย่างไรถึงจะได้ลงเล่นบ้าง สุดท้ายพอได้รับคำชี้แนะจากกุนซือ เจ้าตัวก็ก้มหน้าก้มตาแสดงให้เห็นในสนามซ้อม ประจวบกับดวงดีด้วยที่ โมเรโน่ ซึ่งเป็นตัวจริงตอนนั้นดันเจ็บพอดี จากนั้น 'ร็อบโบ้' ก็หวดตัวจริงยาวมาถึงปัจจุบันนี้เลย

    พูดถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง ผมจะเล่าให้ฟังว่าอันที่จริงว่าดาวเตะเลือดวิสกี้ไม่ได้เป็นเป้าหมายของ คล็อปป์ เลย

    ตัวจริงที่เขาอยากได้ก็คือ เบน ชิลเวลล์ และ เลสเตอร์ เองก็เรียกราคาที่โก่งจนเกินไปสำหรับนักเตะที่ยังไม่มีประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ ณ เวลานั้น

    ดูเหมือน คล็อปป์ จะสายตาเฉียบคมไม่เบา เพราะทุกวันนี้ ชิลเวลล์ เองก็เป็นตัวหลักของทัพจิ้งจอก และเป็นแบ็กซ้ายอันดับหนึ่งของทีมชาติอังกฤษแซงหน้า ลุค ชอว์ ไปแล้ว

    เมื่อไม่สมหวัง กุนซือชาวเยอรมันก็ยอมรับ และพร้อมก้มหน้าก้มตากับขุมกำลังที่มีในมือ แต่ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬาของทีมได้เสนอทางเลือกอย่าง โรเบิร์ตสัน มาให้กับ คล็อปป์ และก็ตื้อจนนายใหญ่เมืองเบียร์ยอมเปิดใจ

    สุดท้ายก็ได้ของดีราคาถูกอย่างที่เห็น

    ล่าสุดก็คือ ชากิรี่ ดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้เคยได้รับการจับตาว่ามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นยอดแข้งของวงการลูกหนังในสมัยยังเป็นดาวรุ่งอยู่ที่ บาเยิร์น

    แต่พอขึ้นที่นั่นได้ไม่สุด ชากิรี่ ก็ต้องย้ายทีม และก็เป็นความล้มเหลวอย่างที่สุดกับ อินเตอร์ มิลาน

    สโต๊ค คือทีมที่ 'เจ้าชาร์ก' กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง และแม้ทีมจะตกชั้น แต่หากพูดเรื่องความสามารถส่วนตัวแล้วไม่มีใครเถียง

    ปัญหาก็คือ "ทัศนคติ" ที่ใครหลายคนไม่ว่าจะเป็น แกรี่ เนวิลล์ หรือ ชาร์ลี อดัม ที่ออกมาเสี้ยมว่าหงส์แดงเสี่ยงมากกับการมี ชากิรี่ ในทีม

    แต่ขอโทษราคาราว 12 ล้านปอนด์ พร้อมผลงาน 6 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการเป็นตัวจริง 10 นัดในฤดูกาลนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีที่ ชากิรี่ สำคัญแค่ไหน

    ที่สำคัญราคา 3 คนนี้รวมกันก็ประมาณแค่ 45 ล้านปอนด์เอง

    มันถูกกว่านักเตะค่าตัว 89 ล้านปอนด์ของบางทีมที่เพิ่งเล่นไล่โค้ชตั้งครึ่งหนึ่งแหนะ!!!

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด