แม้ ทีมชาติไทย จะได้ “บัตรผ่าน” เข้ารอบสุดท้าย เอเชียนคัพ 2019 โดยอัตโนมัติ หลังทะลุเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก โซนเอเชีย จนถูกจับยกมาไว้ในโถ 2 กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), อินเดีย และ บาห์เรน แต่นั่นก็ไม่ใช่งานง่าย
กอปรกับ มิโลวาน ราเยวัช ยังต้องวางชิพอนาคต “เดิมพัน” กับผลงานทีมชุดนี้ หลัง “ล้มเหลว” มาในศึกอาเซียนคัพ หากไม่สามารถผ่าน “รอบแรก” ได้ กิโยตินลูกหนังพร้อมหั่นขาเก้าอี้กุนซือขาดทันที
อีกทั้งการทดลอง เปลี่ยนแปลงผู้เล่น ขันแท็คติกใหม่ ทำให้หลากเสียงวิเคราะห์กันต่างไป ถึงผู้เล่น 11 คนแรก ของ ราเยวัช ว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไร
วันนี้เลยขออนุญาต “เดา” 11 คนแรก ในใจเฮดโค้ชเลือดเซิร์บ ก่อลงสนามทำแบบทดสอบลูกหนังภาคปฏิบัติกับ อินเดีย ในช่วงเย็นวันอาทิตย์นี้ (ว่าใจเราจะเหมือนหลายคนหรือไม่)
ผู้รักษาประตู : ฉัตรชัย บุตรพรม
ตำแหน่งนี้ถือว่าคู่คี่สูสี จะจับ ศิวรักษ์ หรือ บอย ลงเฝ้าเสาก็ถือว่าไม่น่าเกลียด แต่เกมนี้ต้องเจอกับ อินเดีย ที่อาจใช้บอลกลางอากาศโจมตี การออกมาตัดบอลจากลูกครอส ลูกเตะมุม ไหวพริบการเซฟต่างๆ iวมถึงสรีระ ยังเชื่อว่า ฉัตรชัย ตอบโจทย์แท็คติก ราเยวัช มากกว่าแบ็กขวา : มิก้า ชูนวลศรี
เกมรับที่แน่นไว้ใจได้ ทำให้เขาน่าจะกลายเป็นแบ็กหมายเลข 1 ของทีมชุดนี้ไป ในวันที่ต้อง “ซื้อเกมรับ” ตามสไตล์ถนัดราเยวัช สไตล์ของ มิก้า น่าจะเข้าทาง ทั้งการเล่นแบบทุ่มเท ช่วยอุดหลังบ้านได้อย่างดีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : พรรษา เหมวิบูลย์ / เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว
หากใครคนหนึ่งไม่บาดเจ็บ คงไม่มีคู่ไหนเหมาะสมเท่า “โย่ง & เหลิม อีกแล้ว แม้จะมีข้อผิดพลาดบ้างในอาเซียนคัพ แต่ชั่วโมงบินที่เป็นคู่ขากันมาในทีมชาติ และความเข้าใจเกม น่าจะทำให้ทั้งสองดูดีกว่าตัวเลือกที่เหลือแบ็กซ้าย : กรกช วิริยอุดมศิริ
แม้รังวัดจะเป็นรอง ธีราทร แต่เชื่อว่า ราเยวัช จะดันอุ้มเป็นเล่นข้างบนมากกว่า นั่นทำให้ กรกช จองสัมปทานตำแหน่งนี้อย่างไม่มีใครแย่ง ยิ่งมีลูกตั้งเตะชูโรง 11 คนแรก ก็ไม่น่าจะมีใครเหมาะสมกว่า “มิ้ง” อีก
มิดฟิลด์ตัวกลาง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ / ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
ยังเชื่อว่าคู่นี้ยังจะได้สตาร์ท 11 คนแรก เหตุผลคือ นิว เป็นตัวยืนนำแหน่งนี้ยุค ราเยวัช อยู่แล้ว ทั้งเกมรับ-รุก ขณะที่ ตั้ม แม้ฟอร์มยังไม่คงที่ แต่เป็นตัวเลือกเดียวในทีมที่เป็น กองกลางตัวรับธรรมราติ การมาเล่นระดับเอเชียที่เกมรับต้องรัดกุม จึงต้องมี ธนบูรณ์ ในสนามไว้ให้อุ่นใจปีกขวา : ทริสตอง โด
ฝรั่งหน้าเด็ก กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ผลงานคงไม่ต้องพูดถึง เกมเติมเกมแบบไม่หยุดพัก วิ่งเหมือนหมาบ้า ทำให้เขาเล่นค่อนข้างโดดเด่น และครั้งนี้น่าจะปล่อยของในเอเชียนคัพ ได้พอตัวเลยทีเดียว โดยมีแข้งอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (เปลี่ยนตำแหน่งมาเล่น) รวมถึง สิโรจน์ ฉัตรทอง คอยสแตนด์บายปีกซ้าย : ธีราทร บุญมาทัน
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้คงไม่มีใครมาแย่ง “อุ้ม” เรื่องฝีตีน ประสบการณ์ในทีมชาติ คงไม่ต้องสาธยายให้เมื่อย บทบาทของ ธีราทร ครั้งนี้ น่าจะเป็นปีกที่คอยครอส และสร้างสรรค์เกมริมเส้นให้กองหน้าทำประตู โดยมีแข้งอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด รอโอกาสข้างสนามเพลย์เมกเกอร์ : ชนาธิป สรงกระสินธ์
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้ถูกสัมปทานไว้หลายปีแล้ว และไม่มีใครมาแย่งตัวจริง “เจ” ได้ สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าในตำแหน่งนี้คือ ราเยวัช จะวางแท็คติกแบบไหน ที่จะเรียกฟอร์มการเล่นในทีมชาติของ ชนาธิป ออกมาให้ได้มากกว่านี้ โดยตำแหน่งนี้มีผู้เล่นอย่าง สุมัญญา ปุริสาย และ สรรวัชญ์ เดชมิตร รอโอกาสกองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา
อีกตำแหน่งที่หาก “มุ้ย” อยู่คงยากที่จะมีใครมาเขี่ยเขาหลุดจากตัวจริง แน่นอนว่าดาวยิงเบอร์ 1 ทีมชาติไทยรายนี้ จะได้รับโอกาสก่อนใคร โดยมีรุ่นน้องอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร รอรับโอกาสแทนที่
