:::     :::

'วีเออาร์'ไม่ผิด...ใครผิด?

วันพุธที่ 09 มกราคม 2562 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,975
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เกมคาราบาวคัพที่ เวมบลีย์ เป็นอีกครั้งที่มีปัญหาคาใจเกิดขึ้นกับจังหวะใช้ 'วีเออาร์' โดยเฉพาะในฟุตบอลอังกฤษที่เรียกได้ว่ายังมือใหม่หัดขับ

ทั้งคนเสียประโยชน์ เมาริซิโอ ซาร์รี่ และคนได้ประโยชน์ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต่างก็ไม่แฮปปี้กับการใช้ 'วีเออาร์' ที่ยังไม่มีมาตรฐานที่แน่ชัด อย่างจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน ซึ่งเป็นประตูเดียวในเกมนี้

เหตุการณ์ในนาทีที่ 27 ผู้เล่น เชลซี รุมประท้วง ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินอย่างหนัก ไม่ใช่เพราะเถียงว่าไม่ฟาวล์ ไม่ใช่เพราะเถียงว่าไม่ล้ำหน้า เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไง 'วีเออาร์' ก็จะได้ทำหน้าที่นี้
แต่ที่เถียงเพราะผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าค้างเอาไว้นี่แหละ!
หลายๆ ครั้งในหลายๆ เกม จังหวะยกธงล้ำหน้าถูกเป่าปรี๊ดโดยผู้ตัดสิน ทุกคนหยุดวิ่ง และ 'วีเออาร์' ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้งาน แต่ไม่ใช่กับเกมที่ เวมบลีย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ โอลิเวอร์ ปล่อยให้ เคน วิ่งต่อทั้งที่ธงยังยกค้างเอาไว้ จึงมีน้ำหนักพอที่จะทำให้ผู้เล่น เชลซี ไม่ว่าจะเป็นผู้รักษาประตูหรือกองหลังหยุดเล่น
อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก มาร์ค แคล็ทเทนเบิร์ก อธิบายจังหวะนี้ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินไม่ควรยกธงค้างเอาไว้ เพราะแนวทางที่ ฟีฟ่า ชี้แนะคือการปล่อยให้ฝ่ายรุกได้เล่นไปก่อน จากนั้นถึงค่อยใช้ 'วีเออาร์' เช็กดูว่าล้ำหรือไม่ล้ำหน้า
เพราะหากเป็นผู้ตัดสินคนอื่น อาจเป่านกหวีดหยุดเกมเป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว หรือบางทีอาจเป็น แฮร์รี่ เคน หรือ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ที่หยุดวิ่งเพราะคิดว่าผู้ตัดสินคงเป่าตามธงของผู้ช่วยฯ
เหตุการณ์แบบนี้จึงเกิดจากการตัดสินใจของผู้ตัดสินและผู้ช่วยฯ ไม่ใช่ความผิดของ 'วีเออาร์'
ในลีกยุโรปหลายต่อหลายลีกที่ใช้งาน 'วีเออาร์' กันไปแล้ว ก็ล้วนมีปัญหาเกิดขึ้นแทบทั้งนั้น ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการตัดสินใจของผู้ตัดสินนั่นแหละ! ว่าจังหวะไหนจะเลือกใช้ หรือ จังหวะไหนไม่เลือกใช้ 'วีเออาร์'
ยกตัวอย่างง่ายๆ หากมีจังหวะหลุดเดี่ยวเกิดขึ้นแล้วธงไม่ยก ถ้ายิงเข้า 'วีเออาร์' จะถูกนำมาใช้งานว่าล้ำหรือไม่ล้ำหน้า
แต่ในทางกลับกัน หากจังหวะหลุดเดี่ยวนั้นถูกยกธงล้ำหน้า ทั้งที่ไม่ล้ำ แม้แต่ 'วีเออาร์' ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผู้ตัดสินจะเป่าหยุดเกม กลายเป็นฟรีคิกของคู่แข่งทันที
หรือบางเหตุการณ์ 'วีเออาร์' ก็ทำหน้าที่ได้เพียงแค่แสดงภาพช้าให้ผู้ตัดสินได้พิจารณาในหลายๆ มุมเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว การจะให้หรือไม่ให้จุดโทษ ให้หรือไม่ให้ใบแดง ก็ยังคงเป็นวิจารณญาณของผู้ตัดสินแต่ละคน ที่มาตรฐานไม่เหมือนกันอยู่ดี
อย่างในเกมใหญ่ รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ก็ยังเสียงแตกว่า แฮนด์บอลของ อีวาน เปริซิช สมควรเป็นจุดโทษของ ฝรั่งเศส หรือไม่
หรือแม้แต่การใช้ 'วีเออาร์' เกมแรกในอังกฤษอย่างเป็นทางการ ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 ระหว่าง ไบรท์ตัน เจอกับ คริสตัล พาเลซ ที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ฤดูกาลที่แล้ว ก็มีจังหวะกังขาเกิดขึ้นในช่วงท้าย กับประตูชัยของ เกล็น เมอร์รี่ย์ ที่แม้แต่นักเตะฝั่ง พาเลซ เองก็ยังเสียงแตกว่า แฮนด์บอล หรือ ไม่แฮนด์บอล เมื่อดูจากภาพช้าหลังจบเกม
ดังนั้น การจะตัดสินว่า 'วีเออาร์' เป็นฝ่ายผิดหรือถูกนั้นคงไม่ถูกต้อง เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นมนุษย์ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ เพียงแต่ในอนาคตคงจะต้องมีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกันมากกว่านี้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด