เป็นแฟนลิเวอร์พูลนี่เหนื่อยจริ งๆ นะครับ มันต้องลุ้นกันแทบจะทุกนัดเลย และดูเหมือนทุกอย่างคือ “บทพิสูจน์” ไปเสียทั้งหมด อย่างนัดนี้ก็เช่นกันครับ ลิเวอร์พูลนั้นเรียกได้ว่าเกิ ดวิกฤตเล็กๆ ในช่วงนี้ คือ พวกเขาแพ้ติดต่อกันมา 2 นัดแล้ว ไม่ว่าจะอ้างด้วยเหตุผลใดๆ มาก็ตาม แต่นี่คือความจริงและสถิติที่ เกิดขึ้นครับ หลายๆ คนคิดว่า"ยังโชคดี" ที่เกมนี้ลิเวอร์พูลยั งเจองานไม่ยากแค่ ไบรท์ตัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้นั้ น อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกมที่ตึ งเครียดที่สุดเกมหนึงในซีซั่นนี้ เลยครับ

-  ปัญหาก่อนเกม 

                เกมนี้นอกจากลิเวอร์พู ลจะแบกความกดดันจากการแพ้มา 2 นัดติด พวกเขายังมีปั ญหาขาดแคลนเซนเตอร์ฮาร์ฟอาชีพ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บแทบทุ กคนเลย ยกเว้นแต่เฟอร์กิน ฟาน ไดจ์ค เพียงคนเดียวที่พร้อมลงสนาม ทำให้คลอปป์ต้อง แก้ไขด้วยการส่ง ฟาบินโญ่ ลงมาเป็นเซนเตอร์ฮาร์ฟจำเป็น ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นการแก้ปั ญหาที่ดีที่สุดแล้ว จะให้ใช้ ไวจ์นัลดุม หรือใช้บริการเจ้าหนูฮูแฟร์ ก็ดูจะเป็นการเสี่ยงไปหน่อย ฟาบินโญ่นั้นมีการอ่านเกมที่ดี และการเข้าปะทะที่แม่นยำ จะมีจุดอ่อนก็แค่เรื่องความเร็ว แต่กับเกมที่พอจะเดาออกว่าจะเป็ น วันเวย์เกมแบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปั ญหาอะไร แต่แล้วก็ต้องปวดหัวเพิ่มขึ้น เมื่อมีรายงานว่า เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์มีอาการบาดเจ็ บจากการวอร์มอีก ยังดีที่ยังฝืนลงสนามได้ แฟนลิเวอร์พูลคงเริ่มรู้สึกได้ ตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ว่าเกมนี้อะไรๆ ดูไม่เข้าทางพวกเขาเลยแม้แต่นิด

- ปัญหาในเกม

                เกมนี้ถือว่าเป็นเกมยากของลิ เวอร์พูลมากๆ เกมหนึ่งเลยครับ ซึ่งต้องชมเจ้าบ้านอย่างไบรท์ตั นที่เล่นได้อย่างมีระเบียบวินัย และเล่นตามแท็กติกที่กุนซืออย่ าง คริส ฮิวจ์ตัน วางไว้ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่ อง พวกเขาไล่เพรสซิ่งลิเวอร์พูลสู งเพื่อให้ลิเวอร์พูลขึ้ นเกมลำบากและช้าลง และพอลิเวอร์พูลเสียงเวลาลำเลี ยงบอลขึ้นมา พวกเขาก็กลับตั้งขบวนรับกั นในแดนตัวเองแน่นไปหมด  ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลไม่ สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอั นเลยตลอดครึ่งแรก จะมีจังหวะหวาดเสียวก็แค่ลู กโหม่งที่ถากเสาไปของชากิรี่แค่ ครั้งเดียว  ตัวทีเด็ดอันตรายที่สุดของที มอย่าง โม ซาล่าห์นั้นแทบจะหายไม่ จากเกมเลย เพราะบอลไม่มาถึงเขาเลย ทำให้เขาเองก็ไม่สามารถสร้างอั นตรายใดๆ ให้กับกองหลังของไบรท์ตันเลยแม้ แต่น้อย ความตึงเครียดและความอึดอัดเริ่ มเกาะกินผู้เล่นลิเวอร์พู ลและกองเชียร์ของลิเวอร์พู ลมากขึ้นเรื่อยๆ จนหลายๆ คนอาจจะคิดไปไกลแล้ว ว่าเกมนี้เราอาจจะไม่ได้ ผลการแข่งขันที่ต้องการก็ได้ 

- จุดเปลี่ยนของเกม

                หลังจากเกมในครึ่งแรกของลิเวอร์ พูลทำอะไรไบรท์ตันไม่ได้ เจอร์เก้น คล๊อปป์ ก็ได้ทำการสลับสับเปลี่ยนการยื นตำแหน่งและการเล่นของผู้เล่นลิ เวอร์พูลบางคน โดยเขาให้ซาล่าห์ลงมาล้วงบอลตั้ งแต่ในแดนตัวเองเลย ไม่ต้องไปค้ำหน้าแบบครึ่งแรกอี กแล้ว เพราะทำแบบนั้นไป ก็ไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไร ทำให้ซาล่าห์นั้นได้บอลเยอะขึ้ นกว่าในครึ่งแรกมาก และพอเขาได้บอลเยอะขนาดนั้น ก็ทำให้เขามีความมั่นใจและจับจั งหวะของการเล่นในเกมนี้ได้จนได้ ประตูปลดล๊อกของลิเวอร์พูลก็เกิ ดจากความสามารถเฉพาะตัวอั นยอดเยี่ยมของเขา ที่ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษด้ านขวา แล้วลากเลี้ยงและม้วนพลิ กบอลจนหลุดการประกบของปาสกาล กรอสส์ไปได้ จนเขามีโอกาสได้ล่อเป้าจะๆ ทำให้กรอสส์จำเป็นต้องเหนี่ยวดึ งและเตะสกัดจนทำให้ซาล่าห์ล้มลง และกรรมการก็ให้จุดโทษกับลิ เวอร์พูลในจังหวะนี้นี่เอง ซึ่งซาล่าห์ก็ลุกขึ้นมายิงเอง เข้าไปได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ทีมได้ประตูปลดล๊อก และซาล่าห์ก็รักษาฟอร์มการยิ งของเขาเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดย 7 นัดหลังสุดเขายิงได้ 7 ประตู และตอนนี้ก็ทำให้เขาขึ้นนำตำแหน่ งดาวซัลโวของลีกร่วมกับผู้เล่นอย่างปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง และแฮรี่ เคน ตรงนี้น่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้กับซาล่าห์ นักเตะที่หลายคนค่อนขอดว่าจะเป็นนักเตะที่ดังแค่เพียงฤดูกาลเดียว

- ทดสอบสติ

                ลิเวอร์พูลได้ประตูที่พวกเขาต้ องการแล้ว ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ ได้ก็คือ รักษาประตูที่นำไว้ให้ได้ ซึ่งก็ถือเป็นการทดสอบสติของผู้ เล่นลิเวอร์พูลอีกครั้ง ว่าพวกเขาประสาทแข็งพอที่จะรั บแรงกดดันแบบนี้ได้ไหม  เมื่อก่อนตอนต้นฤดู กาลพวกเขาอาจจะทำได้อย่างไม่มี ปัญหาอะไร แต่กับเกมนี้ที่สถานการณ์กดดั นมากพอสมควร ถ้าพวกเขาต้ องการจะประสบความสำเร็จ พวกเขาก็ต้องผ่านเรื่องแบบนี้ ไปให้ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้ว เกมรับของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่ งเหมือนเดิม และมีสติมากพอที่จะเอาตั วรอดในเกมนี้ไปได้ พวกเขาไม่ทำฟาวล์พร่ำเพื่อ เพราะรู้ดีว่าไบรท์ตันนั้นเล่ นลูกนิ่งเก่ง การยืนตำแหน่ง และการช่วยกันเล่นเกมรับของทั้ งทีมในเกมนี้ถือว่าดีมาก ต้องชมสมาธิและความแน่วแน่ของทั้ งทีม เลยจริงๆ  

               

จบเกม ลิเวอร์พูลก็สามารถเอาตัวรอดคว้ า 3 คะแนนที่สำคัญมากๆ ไปได้ ทำให้อย่างน้อยๆ ช่องว่างของเขากับทีมตามก็ไม่ถู กลดลงมา และชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่ องของคะแนนอย่างเดียว แต่คือการพิสูจน์หัวใจของพวกเขา ว่าจะ “แข็ง” พอที่จะผ่านความกดดันแบบนี้ ไปได้หรือเปล่า และพวกเขาก็สามารถผ่านมั นไปจนได้ และกว่าจะถึงเป้าหมายที่่ พวกเขาต้องการ ก็คงจะมีบททดสอบอื่นๆ เข้ามาทดสอบพวกเขาเรื่อยๆ แบบนี้แหละครับ อย่างที่บอกว่าเชียร์ทีมนี้มันเหนื่อยจริงๆ แต่ความเหนื่อยจะหายไปเป็นปลิดทิ้งแน่ หากเมื่อจบฤดูกาลนี้พวกเขาจะมีของมาปลอบใจแฟนบอลด้วยคำว่า "แชมป์"

อีก 16 เกมที่เหลือ จะเป็นตัวกำหนดครับ ว่าลิเวอร์พูล ดีพอและแกร่งพอที่จะใช้คำนี้ได้หรือไม่ ... แชมป์พรีเมียร์ลีก !!