โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถวิลหาแนวรับที่จะเข้ามาเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ปล่อยภาระหนักไปตกอยู่กับ ดาบิด เด เคอา เพียงคนเดียว
บรรดาเซนเตอร์ที่มีอยู่ในตอนนี้ทั้ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เอริก ไบยี่, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์ ต้องยอมรับว่ายังไม่มีใครที่น่าวางใจได้แบบ 100 เปอร์เซ็นเลยสักคนเดียว
ที่ผ่านมา "ปีศาจแดง" ตกเป็นข่าวให้ความสนใจกับกองหลังมากหน้าหลายตา แต่สำหรับตอนนี้คนที่เป็นกระแสแรงที่สุดคนหนีไม่พ้นสตาร์จาก นาโปลี เพียงแต่ต้องทุ่มเงินก้อนโตหน่อยหากหวังมาร่วมทีม
แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงอยู่
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ลิเวอร์พูล ที่มีปัญหาในแนวรับแบบนี้ยอมควักกระเป๋าคว้าตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เพื่อเข้ามาปักหลักในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
และมันเป็นการลงทุนที่คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเมื่อยักษ์ใหญ่ชาวฮอลแลนด์เข้ามาช่วยให้ทีมมีเกมรับที่แกร่งขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เมื่อบวกกับ อาลีสซง ในช่วงซัมเมอร์ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดของยุโรปไปแล้ว
แน่นอนว่าแฟนยูไนเต็ดเองก็หวังให้ทีมมีความมั่นคงในแนวรับเหมือนกับคู่แข่ง และในเมื่อมีผู้รักษาประตูฝีมือดีอยู่แล้ว ก็เพียงหากองหลังสักคนเข้ามาคอยบัญชาเกมรับ
ไม่แน่ว่า กาลิดู กูลิบาลี่ คนนี้นี่แหละจะเข้ามาเป็น "ฟาน ไดค์" ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เหมือนกัน ไปดูกันว่ากองหลังทีมชาติเซเนกัลคนนี้มีดีอะไรกับค่าหัวที่ถูกตั้งเอาไว้ทะลุ 100 ล้านปอนด์
ความสามารถในเกมรับ
จุดแข็งของ กาลิดู กูลิบาลี่ อยู่ที่ความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ด้วยความสูงระดับ 195 เซนติเมตร ไม่ใช่ว่าใครจะผ่านไปได้ง่ายๆ
การเผชิญหน้ากับกองหลังชาวเซเนกัลไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเจ้าตัวมีการเข้าสกัดที่หนักหน่วงพร้อมที่จะเล่นงานแนวรุกคู่แข่งให้น่วมร่วงไปกองกับพื้น แน่นอนว่ายังรวมถึงลูกกลางอากาศที่ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน
ด้วยสถิติเข้าสกัดบอลเฉลี่ย 2 หนและเคลียร์บอลอีก 4 ครั้งต่อเกม ถือเป็นปราการหลังที่กองหน้าคนไหนก็ไม่ชอบทั้งนั้น
ความแข็งแกร่งคือคุณสมบัติที่แนวรับของยูไนเต็ดขาดไป จริงอยู่ทั้ง เอริก ไบยี่ และ ฟิล โจนส์ คือคนที่พร้อมเข้าอัดคู่แข่ง แต่ข้อเสียคือ "โฉ่งฉ่าง" มากเกินไป จนหลายครั้งโดนคู่แข่งหลอกเอาง่ายๆเหมือนกัน
การจับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ น่าจะเป็นทางออกที่ดี กองหลังชาวสวีเดนน่าจะเป็นคนที่เล่นคู่กับ กูลิบาลี่ ได้ดีในการตามเก็บจังหวะสอง และเป็นคนที่พร้อมชนเช่นกัน
ด้วยความอึด ถึก ทน แบบนี้คงไม่ยากกับการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นแบบฟุตบอลอังกฤษได้
ความเร็วที่ไม่ธรรมดา
การยืนกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่งานง่าย หลังมีการผลัดเปลี่ยนกุนซือจาก โชเซ่ มูรินโญ่ มาเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทีมก็กลับมาเล่นเกมรุกในแบบฉบับของตัวเองอีกครั้ง
ชัดเจนว่าเมื่อทีมเล่นเกมรุกแล้ว สิ่งสำคัญก็คือเกมรับที่ต้องมีสมาธิและพร้อมสำหรับการจัดการกับบรรดาแนวรุกคู่แข่งหากทีมเสียการครอบครองบอลและโดนโต้กลับเร็ว
แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในปัญหาของ "ปีศาจแดง" ในการที่มิดฟิลด์จะลงมาช่วยในการเล่นเกมรับ, เช่นเดียวกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ของ ลิเวอร์พูล, กาลิดู กูลิบาลี่ ถือเป็นกองหลังที่มีสปีดที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ที่สำคัญเขายังบีบพื้นที่ได้ดีอีกด้วย
แม้ร่างกายจะสูงใหญ่ แต่ความเร็วของเขาถือว่ายอดเยี่ยม และมันเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยทีมได้เป็นอย่างดีในการเบรกเกมของคู่แข่งเพื่อให้เพื่อนลงมาช่วยได้ทัน หรือแม้แต่การตัดเกมด้วยตัวเองทันที
นอกจากนี้แล้ว กูลิบาลี่ ยังมีการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมรวมถึงความเข้าใจในเกมอย่างสูง ซึ่งเป็นประโยชน์แน่นอนกับการตั้งรับ โดยเฉพาะในการดวลกับคู่แข่งแบบ "ตัวต่อตัว" ซึ่งไม่ง่ายที่จะผ่านเข้าไปได้
ดังนั้นการมาของ กูลิบาลี่ นี่แหละจะช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเปิดเกมรุกได้อย่างวางใจมากขึ้นโดยไม่ต้องพะวงหลังบ้านเหมือนอย่างที่ ลิเวอร์พูล ทำได้
ความฟิตที่ยอดเยี่ยม
บอกไปถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเมื่อ กาลิดู กูลิบาลี่ พลาดเกมเพียง 12 นัดจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ในช่วงระยะเวลากว่า 8 ฤดูกาลที่ผ่านมาในเส้นทางอาชีพ!
แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้น เขาลงสนามมาแล้วกว่า 300 เกมในเส้นทางโดยแทบไม่มีอาการบาดเจ็บเลย และเมื่อดูจากสภาพนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผ่านมาในแผงกองหลังที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานกันอย่างมากมาย กูลิบาลี่ น่าจะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้
กองหลังทีมชาติเซเนกัลเคยได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกสมัยที่ค้าแข้งกับ เม็ตซ์ แต่เขาใช้เวลารักษาตัวเพียง 44 วัน และพลาดการลงสนามให้ทีมเพียงแค่ 7 นัดเท่านั้น เกิดขึ้นในปี 2011/12
อีกครั้งในการค้าแข้งกับ นาโปลี ในปี 2014/15, เขาหายหน้าไป 2 เกมจากจังหวะปะทะคู่แข่ง และในปี 2016/17 ได้รับบาดเจ็บที่เข่าและหายหน้าไป 15 วัน ชวดลงเล่น 3 เกม
ถือเป็นนักเตะที่เจ็บไม่บ่อย และถึงเจ็บก็ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างดีเยี่ยม, เขาจะเป็นคนที่เข้ามาช่วยทัพปีศาจที่กองหลังเจ็บอยู่บ่อยครั้งได้เป็นอย่างดีแน่
ทักษะในการเล่นกับลูกฟุตบอล
เช่นเดียวกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, กาลิดู กูลิบาลี่ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่มีทักษะในการเล่นกับลูกบอลที่ยอดเยี่ยมกว่าเซนเตอร์พื้นๆทั่วไป
กองหลังวัย 27 ปีมีสถิติจ่ายบอลอยู่ที่ 75 ครั้งต่อเกมในฤดูกาลนี้ โดยเข้าเป้าถึง 88 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องง่าย แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของทักษะและการซ้อมอย่างหนัก
สตาร์จากนาโปลีแอสซิสต์ไปแล้ว 2 ครั้งในฤดูกาลนี้ โดยเฉลี่ยเปิดบอลในเกม 4.5 ครั้ง ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม เมาริซิโอ ซาร์รี่ เทรนเนอร์เชลซี พยายามอย่างหนักที่จะดึงมาร่วมทีมให้ได้ เพราะด้วยแนวทางการเล่นแบบกองหลังตักบอลข้ามแนวรับถือเป็นอีกอ็อปชั้นที่ทีมไหนก็ต้องการ
ด้วยสไตล์การเล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เน้นเกมบุก การผ่านบอลถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหากมีกองหลังที่ผ่านบอลได้ดีก็ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมไปเลยทีเดียว
ภาวะความเป็นผู้นำ
เมื่อมองไปที่บรรดากองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับว่าไม่มีผู้นำอย่างแท้จริงเหมือนสมัย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มีตัวอย่าง สตีฟ บรู๊ซ, แกรี่ พัลลิสเตอร์, ยาป สตัม, ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือ เนมานย่า วิดิช
พวกเขาคิดถึงกองหลังที่มีทั้งศักยภาพและมีความเป็นผู้นำ ซึ่งนอกจากจะมีศักยภาพ มีความสามารถในการเล่นเกมรับ และพร้อมที่จะผลักดันเพื่อนร่วมทีมให้กดดันคู่แข่งได้
ยูไนเต็ดต้องการคนที่พร้อมจะคำรามสั่งการณ์ ใครที่มีความดุดันและแข็งแกร่งในการนำทีม และ กาลิดู กูลิบาลี่ คือหนึ่งในจำนวนนั้น
เขาคือคนที่นอกจากแข็งแกร่งแล้วยังมีความมั่นใจและความเป็นผู้นำที่ดูเป็นธรรมชาติยามอยู่ในสนาม และพร้อมที่จะอัดใส่เพื่อนร่วมทีมหากมีความเฉื่อยช้าในการเล่น
กูลิบาลี่ มีศักยภาพในการผลักดันเพื่อนร่วมทีมจากแนวรับ แม้จะโดนกดดันจากคู่แข่ง แต่เขาไม่ตื่นสนาม เขาเข้าใจเกมและนี่คือคนที่ผีแดงต้องการอย่างมาก
หากสตาร์ทีมชาติเซเนกัลโยกมาอยู่กับยูไนเต็ด, ทีมจะมีแคแร็คเตอร์ที่ดูน่าเกรงขามมากขึ้น และเข้ามาปรับทัศนคติในเกมรับให้ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
