ดาวยิงจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตะบันไปแล้ว 5 ประตูนับตั้งแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ของทัพ "ปีศาจแดง" แทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ถือเป็นนักเตะที่ผลงานร้อนแรงที่สุดในยุคของเทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์เลยก็ว่าได้

         อันที่จริงก็ต้องบอกว้านักเตะในทีมแทบทุกคนล้วนพร้อมใจกันโชว์ผลงานยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่คนที่โดดเด่นและผู้คนจับตาก็อย่าง ดาบิด เด เคอา, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ปอล ป็อกบา, อองโตนี่ มาร์กซิยาล รวมถึง แรชฟอร์ด

         ในฐานะกองหน้ามักจะโดนจับตามากกว่าปกติ และการยิงประตูได้ก็คือตัวแปรที่จะพาให้ทีมคว้าชัยชนะมาครองได้ในแต่ละเกม

         ที่สำคัญก็คือ ยูไนเต็ดคว้าชัยมา 8 เกมรวดภายใต้การคุมทีมของ โซลชา นั่นทำให้กองหน้าหรือคนทำประตูได้รับคำชื่นชมมากเป็นพิเศษ

         สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเมื่อในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เล่นด้วยความอึดอัดกลายเป็นทีมที่เล่นเน้นเกมรับมากเกินความจำเป็น พอมาถึงปัจจุบันที่เกมรุกยิงประตูต่อเนื่อง เล่นแบบน่าตื่นตาตื่นใจก็เลยได้รับความสนใจมากหน่อย

         8 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์จากการลงสนาม 20 เกมในลีกฤดูกาลนี้ถือว่ายอดเยี่ยมไม่ว่าจะทั้งในฐานะดาวยิงหรือคนที่คอยแอสซิสต์ให้เพื่อน 

         กับการขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นปีที่ 4 ด้วยวัย 21 ปี กับการลงสนามทะลุหลัก 150 เกมไปแล้วต้องบอกว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา 

         เรียกได้ว่านับตั้งแต่หมดยุค "โกลเด้น เจเนเรชั่น" ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปั้นสุดยอดนักเตะอย่าง ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, เดวิด เบ๊คแฮม, นิคกี้ บัตต์ และสองพี่น้องตระกูลเนวิลล์อย่าง แกรี่ และ ฟิล ก็ไม่เห็นเด็กปั้นคนไหนของ "ปีศาจแดง" ที่ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นแบบนี้

         แน่นอนว่าทุกวันนี้หากพูดถึงดาวรุ่งทุกคนอาจจะชี้เป้าไปที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แต่เชื่อได้เลยว่าสำหรับแฟนยูไนเต็ด แรชฟอร์ด ก็ไม่เป็นรองเหมือนกันทั้งเรื่องความเร็ว ทักษะ และการจบสกอร์

         วันนี้ลองไปดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คุณอาจจะยังไม่เคยได้รู้เกี่ยวกับดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้

มีโอกาสเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

         ดาวเด่นคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเกือบที่จะไปสวมเสื้อสีฟ้าของฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน แต่ดีที่มันไม่ได้เกิดขึ้น

         ย้อนกลับไปสมัยที่เจ้าตัวเริ่มเล่นกับทีมจูเนียร์ของ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ถือว่าเป็นนักเตะที่ได้รับการจับตามองว่ามีแววก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพ ซึ่งหลายสโมสรล้วนส่งแมวมองมาซุ่มดูฟอร์มกันไม่น้อย แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมอยู่ด้วย

         แต่นั่นไม่เกิดขึ้นและไม่มีทางเกิดขึ้นเมื่อทางครอบครัวรู้สึกว่าจะเป็นการดีกว่าหาก แรชฟอร์ด จะสวมเสื้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเจ้าตัวเองก็ตามเชียร์ "ปีศาจแดง" อยู่ด้วย ซึ่งบิดาของนักเตะคิดว่าด้วยสไตล์การเล่นแล้วน่าจะไปได้สวยมากกว่าหากสวมเสื้อสีแดง

         "มาร์คัส มีสไตล์การเล่นที่หลากหลาย, เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมและทำได้ดีในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 - เราคิดว่า ยูไนเต็ด คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา" ดเวน เมย์นาร์ด พี่ชายของ แรชฟอร์ด กล่าว

ชื่นชอบคริกเก็ตไม่แพ้ฟุตบอล

         โรเบิร์ต แรชฟอร์ด บิดาของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถือเป็นนักคริกเก็ตที่มีฝีมือและฝันว่าจะให้ลูกเล่นเป็นอาชีพ เพียงแต่หัวหอกยูไนเต็ดมีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

         พี่ชายของเขาเผยว่า มาร์คัส เก่งในเรื่องการของตีบอล และยังเล่นโบว์ลิ่งอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ว่า มาร์คัส ฝักใฝ่ในการเล่นกีฬาตั้งแต่ยังเด็กเลย ซึ่งทางบิดา-มารดาเผยว่าสามารถปล่อยให้เขานั่งอยู่หน้าทีวีแล้วเปิดฟุตบอลให้ดู นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นสมัยที่อายุ 7 ขวบเท่านั้น

         นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ากีฬาอยู่ใน DNA ของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยหากเขาบอกว่าเขาชอบคริกเก็ต รวมถึงกีฬาชนิดอื่นๆด้วย

         "เขาตีคริกเก็ตได้ดีมากๆและเป็นนักโบว์ลิ่งที่ไม่ธรรมดา, แถมยังมีฝีมือในการเล่นเทนนิส, ปิงปอง รวมถึง สนุ๊กเกอร์อีกด้วย" พี่ชาย แรชฟอร์ด กล่าว

         "เขามีการผสมผสานการทำงานของสายตาและมีทักษะที่ยอดเยี่ยม, จนวันนี้, เขายังคงติดกีฬาต่างๆทางทีวีอยู่"

เป็นแฟนตัวยงของ โรนัลโด้

         อันนี้ไม่ได้หมายถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่คือ โรนัลโด้ ดาวยิงที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาแห่งบราซิลนั่นเอง

         มาร์คัส แรชฟอร์ด ยกให้ "เหยินใหญ่" เป็นไอดอลตั้งแต่สมัยยังเด็ก ดาวยิงแซมบ้ามีทักษะยอดเยี่ยม, เลี้ยงบอลดี, มีความเร็วที่หาตัวจับยากรวมถึงการจบสกอร์ที่ไร้ที่ติ คุณสมบัติทั้งหลายที่กล่าวมานั้นคุณสามารถเห็นมันได้จาก ดาวยิงปีศาจแดงผู้นี้ 

         ดาวยิงวัย 21 ปีแสดงออกถึงคุณลักษณะหลายๆอย่างในแบบที่ โรนัลโด้ เป็น และแน่นอนว่าเจ้าตัวเองรวมถึงแฟนๆก็ว่า แรชฟอร์ด จะก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ได้เหมือน โรนัลโด้ ซึ่งอันที่จริงแล้วทั้งคู่พูดชื่นชมซึ่งกันและกันเยอะมากเลยทีเดียว

         "เขาเล่นอย่าง อิสระ, ไม่ว่าเขาจะเล่นในตำแหน่งไหน, เขาลงไปในสนามและแสดงตัวตนออกมา, เมื่อคุณทำแบบนั้นได้ก็เมื่อคุณเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดออกมา" แรชฟอร์ด กล่าวถึง โรนัลโด้

         เขาเป็นนักเตะหนุ่มที่ยอดเยี่ยม, ผมเห็นตัวผมบางอย่างในตัวเขา - เขามีความกล้าและเขาเร็วมาก เขาไปลูกบอลได้อย่างดีเยี่ยม" โรนัลโด้ พูดถึง แรชฟอร์ด

มาร์คัส แรชฟอร์ด มาจาก เซนต์ คิตต์ส แอน เนวิส

         แม้ว่าเขาจะเกิดและเติบโตที่อังกฤษ แต่โดยรากฐานแล้ว มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นชาว "คิตติเที่ยน" หรือชื่อทางการคือ สหพันธรัฐเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส เป็นประเทศที่เป็นเกาะตั้งอยู่ในหมู่เกาะลีเวิร์ด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเลสเซอร์แอนทิลลีส ในภูมิภาคเวสต์อินดีส แถบแคริบเบียน จัดเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในซีกโลกตะวันตกเมื่อวัดจากขนาดพื้นที่และจำนวนประชากร

         แรชฟอร์ด มีพรสวรรค์ มีทักษะพิเศษ เขาเป็นคนเฮฮา รักสนุก และประชากรในบ้านเกิดของเขารักที่ได้เห็นเขาเป็นตัวแทนของประเทศ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น

         เขาอาจจะไม่ได้เป็นประชากรหรือติดต่อหรือกระทั่งไปเยี่ยมเยือน รวมถึงไม่ได้เป็นตัวแทนของชาติ แต่ชาติของเขาจะรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของเขาแน่นอน ความหวังก็คือขอให้มีคนได้รู้จักและมองเห็นแผ่นดินเล็กๆผืนนี้ว่ามีอยู่บนแผนที่โลก

เกิดในวันฮัลโลวีน

         31 ตุลาคม 1997 คือวันที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลืมตาดูโลกที่ไวเธ่นชอว์, ในขณะที่คนทั้งประเทศฉลองวันฮัลโลวีน, ตระกูลแรชฟอร์ดก็ได้ฉลองการมาของสมาชิกใหม่ 

         ใครจะรู้ว่า ณ วันนี้ เขาคือหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดคนหนึ่งของโลก, เขาเป็นน้องคนเล็กในบรรดาพี่ชายสองคนมี เดน แรชฟอร์ด และ ดเวน เมย์นาร์ด แรชฟอร์ด, ปัจจุบันในวัยเพียง 21 ปี, ใช่ครับ 21 เท่านั้น แต่เหมือนกับว่าเราได้ยินชื่อของเขามานานแล้ว

         ในวัยเพียง 8 ขวบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก้าวสู่อคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และใช้เวลาถึง 10 ปีกับการขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่และกลายเป็นดาวเด่นคนหนึ่งของทีม รวมถึงการติดทีมชาติอังกฤษไล่ตั้งแต่ยู-16, 18, 20, 21 และทีมชาติชุดใหญ่ในปัจจุบัน

         แน่นอนว่า "เร้ด อาร์มี่" คงอยากให้ แรชฟอร์ด อยู่ฉลองวันเกิดที่ "เธียเตอร์ ออฟ ดรีมส์" แห่งนี้ไปจนกว่าจะแขวนสตั๊ดไปเลย