โดยเฉพาะประเด็นของ “กุนซือคนใหม่”
แม้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขลูกหนังไทย จะผายมือให้ 2 เฮดโค้ชอย่าง ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย และ โชคทวี พรหมรัตน์ รับหน้าที่ “ขัดตาทัพ” ให้ช้างศึกไปก่อนในช่วงนี้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้ง โค้ชโต่ย และ โค้ชโชค จะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในอนาคต
มองตามหน้าเสื่อ “บิ๊กอ๊อด” อาจใช้ทัวร์นาเมนต์ 4 เส้าที่จีน ในช่วงเดือนมีนาคม ที่ช้างศึกต้องลงป่ะมือกับมหาอำนาจลูกหนังอย่าง อุรุกวัย, โคลอมเบีย และจีน เป็นเวที “นับคะแนน” ว่าสมควรได้ไปต่อหรือไม่มากกว่า
ขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลฯ เองได้เปิดรับสมัคร “โค้ชใหม่” ไปในตัวด้วย เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมสุดกับทีมชาติไทย เตรียมทีมในทัวร์นาเมนต์ถัดไป
เท่าที่ฉันทราบ เวลานี้มีเอเย่นต์เฮดโค้ชจากต่างชาติ 2-3 รายเข้ามา “ขายตรง” ยื่นใบสมัครกับสมาคมฟุตบอลฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี กลับมีหนึ่งในกุนซือที่ตกเป็นข่าวบนหน้าสื่อ และพอเรียกเสียงฮือฮาได้พอประมาณ
ชิน แท-ยง
เฮดโค้ชวัย 48 ปี ผู้พา เกาหลีใต้ ลุยบอลโลก 2018 และพาทัพโสมขาวลาก เยอรมัน ตกรอบแรก มีข่าวว่าสนใจจะเข้ามารับงานกับทีมชาติไทย
แม้แหล่งข่าวผู้เขียนจะยืนยันว่า แท-ยง ยังไม่ได้มายื่นใบสมัครคุมทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานข่าวว่าทางเอเย่นต์ หรือ เจ้าตัวเอง เตรียมเดินทางเข้ามาพบกับ “บิ๊กอ๊อด” ในเร็ววัน
ว่ากันแบบไม่มีปี่กลองมารำเชิด ฉันเชื่อว่านี่คือ “ตัวเลือก” ที่เหมาะสมกับ “ช้างศึก” เวลานี้มาก
ผ่านงานคุมทัพอดีตทีมดังในเคลีกอย่าง ซองนัม อิลวา ขณะที่ในทีมชาติเจ้าตัวมีประสบการณ์ทั้ง ทีมชาติเกาหลีใต้ชุดชิงแชมป์เอเชีย และ โอลิมปิก 2016 ชุดเยาวชน 20 ปี ชิงแชมป์โลก 2017 รวมถึง ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียล่าสุด
เป็นโค้ชที่เน้นแท็คติกเป็นหลัก ขณะที่แบบแผนการเล่นก็ไม่ “โบราณ” จนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวต้องอยู่ที่ทาง “บิ๊กอ๊อด” ด้วยอีกทางว่าจะซื้อโปรไฟล์นี้ไหม แน่นอนว่า “บทเรียน” จากการดึง มิโลวาน ราเยวัช มา จนพลาด “สอบตก” ไปในทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้านี้ คงทำให้ประมุขบอลไทยขบคิดหนัก
ส่วนอีกสิ่งที่แฟนบอล ตะขิดตะขวงใจอยู่คือ ข่าวที่เคยหลุดออกไปว่า โค้ชเกาหลี-ญี่ปุ่น ที่เน้นวินัยจ๋าเกินไปอาจไม่เหมาะกับ ฟุตบอลไทย และอาจทำให้ สมยศ ไม่อินกับ ชิน แท-ยง
ในฐานะคนที่เคยทำงานร่วมกับสมาคมฟุตบอลฯชุดนี้มาระยะหนึ่ง ขออนุญาตตอบว่าตัว “บิ๊กอ๊อด” ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับโค้ชเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น แน่นอน
นายกฯพร้อมเปิดรับกุนซือทุกสัญชาติ เข้ามารับเก้าอี้ทีมชาติไทย หากเห็นว่า “เคมีตรงกัน”
หมายความว่า หากข้อเสนอต่างๆ ทั้งแท็คติกการเล่น แผนงานระยะสั้น-ยาว สามารถจับต้องได้ ตัวเงินอยู่ในระดับที่จ่ายไหว คุยภาษาฟุตบอลกันรู้เรื่อง ก็ไม่มีปัญหา
มากกว่านั้น ชิน แท-ยง เข้าใจวัฒนธรรมชาวเอเชียเป็นทุนเดิม หรือศึกษาฟุตบอลไทยมา จุดนี้ทำให้รังวัดของเขาน่าจะดูดีกว่า เฮดโค้ชคนอื่นจากยุโรป
เรียกว่ามีทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้นายกสมาคม “ไม่อาย” (ในความคิดผู้เขียน)
มีเฮดโค้ชโปรไฟล์ดี ราคาไม่สูง หลุดมาให้พิจารณาด้วยตัวเอง ก็อยู่ที่ดุลยพินิจสมาคมฟุตบอลฯแล้วว่า
จะซื้อหรือไม่…
