:::     :::

จากพี่น้อง แด่ "กัปตันโม้" ผู้เป็นที่รักของทุกคน

วันจันทร์ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
3,097
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเทสติโมเนียลแมตช์ของ "กัปตันโม้" พิภพ อ่อนโม้ ตำนานกองหน้าของ ชลบุรี เอฟซี ผู้เป็นที่รักของเพื่อนพี่น้องและแฟนบอลทุกๆ คน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสุขปนซึ้งตลอดทั้งงาน วันนี้ผมขอรวบรวมความคิดเห็นของบุคคลส่วนหนึ่งที่เคยร่วมงานกันมาทั้งในและนอกสนาม ว่าเขารู้สึกเช่นไรกับ "ตำนานฉลาม" ผู้นี้

อรรณพ สิงห์โตทอง

รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี

สโมสรชลบุรีของเรา ให้การสนับสนุนทุกองคาพยพที่เกี่ยวกับสโมสร ไม่ใช่แค่นักฟุตบอล แต่ดูแลและผลักดันทุกคนไม่ว่าจะเป็นโค้ช, คนดูแลสนาม, แม่บ้าน, คนทำความสะอาด เพราะมีทุกคนช่วยกันเราถึงอยู่ร่วมกันมาได้นานขนาดนี้ และเทสติโมเนียลแมตช์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจัดให้คนที่เลิกเล่นเท่านั้น ตอนแรกพี่ก็บอกโม้ว่าไม่ต้องเลิกก็ได้ แต่โม้เขายืนยันว่าขอเลิกดีกว่า ส่วนเบอร์ 10 เราก็ตั้งใจว่า น้องอเดล ลูกชายของโม้ตอนนี้อายุ 8 ขวบแต่ก็มีแวว อีกซัก 2 ปีก็คงเอาเข้าอคาเดมี่ของชลบุีรี และในอนาคตเราก็รอมอบเบอร์ 10 ให้ลูกชายเขาสืบทอดต่อจากพ่ออยู่แล้ว 

พี่เห็นโม้มาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเข้ามาเรียนที่ อัสสัมชัญ ศรีราชา จนได้ทุนไปเรียนที่ศรีปทุม ตอนนั้นสโมสรชลบุรียังไม่ เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่ เขาก็เลยไปเล่นให้บีอีซี เทโร ศาสน ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไกลๆ ไปซ้อมทุกวัน สิ่งที่เราเห็นมาตลอดก็คือ โม้เขามีวินัยในตัวเองสูงมากทั้งในและนอกสนาม เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักเตะที่ยังเล่นอยู่ได้เจริญรอยตาม ว่าถ้าประพฤติตัวได้ดีแบบเขา ก็สมควรได้รับเกียรติยศแบบนี้ เราเป็นสโมสรแรกเลยนะตั้งแต่มีไทยลีกยุคใหม่ที่จัดเทสติโมเนียลแมตช์ให้นักเตะ ต่อไปเราก็อาจจะได้เห็นงานของ ต่าย (ศราวุฒิ จันทะพันธ์) หรือ โต้ง (นันทโชติ โพธิ์นา) หรือ บุรีรัมย์ ก็อาจจัดงานให้ ศิวรักษ์ (เทศสูงเนิน) หรือ สุเชาว์ (นุชนุ่ม) ที่ทุ่มเทเพื่อสโมสรมาตลอดก็เป็นได้

ตอนนี้โม้เขาก็ได้รับการสนับสนุนเรื่องอบรมโค้ชจนสอบระดับ เอ ไลเซ่นส์ ไปแล้ว และต่อไปเขาก็จะกลับมาพัฒนาสโมสรของเราเหมือนกับที่เราเคยผลักดันหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น แดง (ทรงยศ กลิ่นศรีสุข) ที่เขาไปเน้นสายวิทยากร หรือ จเด็จ (มีลาภ), โย่ง (วรวุฒิ ศรีมะฆะ), เทิดศักดิ์ (ใจมั่น), โบ้ (จักรพันธ์ ปั่นปี) และอีกหลายๆ คน ยังไงอนาคตโม้เขาต้องได้เป็นโค้ชของชลบุรีอยู่แล้วครับ 



วิทยา เลาหกุล 

ผอ.ฝ่ายเทคนิค ชลบุรี เอฟซี

พิภพ เขาก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความซื่อสัตย์ต่อสโมสร เขาเล่นให้ทีมมานานและอยู่ในชุดประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ไทยลีกปี 2007 เขาเป็นนักเตะที่มีแต่คนรักเพราะเวลาลงสนามเขาเล่นทุ่มเทมากและไม่เคยด่าตำหนิเพื่อนร่วมทีมไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้อง เวลาอยู่ในห้องแต่งตัวหรือนอกสนามเขาก็ช่วยทำให้เกิดบรรยากาศที่ดี เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี แต่เวลาจริงจังเขาก็แสดงความเป็นผู้นำออกมา 

ผมอยากให้เด็กๆ ในอคาเดมี่ และที่ขึ้นมาเล่นแล้วทุกๆ คนดูทัศนคติของพิภพเป็นแบบอย่าง ไม่ต้องอะไรมาก แค่ปฏิบัติตัวให้เหมือนเขาก็พอแล้ว ดูแลรักษาสภาพร่างกาย และไม่หลงติดอบายมุข 

น่าเสียดายที่ช่วงเขาพีคๆ เป็นยุคที่ทีมชาติไทยมีกองหน้าดีๆ หลายคน และอุปสรรคในเรื่องส่วนสูง ทำให้พิภพไม่ได้ติดทีมชาติมากเท่าที่ควร แต่เขาก็ถือเป็นกองหน้าที่เก่งมากๆ คนนึงของประเทศไทย 

แน่นอนอยู่แล้วครับว่าอนาคตเขาจะเป็นโค้ชที่ดีได้ ซึ่งทางทีมก็วางแผนไว้แล้วว่าจะให้เขาขึ้นมาสืบทอดต่อจากโบ้ (จักรพันธ์ ปั่นปี) วันนึงโบ้เขาก็อาจจะขึ้นไปรับงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือเหมือนอย่าง จเด็จ หรือ โย่ง ที่มีโอกาสก้าวออกไปทำงานที่่อื่นๆ


จเด็จ มีลาภ 

เฮดโค้ชการท่าเรือ เอฟซี

ผมเห็นเขาตั้งแต่ที่ดึงเขามาจากพิจิตร มาเรียนที่ อัสสัมชัญ ศรีราชา จริงๆ แล้วในรุ่นของเขา โม้ไม่ใช่ตัวท็อปของรุ่นด้วยซ้ำ รุ่นนั้นมีนักเตะดังๆ อย่าง อภิชาติ ยนต์ไธสงค์ ที่ถือว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โรงเรียนเคยมีมา หรือ จักรพันธ์ ปั่นปี ก็เรียนห้องเดียวกันกับโม้ แต่สิ่งที่ทำให้ โม้ ยืนระยะได้ไกลว่าเพื่อนร่วมรุ่นหลายๆ คนก็คือความมุมานะ เขาเป็นนักเตะพรแสวงโดยธรรมชาติ เขาแสดงความทุ่มเทเวลาลงสนามและปฏิบัติตามคำสั่งของโค้ชทุกอย่าง 

โม้คือตัวอย่างที่ดีมากๆ ว่าถ้าอยากให้ทุกคนยอมรับในตัวคุณ คุณก็ต้องแสดงออกมาให้เห็นทั้งในและนอกสนาม 

ปีที่ผมคุม ชลบุรี ปีแรกก็คือปี 2007 ซึ่งปีนั้นเราก็ได้แชมป์ครั้งแรกเลย โม้ เขาเล่นกองหน้าคู่กับ โย่ง โม้กับโย่งคือกองหน้าที่เข้าขากันมากๆ โย่งไม่ใช่สไตล์ที่จะวิ่งเยอะหรือมีความเร็วอะไร โม้เขาก็ทดแทนในส่วนนี้ให้ คนนึงตัวสูง คนนึงตัวเล็ก ต่างคนต่างสนับสนุนการเล่นให้กันไม่มีการหวงบอล ปีนั้น โย่ง ก็ปั้นจน โม้ เป็นรองดาวซัลโวยิงไป 16 ลูก เป็นรองแค่ เนย์ ฟาเบียโน่ ของยาสูบ ที่ยิงไป 18 ประตู

ทพ.พิชัย ปิตุวงศ์

อดีตเฮดโค้ชบีอีซี เทโรศาสน

ตอนแรกพี่เห็นโม้เล่นอยู่อัสสัมชัญ ศรีราชา แล้วพี่กำลังทำทีม ม.ศรีปทุม เพื่อแข่งยูลีก พี่เห็นว่าเด็กคนนี้มีความทุ่มเทและขยันฝึกซ้อมมากๆ ก็เลยดึงเข้ามาเป็นนักกีฬาทุน แล้วเขาก็ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูลีกได้ ตอนนั้นพี่เป็นผู้ช่วยของ เจสัน วิธ ที่บีอีซี เทโร ศาสน ก็เลยพาพิภพมาคัดตัวเข้าทีม ซึ่งเขาก็มีส่วนสำคัญที่เข้ามาทำให้ทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ 2 สมัยทั้งตอนที่ เจสัน วิธ คุมและพี่คุมอีกครั้ง 

เขาเป็นกองหน้าตัวเล็ก แต่แข็งแกร่งมาก จริงๆ ในเทโรตอนนั้น กองหน้าเรามีทั้ง วรวุฒิ ศรีมะฆะ, จตุพงษ์ ทองสุก และ วุฒิญา หยองเอ่น ซึ่งเก่งกว่าโม้ทุกคน แต่พี่เลือกใช้โม้เพราะเวลาที่เราสั่งให้เขาลงไปทำอะไร เขาทำตามที่สั่งทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ีเคยออกนอกแถว นักเตะแบบนี้แหละที่โค้ชทุกคนชอบ เพราะสามารถเล่นตามแท็กติกที่โค้ชต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ระเบียบวินัยเขาก็ดีมากๆ ไม่เคยขาดลามาสาย และมักจะอยู่ซ้อมต่อหลังเลิกแทบทุกครั้ง ช่วงว่างก็มักจะเห็นเขากับเทิดศักดิ์อยู่ในโรงยิมเล่นฟิตเนส ทั้งที่คนอื่นๆ แยกย้ายกันไปเที่ยวเล่นหมดแล้ว ถ้าเด็กรุ่นหลังอยากจะประสบความสำเร็จและเป็นตำนานที่ทุกคนชื่นชมก็ควรที่จะเอาเขาเป็นแบบอย่าง

เทิดศักดิ์ ใจมั่น

เฮดโค้ช บ้านบึง-ภูเก็ต ซิตี้

ถ้าถามว่าโม้ดียังไง พี่ตอบง่ายๆ เลยว่าดีทุกอย่าง ชัดเจนมั้ยล่ะ (หัวเราะ) สมัยก่อนที่บ้านเรายังไม่มีวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือเรื่องโภชนาการเข้ามา เวลาเล่นฟิตเนสก็ไม่มีเทรนเนอร์มาสอน พี่กับโม้ก็ลองยกนู่นยกนี่ไปเรื่อย เขาจะเป็นคู่หูของพี่ตลอดไม่ว่าเราจะไปไหน ตั้งแต่สมัยที่อยู่เทโรด้วยกัน โม้มันเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูงมาก แม้บทบาทมันอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่เวลาที่ลงเล่น เขาจะคอยกระตุ้นให้คนอื่นตื่นตัวด้วยการเล่นอย่างทุ่มเท คอยวิ่งไล่ใส่กองหลังคู่ต่อสู้

สมัยนั้นกองหน้าทีมชาติไทยตัวดีๆ เยอะมาก ทั้ง ซิโก้, พี่โย่ง, เจมส์ (เศกสรรค์ ปิตุรัตน์) และอีกหลายๆ คน โม้เลยไม่ค่อยถูกเลือกใช้ เพราะตัวเขาเล็กด้วย ไม่งั้นอาจจะได้สร้างตำนานในทีมชาติขึ้นมาอีกก็ได้

พี่บอกน้องๆ เลยว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แค่รู้จักคิดให้เหมือน พิภพ ก็พอ ปฏิบัติตัวให้ได้อย่าง พิภพ หรือพี่เองก็ได้ สมัยนี้โอกาสมันเปิดกว้างกว่าแต่ก่อนเยอะ เด็กรุ่นใหม่มีโอกาสได้ไปเล่นต่างประเทศ อย่าง เจ ชนาธิป ถามว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ เพราะเขามีวินัย รู้จักใช้ชีวิต พอเขาเห็นว่าเขามีช่องทางไปต่อในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งต้องพยายามพัฒนาตัวเอง 

เด็กสมัยนี้หลายๆ คนหลงคิดไปว่าสิ่งที่ตัวเองมีมันพอแล้ว พี่ก็อยากถามมันว่าเอ็งจะพอใจกับเงินเดือน 8,000 บาทไปตลอดหรอวะ อย่างเด็กๆ ในชลบุรีก็มี บางคนพอเริ่มมีเงินนิดหน่อยก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เดี๋ยวนี้นักบอลมันได้เงินง่ายไง เล่นไม่กี่ปีก็มีเงินเดือนเป็นหมื่นเป็นแสนก็คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว เวลาคนที่ชลบุรีชมว่าเก่ง เอ็งภูมิใจมั้ย แต่พี่อยากจะบอกเลยว่าอย่าไปหลงคำชื่นชมกันเอง มันต้องให้คนทั้งประเทศหรือที่อื่นชื่นชมสิถึงจะเก่งจริง อย่าง ชนาธิป คนไทยชมว่าเก่งแล้วยังไง มันพอแล้วมั้ย นู่นคนญี่ปุ่นเขายังยอมรับหมดแล้วว่ามันเก่ง และจะยิ่งน่าภูิมิใจกว่านี้ถ้าคนทั้งโลกบอกว่ามันเก่ง ถูกมั้ย


สะสม พบประเสริฐ 

อดีตกองกลางทีมชาติไทย

โม้ขึ้นมาทันพี่เล่นอยู่3-4ปีที่เทโร ตอนนั้นพี่ใกล้จะเลิกเล่นแล้ว แต่ก็มาได้แชมป์ตอนนั้นแหละ 2 สมัย ก่อนที่พี่จะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของพี่แต๊ก (อรรถพล ปุษปาคม) และค่อยขึ้นมาเป็นโค้ชของเทโร โม้เป็นนักเตะที่ทุกคนในทีมรัก เพราะมันอารมณ์ดีตลอด และเป็นเด็กน่ารัก เวลาลงสนามก็แสดงให้เห็นถึงความขยันมุ่งมั่นมากๆ ถึงบทบาทในทีมตอนนั้นจะยังเป็นแค่กองหน้าดาวรุ่ง แต่เขาก็มีความเป็นผู้นำแสดงออกมาให้ทุกคนเห็น คุณสมบัติที่โม้มีมันบ่งบอกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

ยุคนั้นเทโรเต็มไปด้วยนักเตะทีมชาติในทุกๆ ตำแหน่ง ยากมากนะที่ดาวรุ่งจะเบียดขึ้นมาแย่งตำแหน่งตัวจริง ตอนนั้นก็มีโย่ง, น้อย (วุฒิญา), น้อง (จตุพงษ์ ทองสุก) แต่ โม้ก็เบียดลงสนามได้อยู่บ่อยครั้ง เพราะเขาขยันฝึกซ้อมมากๆ จนถูกใจโค้ชทุกคน

อยากให้นักฟุตบอลรุ่นใหม่ๆ ดูพิภพ เป็นตัวอย่าง ว่าถ้าคุณประพฤติตัวอย่างมีเกียรติ คนอื่นก็จะให้เกียรติคุณ พี่ว่ามันเป็นสิ่งที่สุดยอดมากนะที่นักเตะคนนึงได้รับเกียรติให้มีเทสติโมเนียลแมตช์ของตัวเอง มันเหมือนเป็นรางวัลตอบแทนคุณความดีและความสามารถที่เขาเคยช่วยเหลือสโมสร และผมเชื่อว่าต่อไปก็คงจะมีสโมสรอื่นๆ จัดแมตช์ให้นักเตะที่รับใช้สโมสรด้วยความภักดีแบบนี้อีกแน่นอน


วรวุฒิ ศรีมะฆะ 

เฮดโค้ช เกษตรศาสตร์ เอฟซี

ชลบุรีน่ะไม่เหมือนหลายๆ สโมสร คือที่นั่นเขาดูแลทุกๆ คนมากยิ่งกว่าในฐานะนักฟุตบอล บางทีมอาจจะมองว่านักบอลคือลูกจ้าง พอหมดสัญญาจ้างก็แยกย้ายกันไป แต่ชลบุรีเขาชุบเลี้ยงทุกคนตั้งแต่เด็กยันเลิกเล่น ใครที่มีความประพฤติดี มีระเบียบวินัย เขาก็จะผลักดันต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต โม้ มันก็จะเป็นโค้ชของชลบุรีน่ะแหละ

สำหรับพี่ โม้เป็นกองหน้าคู่หูที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่พี่เคยร่วมงานด้วย ในชีวิตพี่ยิงในระดับสโมสร 90 กว่าลูกก็ได้โม้ช่วยปั้นให้หลายลูก พี่ก็ปั้นโม้มันจนเป็นรองดาวซัลโวไทยลีกปี 2007 ที่เป็นแชมป์ คืออะไรที่พี่ทำไม่ได้ โม้มันทำแทนให้หมด ทั้งวิ่งไล่บอล คอยวิ่งส่ายไปล้วงบอลซ้่ายทีขวาที มันทำให้กองหน้าอีกคนเล่นง่ายขึ้นเยอะ เหมือนสมัยก่อนที่ ซันเดอร์แลนด์ มีไนแอล ควินน์ กับ เควิน ฟิลิปป์ ไง คนนึงสูงคนนึงเตี้ย มันก็เล่นคู่กันได้ลงตัวเพราะเอาข้อดีของแต่ละคนมากลบข้อเสียให้กัน 

วันเทสติโมเนียลแมตช์ พี่เล่นไม่ไหวว่ะ ขอแค่ลงไปเล่นเป็นเกียรติให้โม้ก็พอแล้ว ถ้าฝืนเล่นเยอะเดี๋ยวคนอื่นจะไม่สนุกกัน (หัวเราะ) 


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ กันด้วยนะครับ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด