:::     :::

คน #SaveHakeem ไม่ได้ผิด

วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
3,533
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวงการกีฬา คงไม่มีข่าวไหนดังสนั่นเท่า ฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่ถูกทางการไทยจับตัว

ฉันคงไม่ต้องเริ่มต้นพรรณนาถึงเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่จุดแรกเริ่ม เอาเป็นไทม์ไลน์สั้นๆพอสังเขป 

1 .บาห์เรน เจออาหรับสปริงในปี 2011 ในการประท้วงรัฐบาล ฮาคีม ถูกยัดเยียดว่าอยู่ในเหตุการณ์


2. เขาถูกยัดข้อหาว่าร่วม เผาโรงพัก แต่ข้อเท็จจริงคือ วันเกิดเหตุเขาอยู่ในสนามฟุตบอล ที่มีถ่ายทอดสด และเหตุการณ์เผาโรงพักเกิดขึ้น หลังเกมจบไม่ถึงครึ่งชั่วโมง (แข่งบอลเสร็จไปเผาเลยอะไรงี้อ่อ)


3. ปี 2014 ฮาคีมหนีไปยัง ออสเตรเลีย ไม่ไปรายงานตัวต่อศาลเพื่อสู้คดี เพราะเขารู้ว่าที่นั่น ไม่มีความยุติธรรม ไร้ความปลอดภัยรองรับเขาอีกแล้ว จนมีการพิจารณาคดีลงโทษจำคุก 10 ปี


4. ฮาคีม โลดแล่นอยู่ในสารบบฟุตบอลอาชีพกับทีมลีกรอง ออสเตรเลีย จนถึงปี 2017 เขาได้รับสัญชาติและสถานะผู้ลี้ภัยโดยสมบูรณ์


5. เขาเดินทางมาไทย และถูกทางการไทยจับกุม

ฮาคีม ถูกทางการไทยจับกุม หลัง บาห์เรน ได้แจ้งคดีไว้กับ อินเตอร์โพล (องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ) ทำให้เขามี "หมายแดง" ติดตัวอยู่

สิ่งหนึ่งที่นักวิจารณ์หลายเพจในโลกออนไลน์เข้าใจผิด คือ อินเตอร์โพล มีสำนักงานอยู่ทุกทวีปทั่วโลก ไม่ได้ขึ้นตรงกับออสเตรเลีย อย่างที่หลายคนเข้าใจ

ขั้นตอนการจับกุม ฮาคีม เกิดจากที่ อินเตอร์โพล (สาขาออสเตรเลีย) ทราบเพียงว่า ฮาคีม กำลังเดินทางมากรุงเทพฯ จึงแจ้งเตือนมายังประเทศปลายทาง เพราะมี “หมายแดง” อยู่แล้ว

ตรงนี้เป็น ออสเตรเลีย เองที่พลาด และไม่ยอม “ยกเลิก” หมายแดงพลเมืองของเขาที่ถูกรับรองอยู่ในสถานะ “ผู้ลี้ภัย”

 

 

3 ธันวาคม คือว่าที่อินเตอร์โพลยกเลิก “หมายแดง” ฮาคีม และเป็นวันเดียวกับที่ทางการไทย “ฝากขัง” ฮาคีม

 ถึงตรงนี้อินเตอร์โพล “ไม่ผิด” อีกแล้ว เพราะทางการไทยสามารถที่จะไม่จับ และปล่อย ฮาคีม กลับออสเตรเลีย ได้ เพียงแต่ไทยไม่เลือกทำเช่นนั้นเอง เพราะมือที่สามอย่าง บาห์เรน ทราบเรื่องนี้แล้ว

บาห์เรน ต้องการตัว ฮาคีม กลับไปปู้ยี้ปู้ยำตามสไตล์ของเขา แน่นอนว่า “นรกรอเขาอยู่” หากถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไป

ถึงตอนนี้ ออสเตรเลีย เริ่มไม่พอใจ และกดดันแล้ว เพราะไทยมีสิทธิที่จะปล่อย ฮาคีม แต่เลือกจับเขาไปขัง

ใช่ สถานะของไทย กลายเป็น “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เพราะ บาห์เรน กับ ออสเตรเลีย ถือเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งได้รับเชิญจาก เจ้าชายคอลิฟะห์ ต้นปีก่อน ให้ไปร่วมงานกระชับความสัมพันธ์ 40 ปี ไทย-บาห์เรน (และเป็นประเทศตะวันออกกลางเดียวที่นายกฯไป หลังยึดอำนาจมาเกือบ 5 ปี)

ขณะที่ทางออสเตรเลีย บิ๊กตู่ เองก็ไปเยือน ซิดนีย์ มาในด้านเศรษฐกิจ และปลายปีที่ผ่านมา ออสซี่ยังส่งเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า ที่ ถ้ำหลวง จนสำเร็จลุล่วง

รวมถึงทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้ากันกับไทย ในด้านเศรษฐกิจอีก

หากโยน ฮาคีม ให้เพื่อนคนไหนไป อีกฝ่ายย่อมไม่พอใจ

ทางออกสุดท้ายที่ทางการไทยเลือกคือ ส่งเรื่องฟ้องศาล ให้ ฮาคีม โดนขังยาว เพื่อใช้เวลานี้ระหว่างที่ ฮาคีม ถูกจำคุกและรอการตัดสินคดี ให้ บาห์เรน กับ ออสเตรเลีย เป็นผู้เจรจาจนได้คำตอบที่น่าพอใจที่สุด

เมื่อ “หัก” เพื่อนคนไหนไม่ได้ ทุกข์จึงมาอยู่ที่ ฮาคีม

ไทยอาจดูเป็นผู้ร้าย ที่ขังฮาคิม เพราะกระทรวงต่างประเทศ อาจเลือกมองภาพรวมด้านเศรษฐกิจ-การค้า ของประเทศมากกว่า จึงพยายามใช้วิธีเตะถ่วงให้ขั้นตอนอยู่ในชั้นศาล “รำวง” ยื้อเวลาไปก่อน ซึ่งทางออกที่ดีสุดคือการส่ง ฮาคีม ไปประเทศที่สาม ที่ไม่ใช่ ออสเตรเลีย หรือ บาห์เรน

คน #SaveHakeem ไม่ได้ผิดอะไร

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต ฮาคีม ขอลี้ภัยมายัง ออสเตรเลีย บ้านหลังใหม่ และที่นี่ก็ผายมือรับเขาอย่างดี เขาไม่มีความจำเป็นต้องถูกถีบกลับไปยังบ้านเกิด ที่ขโมยเสรีภาพ พรากความเป็นมนุษย์ไปจากเขาอีก  

กระทรวงต่างประเทศ เองก็รู้เรื่องนี้ และพยายามหาทางออกให้ถูกใจทุกฝ่ายที่สุด

เพียงแต่เวลานี้เขาเลือก “มองต่างมุม” กับ นักสิทธิมนุษยชน เท่านั้น


คำค้นหา : SaveHakeem
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด