:::     :::

รวมพลังเพื่อเป็นหนึ่ง !!

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,367
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เมฆหมอกความกดดันที่แผ่ไปทั่วแอนฟิลด์เหมือนได้จากหายไปหลังทีมเครื่องจักรสีแดงกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้ง

            ลิเวอร์พูลอยู่ในจุดที่วิกฤตย่อมๆ เหมือนกันนะครับ จากผลงานของพวกเขาที่ดูจะดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากสภาพทีม  หรือความกดดันที่ถาโถมมาใส่พวกเขาอย่างหนักหน่วง หรืออะไรก็ตาม พวกเขาก็ทำแต้มหลุดมือไป 4 คะแนนไปแล้วในสองเกมล่าสุด และยิ่งกว่านั้นจากการที่แมนฯ ซิตี้เก็บชัยชนะได้ในเกมกับเอฟเวอร์ตันเมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องตกบัลลังค์จ่าฝูงที่ยึดครองมานานกว่า 2 เดือนเสียแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะแข่งน้อยกว่าแมนฯซิตี้อยู่ 1 เกม แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ ใครจะกล้าคิดล่ะครับ ว่ากับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นตอนนี้ พวกเขาจะไม่แพ้ภัยตัวเองแบบที่ทำให้เห็นใน 2 เกมล่าสุดอีก



 

เป้าหมายมีเพียง 1 เดียว




            จริงๆ แล้วถ้าดูตามหน้ากระดาษ เกมเจอกับบอร์นมัธในแอนฟิลด์ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการเก็บ 3 คะแนนของเจ้าบ้านเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างที่เห็นกันครับ ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของลิเวอร์พูลนั้นเจอความกดดันอย่างหนักหน่วงจริงๆ ก่อนเกมนี้จึงมีการ “ขอ” มาจากเจอร์เก้น คล็อปป์ ให้แฟนบอลช่วยส่งพลังให้กับนักเตะกันหน่อย  และสู้ฝ่าฟันกับสถานการณ์แบบนี้ไปด้วยกัน เราจึงเห็นความตั้งใจของนักเตะ และความทุ่มเทของกองเชียร์ในนัดนี้อย่างเต็มที่ และนัดนี้ก็ถือว่าทีมพร้อมมากพอสมควรเมื่อเทียบกับสภาพทีมในเกมที่ทำแต้มหลุดไปก่อนหน้านี้ ในแดนกลางก็ได้ จินี่ ไวจ์นัลดุมกลับมาสู่ตัวจริง ส่วนแบ็กขวาแม้ตัวจริงจะยังใช้เจมส์ มิลเนอร์อยู่ แต่เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็หายเจ็บกลับมาแสตนบายด์อยู่ในม้านั่งสำรองได้แล้ว นอกจากนั้นก็ยังได้กัปตันเฮนโด้ ที่บาดเจ็บเล็กน้อยจนไม่ได้ลงเล่นเกมเจอเวสต์แฮม หายกลับมาพร้อมแสตนด์บายอีกคน เรียกได้ว่า เกมนี้ทั้งนักเตะและกองเชียร์ลิเวอร์พูลพร้อมมากๆ ที่จะฝ่าสถานการณ์กดดันแบบนี้ไปด้วยกัน



เริ่มสวย แต่ ...... หลอน 





     

       เกมนี้ก็ยังเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลเหนือกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดอีก 1 เกม ลิเวอร์พูลเล่นเกมนี้ด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อยจริงๆ พวกเขาเพรซซิ่งใส่บอร์นมัธ ตั้งแต่ในแดนของคู่แข่งตั้งแต่ต้นเกม ถึงแม้จะโดนทักทายก่อน แต่หลังจากนั้นเกมก็ตกเป็นของลิเวอร์พูลอยู่ฝ่ายเดียว พวกเขากดดันจนนักเตะของบอร์นมัธลนลานและต้องเคลียร์บอลทิ้งหลายต่อหลายหน  พวกเขามุ่งมั่นและใส่เต็มร้อยตั้งแต่เริ่มเพราะลิเวอร์พูลเองก็รู้ดีกว่า เกมที่กดดันแบบนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การ”ขึ้นนำให้เร็วที่สุด” จนในที่สุดพวกเขาก็มาได้ประตูนำจนได้ ด้วยการโหม่งเข้าไปอย่างสวยงามของมาเน่จากการเปิดอันแม่นยำของเจมส์ มิลเนอร์ (แต่จริงๆ ลูกนี้ก้ำกึ่่งว่าจะล้ำหน้าเหมือนกันนะครับ แต่เมื่อกรรมการไม่เป่าก็ถือเป็นผลประโยชน์ของทีมไป) ซึ่งทำให้ตอนนี้ มาเน่นั้นทำประตูไป 4 เกมติดต่อกันให้ลิเวอร์พูลเข้าไปแล้ว  และลิเวอร์พูลก็ได้ประตูที่ต้องการจนได้  แต่...... ความกังวลก็ได้กัดกินในใจของแฟนลิเวอร์พูลหลายๆคนไปแล้วครับ เพราะเหตุการณ์เดจาวูแบบนี้ มันคุ้นๆ ยังไงๆ ชอบกล  “มาเน่ยิงนำเร็ว และโดนตีเสมอ แล้วก็จบเกมแบบไม่ชนะ” ความคิดแบบนี้อยู่ในหัวแฟนๆลิเวอร์พูล หรืออาจจะรวมถึงนักเตะด้วยแน่นอน  ดังนั้น 1 ประตูที่นำอยู่นี้เป็นเพียงประตูที่คลายความกดดันของพวกเขาไปได้ระดับหนึ่งเท่านั้น  ความกังวลและกดดันยังไม่จางหายไปจากความคิดของแฟนบอลและนักเตะลิเวอร์พูลเลย

 


จุดเปลี่ยนสำคัญ




            
           
จุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ อีกอย่าง คือ  “การกลับมาของไวจ์นัลดุม”  การเล่นของไวจ์นัลดุมนั้นทำให้แดนกลางของทีม ได้เปรียบทีมคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก จากการวิ่งทำงาน และการครองบอลอันชาญฉลาดของเขา จินี่เคลื่อนที่ทั่วสนาม เติมเข้าเขตโทษคู่แข่งสวยๆ ได้บ่อยครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าจากกองกลางที่มีวี่แววว่าจะโดนขายมากที่สุดในตลาดซัมเมอร์ที่แล้ว เวลานี้ได้กลายเป็น กองกลางอันดับ 1 ของทีมที่ไม่สามารถขาดได้แล้ว ในเกมนี้ เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ผ่านบอลสำเร็จ 91%  ,สร้างโอกาส 3 ครั้ง ,มีโอกาสยิง 2 ครั้ง และทำได้ 1 ประตู  และจุดเปลี่ยนสำคัญก็ได้มาจากประตูที่ยอดเยี่ยมและเปี่ยมไปด้วยไหวพริบอันสุดยอดของเขานี่เอง เมื่อเขาเติมเกมทะลุเข้าเขตโทษ และจับบอลจากการตักมาให้ของโรเบิร์ตสันอย่างนุ่มนวล พลันสายตาของเขาเหลือบมองแล้วว่าไม่มีเพื่อนเติมขึ้นมา เขาเลยตัดสินใจดีดบอลข้ามหัวบูรุค ด้วยน้ำหนักอย่างสุดยอด  และด้วยประตูนี่เอง ที่ปัดเป่าเมฆหมอกแห่งความกังวลที่เกาะกินจิตใจของแฟนบอลลิเวอร์พูลไปได้อย่างหมดสิ้น

 


กลับเป็นตัวของตัวเอง





 

            เมื่อลิเวอร์พูลคลายความกดดันลง พวกเขาก็เล่นเกมของพวกเขาเองได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในเกมนี้นักเตะหลายๆ คนกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง และคนที่น่าปรบมือ และให้กำลังใจกันมากๆ อีกคนคือ นาบี  เกอิต้า เกมนี้เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นมากกว่าหลายๆ เกมที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด  เกมนี้เขาเสียบอลน้อยลงอย่างมาก และจ่ายบอลง่ายๆ สวยๆ หลายต่อหลายครั้ง และประตูที่ 3 ที่ตอกตะปูฝังบอร์นมัธก็มาจากการเปิดทะลุช่องของเขานี่เอง ส่วนคนอื่นๆ หลายๆ คนฟอร์มเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นฟิร์มิโน่ที่แม้เกมนี้จะไม่มีสกอร์ แต่ก็ทำหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างกองกลางกับกองหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม  คนอื่นๆ ก็ไม่มีความผิดพลาดอะไรให้เห็นเลยในเกมนี้ ถือว่าเกมนี้เป็นเกมที่สวยงามและกลับมาเรียกความมั่นใจของลิเวอร์พูลได้อย่างสวยงามทีเดียว

 

แม้ตอนนี้ลิเวอร์พูลจะโดนแมนฯซิตี้แซงกลับมาเป็นจ่าฝูงเหมือนเช่นตอนก่อนแข่งอีกครั้ง แต่สถานการณ์หลายๆอย่างของทีมที่ดูวิกฤตก่อนหน้านี้ก็ได้ผ่อนคลายลงแล้ว เหลืออีก 12 เกมเท่านั้น แน่นอนว่าความกดดันยังคงมีอยู่ แต่ถ้ารักจะเป็นทีมลุ้นแชมป์ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องแบบนี้แน่นอน ในเกมนี้กองเชียร์และนักเตะได้แสดงพลังที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันและฝ่าฟันไปได้อย่างสวยงาม  ถ้าในอนาคตเราต้องเจอกับสถานการณ์แบบเดียวกันนี้อีก ก็อย่ายอมแพ้  อย่าอ่อนแอ มารวมพลังจับมือกันไว้และฝ่าฟันมันไปด้วยกันนะครับ #YNWA


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด