การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีม หรือในทีม เชลซี มีบทบาทเป็นเพียงหัวหน้าโค้ชนั้น ไม่ใช่เรื่องที่คิดจะทำ ก็ทำ ยามที่เห็นผลการแข่งขันไม่เป็นใจ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบหลายชิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล

ความพ่ายแพ้ที่ อาร์เซน่อล 0-2 เริ่มเกิดเครื่องหมายคำถามในตัว ซาร์รี่ เพราะรูปเกมที่สู้ไม่ได้ จากนั้นสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นในเกมแพ้ที่ บอร์นมัธ 0-4 และหนักขึ้นในเกมแพ้ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-6 แม้กลับมาดีขึ้นนิดหน่อยในเกมบุกชนะ มัลโม 2-1 ศึกยูโรปาลีก แต่ขาเก้าอี้ของ ซาร์รี่ ก็ใกล้หักเต็มทีแล้ว หลังจบเกมที่พังคาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ตกรอบ 5 เอฟเอคัพ

"Fuck Sarri ball" ดังกึกก้องไปทั่วทั้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นสัญญาณว่า ช่วงเวลาของ ซาร์รี่ กับ เชลซี ใกล้หมดลงเต็มทีแล้ว

ข่าวลือดังกระฉ่อนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเดิมพันของ ซาร์รี่ อยู่ที่เกมคาราบาคัพ รอบชิงชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ เวมบลีย์ วันอาทิตย์นี้ เพราะหากชูถ้วยแชมป์คาราบาวคัพไม่ได้ บอร์ดบริหาร เชลซี ก็เตรียมเสนอชื่อเฮดโค้ชคนใหม่ส่งให้ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซีย

ว่ากันว่า เรื่องเงินชดเชยไม่ใช่ปัญหาใหญ่เหมือนครั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ เพราะคราวนี้ ซาร์รี่ จะได้รับเพียง 5 ล้านปอนด์ บวกกับทีมงานสต๊าฟฟ์อีก 1 ล้านปอนด์ ขี้ประติ๋วมาก เมื่อเทียบกับ 9 ครั้งก่อนหน้านี้ที่ เสี่ยหมี เคยจ่ายตอนปลดกุนซือคนก่อนๆ

แม้รายชื่อเฮดโค้ชคนใหม่ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่สื่ออังกฤษอย่าง เดอะ ซัน ก็มโนไปไกลแล้ว ถึงขนาดที่ว่า หาก เชลซี ได้ ซีเนอดีน ซีดาน เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ จะมอบงบประมาณ 200 ล้านปอนด์ให้เสริมทัพตามที่เรียกร้อง และหน้าตาทีมตัวจริงจะเป็นอย่างไรในฤดูกาลหน้า

ไม่มีเหตุผลให้ ซีดาน ต้องเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 หลังจาก เชลซี ใช้ความพยายามอย่างหนัก และต้องจ่ายสูงถึง 71 ล้านปอนด์ ฉีกสัญญา เกปา มาจาก แอธเลติก บิลเบา เมื่อซีซั่นที่แล้ว แม้ผลงานยังไม่มีอะไรเตะตา แต่ก็ยังไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นเช่นกัน

กองหลังรายนี้แตะต้องยากหน่อย เพราะเป็นขวัญใจแฟนบอล จากสไตล์การเล่นที่ทุ่มเทเต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้ซีซั่นนี้ปรับบทบาทจากการยืนแผงหลัง 3 คนฝั่งขวา มายืนฟูลแบ็กฝั่งขวาแล้วมีฟอร์มตกไปบ้าง แต่การหานักเตะใหม่ที่ดีกว่า อัซปิลิกวยต้า เป็นเรื่องยากมากทีเดียว

แฟน เชลซี คงทราบดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในแนวรับเวลานี้ ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดของ ดาวิด ลุยซ์ ที่มักดันตัวเองขึ้นสูงจนหลุดตำแหน่ง หรือไม่ก็เป็นลูกกลางอากาศที่อ่อนเกินไป ดังนั้นเป้าหมายใหม่คือ คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็ก นาโปลี ที่ซัมเมอร์ปีก่อน ซาร์รี่ อยากดึงมาอยู่ด้วย แต่ไม่สมหวัง และซัมเมอร์นี้อาจต้องทุ่มเงินก้อนโต 90 ล้านปอนด์ กลายเป็นสถิติใหม่กองหลังแพงสุดในโลก

ในช่วงเวลาที่แนวรับของ เชลซี หลุดรั่วเละเทะ แต่ รือดิเกอร์ ยังคงเหนียวแน่นและแข็งแกร่ง กลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้ และเชื่อว่าเซนเตอร์แบ็กทีมชาติเยอรมนียังคงพัฒนาฝีเท้าขึ้นได้อีกเยอะ นี่แหละเซนเตอร์แบ็กในฝันไม่ว่าใครเข้ามาคุมทีมก็ตาม

ฟูลแบ็กด้านซ้ายเป็นอีกตำแหน่งที่หลุดรั่ว เพราะ มาร์กอส อลอนโซ่ ทำได้ไม่พอในเกมรับ หลังจากซีซั่นก่อนยืนวิงแบ็กจนเคยชิน แม้ อเล็กซ์ ซานโดร ของ ยูเวนตุส คือเป้าหมายอันดับแรก แต่ค่าตัวโหดเกินกว่าฝีเท้า ดังนั้น อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายบราซิลเช่นกันของ ปอร์โต้ ที่มีค่าตัวราว 35 ล้านปอนด์ ดูจะสมน้ำสมเนื้อมากกว่า และยังมีสไตล์การเล่นใกล้เคียงกันด้วย

หนึ่งในประเด็นที่ ซาร์รี่ ถูกวิจารณ์ คือการปรับบทบาท ก็องเต้ จากกองกลางตัวตัดเกม ให้ไปยืนด้านขวาในบรรดาสามกองกลาง และมีบทบาทในเกมรุก จึงคาดว่า ซีดาน อาจจับกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก 2018 กลับมายืนตำแหน่งถนัด เหมือนตอนพา เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016-17

จอร์จินโญ่ หนีบตาม ซาร์รี่ มาร่วมทีม เชลซี และแย่งตำแหน่งตัวตัดเกมไปจาก ก็องเต้ แต่ผลงานที่ออกมาถือว่าคนละเรื่อง เพราะมิดฟิลด์แซมบ้าทีมชาติอิตาลีเป็นรองทั้งเรื่องความดุดัน หนักหน่วง และที่สำคัญที่สุดคือความเร็ว ดังนั้นการสลับไปยืนกองกลางฝั่งขวาน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะสไตล์การเล่นที่เน้นเคาะบอลสั้นๆ เข้ากับสไตล์ของ ซีดาน อยู่แล้ว

ผ่านฤดูกาลนี้ไปเกือบ 7 เดือนแล้ว เชลซี แทบไม่ได้อะไรเลยจากผลงานของ มาเตโอ โควาชิช ทั้งที่เป็นตัวหลักในตำแหน่งนี้ของ ซาร์รี่ แต่ผ่านไป 34 นัด ยังไม่มีประตู และแทบไม่มีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมยิงได้ด้วย จึงมีโอกาสสูงที่จะถูกส่งตัวกลับ เรอัล มาดริด หลังหมดสัญญายืมตัว และเป้าหมายใหม่ที่อยากได้คือ อีสโก้ ที่นั่งสำรองยาวในยุค ซานติอาโก้ โซลารี่ แต่ เชลซี ก็ต้องทุ่มหนักระดับ 70 ล้านปอนด์

ซีดาน ไม่ต้องออกแรงมองหาแนวรุกตัวใหม่ให้เหนื่อยเปล่า เพราะ เชลซี เซ็นคว้าตัว พูลิซิช 58 ล้านปอนด์ไปแล้ว และจะเข้ามาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า ดังนั้นตำแหน่งตัวจริงในทีมก็ว่างรออยู่แล้ว จากการที่ทั้ง วิลเลียน และ เปโดร อายุมากขึ้น และอาจถูกขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ก็ต้องขัดสนิมมิดฟิลด์อเมริกันเยอะหน่อย เพราะซีซั่นนี้ฟอร์มตกกับ ดอร์ทมุนด์ มากทีเดียว

จะซื้อใครเข้า จะขายใครออก ก็ทำไป แต่ต้องไม่ลืมเป้าหมายสำคัญที่สุดคือการรั้ง อาซาร์ ให้อยู่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไป เพราะว่ากันว่า เชลซี จะมีผลงานยอดเยี่ยม หรือเล่นไล่โค้ช ก็ขึ้นอยู่กับ อาซาร์ นี่่แหละ! ยิ่งไปกว่านั้น เชลซี ยังหวังว่าการมาของ ซีดาน จะเป็นการกระตุ้นให้ อาซาร์ ยอมต่อสัญญาใหม่จากเดิมที่กำลังจะหมดในปี 2020

แม้เพิ่งได้ลงสนามไปเพียงไม่กี่นัด แต่ผลงานของ กอนซาโล่ อีกวาอิน ไม่ได้ดีไปกว่าสมัยเล่นกับ มิลาน เลย แม้ว่าจะยิงไปสองประตู แต่ก็เป็นเพียงการยิงทีมบ๊วย ฮัดเดอร์สฟิลด์ จึงมีแนวโน้มสูงว่า เชลซี จะไม่ซื้อขาดและส่งกลับ ยูเวนตุส ทำให้ผู้อำนวยการสาวต้องมองหาศูนย์หน้าคนใหม่ และชื่อของ อีการ์ดี้ ก็โผล่ขึ้นมาในช่วงเวลานี้ หลังจากมีปัญหาส่วนตัวกับ อินเตอร์ แม้ต้องจ่ายหนักถึง 96 ล้านปอนด์ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการเสี่ยงลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว