การเข้าใจถึงเรื่องราวในอดีตเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม

    และในกรณีที่เกิดขึ้นมันชัดเจนว่าปืนใหญ่ไร้เดียงสา และผิดพลาดในตลาดนักเตะขนาดไหน

    ทุกวันนี้ก็อย่างที่ได้เห็นกัน เดอะ กันเนอร์ส กำลังวุ่นวายกับการลุ้นแชมป์ยูโรปา ลีก เพื่อตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกสำหรับซีซั่นหน้า แต่อดีต 2 นักเตะที่เคยไม่มีค่าในสายตาพวกเขากลับกลายเป็นกำลังหลักของต้นสังกัดชั้นนำในถ้วยบิ๊กเอียร์

    ย้อนกลับไปคืนวันอังคารที่ผ่านมา แซร์ช นาบรี้ กลายเป็นนักเตะที่เด่นที่สุดของ บาเยิร์น มิวนิค ที่แอนฟิลด์

    สำหรับฤดูกาลนี้ มีนักเตะไม่กี่คนหรอกนะที่จะทำได้ดีกว่า แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

    แต่!!!

    นาบรี้ คือหนึ่งในนั้น

    สำหรับดาวเตะวัย 23 ปี เคยใช้ชีวิตในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มา 5 ปีในช่วงปี 2011 ถึง 2016 ซึ่งเขาก็มีโอกาสในทีมชุดใหญ่อยู่บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น

    ต่อมา นาบรี้ ก็ย้ายกลับมายังเยอรมันในปี 2016 ด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านปอนด์ หลังจากล้มเหลวในการพยายามสอดแทรกตัวเองสู่ทีมชุดแรกของปืนใหญ่ และใครจะเชื่อ กราฟชีวิตของเขาได้พุ่งทะยานสูงนับจากนั้น

    ลองมองย้อนกลับมาดูแผงมิดฟิลด์ริมเส้นของ อาร์เซน่อล ในปัจจุบัน มันแทบจะพูดได้เต็มปากเต็มคำถึงคำว่าธรรมดามากถึงมากที่สุด

    ภาพนั้นจะชัดยิ่งขึ้นเมื่อคุณนึกถึงนักเตะอย่าง อเล็กซ์ อิโวบี้ และนำไปเทียบกับ นาบรี้ ในเวลานี้

    อีกด้านหนึ่งในตำแหน่งผู้รักษาประตู แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะมี ปีเตอร์ เช็ก ที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้มาตลอดหลายปี แต่การที่นายทวารสวมการ์ดอายุโรยราลงไปในทุกๆ วันทำให้เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาปืนใหญ่ต้องลงทุนเป็นเงินถึง 25 ล้านปอนด์ในการคว้าตัว แบร์นด์ เลโน่ เข้ามา

    ในขณะที่ วอยเช็ก เชสนี่ ซึ่งเติบโตขึ้นกว่าเดิมมากที่ ยูเวนตุส กลายเป็นคนสืบทอดภาระอันหนักอึ้งของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน หลังจากย้ายออกจาก อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 10 ล้านปอนด์

    เชสนี่ เคยเป็นตัวตลกในทัพเดอะ กันเนอร์ส เขาอาจไม่ได้แย่ถึงขนาด ยาย่า ซาโนโก้ หรือ อาบู ดิยาบี้ หรอก แต่ในช่วงชีวิตของเขาที่นั่นก็ไม่ค่อยจะได้รับการเชิดชูสักเท่าไหร่เลย

    บางทีตอนนั้นมันอาจยังไม่ใช่เวลาของเขา หรือแค่สูญเสียความมั่นใจ แต่มือกาววัย 28 ปีก็ได้เปลี่ยนสายตาคนทั่วโลกให้มองเขาเป็นหนึ่งในตัวเอกของสโมสรในฤดูกาลนี้

    ในทางกลับกัน ขณะนี้ เลโน่ ยังไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าเขาเป็นที่เพิ่งพาได้ในวันที่เกมรับของทีมอ่อนยวบยาบ

    โอเค...บางคนต้องมีข้อแย้งแน่นอนว่าในอดีตนักเตะทั้ง 2 รายนี้ก็ไม่ได้เป็นคนที่สร้างอิมแพ็คอะไรให้กับทีมได้มากมาย และใครจะรู้ถึงอนาคตว่าทั้ง เชสนี่ และ นาบรี้ จะมาได้ไกลอย่างทุกวันนี้

    แต่ประเด็นหลักของเรื่องก็คือว่า อาร์เซน่อล เองก็ไม่ได้สนใจถึงพรสวรรค์ของนักเตะทั้ง 2 รายมากเท่าที่ควรเหมือนกันตอนที่ยังมีศักดิ์เป็นเจ้าของอยู่

    นาบรี้ กับ เชสนี่ ถูกปล่อยออกไปด้วยค่าตัวรวมกันอันน้อยนิดเพียง 15 ล้านปอนด์ แม้ว่าพวกเขาจะมีศักยภาพซ่อนเร้นที่ค่อนข้างสูง

    ลองมองไปยัง ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬาของ ลิเวอร์พูล สิ!!!

    เขาจัดการขาย โดมินิก โซลันกี้ ที่ยิงได้เพียงหนึ่งลูกในพรีเมียร์ลีกไปแบบคนเดียวเดี่ยวๆ ด้วยราคาที่สูงถึง 24 ล้านปอนด์

    อาร์เซน่อล ได้จัดการการเงินของพวกเขาผิดพลาดมาตลอดหลายปีหลัง ซึ่งมันส่งผลมาถึงการจับจ่ายใช้สอยของ อูไน เอเมรี่ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอย่างชัดเจน

    มีอย่างที่ไหน ทีมระดับบิ๊กยี่ห้อเดอะ กันเนอร์ส ไม่มีงบให้กุนซือเสริมทัพแม้แต่แดงเดียว สิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่ก็คือการยืมตัวซึ่งก็ได้ เดนิส ซูอาเรซ มาจาก บาร์เซโลน่า และจนถึงทุกวันนี้แฟนปืนใหญ่ก็ยังไม่เห็นเลยว่าดาวเตะชาวสแปนิชประโยชน์อยู่ที่ตรงไหน

    จริงๆ แล้ว ทั้ง นาบรี้ และ เชสนี่ น่าจะมีค่าตัว 30, 40 หรืออาจจะถึง 50 ล้านปอนด์เลยก็เป็นได้ ไม่ใช่เพียงแค่ราคาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของค่าตัว แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ แบบนี้

    จะว่าไปหากบอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล ยังคงไม่พัฒนา หรือปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจให้ดีขึ้นกว่านี้

    มันก็เหมาะสมแล้วที่ทั้ง นาบรี้ และ เชสนี่ จะฉายแสงบนเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวทียุโรป และปล่อยให้อดีตต้นสังกัดของเขาคร่ำครึอยู่กับคืนวันพฤหัสฯ ต่อไปตามเดิม

    พาสต้า