:::     :::

การเล่นกองกลางแบบ "พอล สโคลส์"

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
14,894
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้จะเลิกเล่นฟุตบอลไปนานพอสมควรแล้ว

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พอล สโคลส์ ถือเป็นกองกลางระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้ที่พาทีมเก็บเกี่ยวความสำเร็จมาอย่างมากมาย ด้วยจำนวนโทรฟี่แชมป์หลากหลายรายการ

แน่นอนว่า หากพูดถึงมิดฟิลด์หัวแดงเพลิงรายนี้ หลายคนย่อมคิดถึงการยิงไกลอันหนักหน่วง และการวางบอลยาวที่สุดแม่นยำ จนเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้คนต่างจดจำได้เป็นอย่างดี 

ช่วงนี้ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ รายนี้ จะมาเผยถึงเคล็ดลับบางส่วนในการเล่นตำแหน่งนี้ ว่าต้องอาศัยปัจจัยอะไรบ้าง 

คุณเป็นหนึ่งในนักผ่านบอลชั้นเลิศ คุณมีความลับอะไรบ้าง ?

"สำหรับผมแล้ว การผ่านบอลถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ย้อนกลับไปตอนที่ผมอายุ 18 ผมเคยลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า ทว่าเอริค แฮร์ริสัน (อดีตโค้ชทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) มองว่าตัวผมเหมาะกับการเป็นกองกลาง เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวผม พร้อมกับคิดว่าผมสามารถเป็นนักเตะที่สร้างสรรค์เกมได้"

"ผมโชคดีที่ได้อยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็เพราะว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกผมเสมอว่า จงพาบอลขึ้นไปข้างหน้า ความคิดแรก เมื่อผมได้ครอบครองลูกบอล นั่นคือการมองหาผู้เล่นด้านกว้าง 2 ฝั่ง และกองหน้า 2 คน ทางเลือกสุดท้ายที่ผมจะเลือกทำ นั่นคือผ่านบอลคืนหลัง"


คุณปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง ตามกองหน้าที่คุณเล่นด้วยหรือเปล่า ?

"แน่นอน ยกตัวอย่างเช่นแอนดี้ โคล เขามักอยู่ในไลน์สุดท้ายเสมอ ผมแทบไม่ต้องพูดอะไรเลย มันเป็นเรื่องของการสื่อสารผ่านทางสายตา ในส่วนของรุด ฟาน นิสเตลรอย ก็มีความคล้ายคลึงกับโคล นอกจากนี้ การเล่นกับกองหน้าอย่างเท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม และดไวท์ ยอร์ค สองคนนี้เป็นนักเตะที่สามารถทำชิ่ง 1-2 ด้วยได้ รวมถึงการเล่นบอลสั้นแถวมุมของสนาม ผมพยายามที่จะเชื่อมโยงกับพวกเขา พร้อมกับมองหากองหน้าอีกคนไปด้วย"

ความกล้าสำคัญมากน้อยแค่ไหน ในการบัญชาเกม ?

"สำคัญเป็นอย่างมากเลย เหตุผลที่ทำให้ผมแขวนสตั๊ดเป็นครั้งแรก ในช่วงปี 2011 เพราะผมรู้สึกว่า ตัวเองสูญเสียความกล้า หากคุณไม่มีสิ่งนี้ คุณไม่สมควรเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณต้องมีบอล และจัดการกับมัน ผมพยายามเล่นจังหวะแบบเน้นความปลอดภัย พร้อมกับเล่นแบบง่ายๆ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดี"

"ย้อนไปตอนนั้น ผมไม่คิดว่า ตัวเองสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมมากพอ ผมไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองเคยทำในเส้นทางลูกหนัง ผมไม่สามารถแบกรับความเสี่ยง นักเตะอย่างโทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช และอันเดรีย ปิร์โล่ มีความกล้าหาญในการเล่นบอล พร้อมกับควบคุมจังหวะของเกม ตั้งแต่เริ่ม จนจบการแข่งขัน"


คุณจบเส้นทางลูกหนังของตัวเอง ในตำแหน่งกองกลาง คุณปรับตัวอย่างไรกับตำแหน่งดังกล่าว ?

"ผมไม่ชอบคำนั้นสักเท่าไหร่ เพราะปกติแล้ว ผมคิดว่ากองกลางควรทำได้ทุกอย่าง การยืนตำแหน่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลย ริโอ เฟอร์ดินานด์ ไม่ชอบให้ผมลงมาต่ำ เพื่อจะเอาบอลขึ้นไป เขามักพูดเสมอว่า -ดันขึ้นไปข้างหน้า อย่ามาทับพื้นที่ตรงนี้ !!- การสื่อสารกับ 2 กองหลังตัวกลาง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ พวกเขาจะคอยบอกว่า อยากให้คุณไปยืนอยู่ตรงตำแหน่งใด แน่นอนว่า มันจะทำให้คุณเล่นง่ายขึ้น"

ความแตกต่างระหว่างการเล่นกองหน้ากับการเล่นกองกลางล่ะ ?

"เมื่อคุณถูกดันขึ้นหน้า คุณจะได้รับบอลในตำแหน่งที่แตกต่างออกไป ผมโชคดีเป็นอย่างมาก เมื่อได้มีโอกาสเล่นร่วมกับรุด ฟาน นิสเตลรอย เขาเป็นกองหน้าตัวกลางที่ยอดเยี่ยม ผมรักที่จะเล่นกับเขามาก เขาง่ายที่จะเชื่อมต่อการเล่นด้วย"

"ย้อนกลับไปตอนเป็นเด็ก ผมสามารถรับบทบาทกองหน้าได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผมอายุมากขึ้น ผมไม่ค่อยรู้สึกสบายกับการเล่นกองหน้าสักเท่าไหร่ ผมค้นพบว่า มันเป็นเรื่องที่แสนยากลำบาก ในการเผชิญหน้ากับกองหลังแบบตัวต่อตัว นั่นก็เป็นเพราะว่า ผมไม่ใช่คนที่เลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ ผมชอบเล่นบอลแบบทำชิ่ง 1-2 มากกว่า"


คุณไม่ได้เป็นนักเตะที่มีความเร็วเท่าไหร่ แต่ก็ได้เรื่องอื่นมาแทน คุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ?

"เอริค แฮร์ริสัน เคยบอกกับผมว่า กองกลางควรรู้ว่า ตัวเองอยู่ตรงตำแหน่งไหนของสนาม พร้อมกับมีภาพในใจว่า คนอื่นอยู่ตรงไหนด้วยเช่นเดียวกัน หากคุณสามารถทำแบบนี้ได้แล้ว คุณจะรู้ถึงการส่งบอลจังหวะต่อไป ก่อนที่คุณจะได้รับบอลมาครองเสียอีก เมื่อผมได้รับบอลทางกราบซ้าย ผมรู้เลยว่า เดวิด เบ็คแฮม จะอยู่ทางกราบขวาของสนาม โดยที่ไม่ต้องมองเลย ผมจะถ่ายบอลต่อไปตรงจุดนั้นทันที ผมไม่ใช่นักวิ่งที่ยอดเยี่ยม หรือนักกีฬาที่ดี แต่ผมใช้สมองมาแทนที่"


ประตูจำนวนมากที่คุณทำได้ เกิดจากการยิงแบบเต็มแรง ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย ?

"การจบสกอร์หลายครั้งของผม เกิดมาจากสิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณ เมื่อผมมีเวลาคิดในการยิงประตู ผมจะพูดกับตัวเองเสมอเลยว่า ผมเองไม่ใช่นักจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น ผมพยายามซัดมันแบบเต็มแรงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทำประตูด้วยศรีษะ หรือเป็นการยิงแถวกรอบเขตโทษ ผมวางเท้าลงไป และคิดว่ามันจะพุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง บางครั้ง มันมีเรื่องของโชคเข้ามาผสมด้วย"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด