ความสนใจหลักของแฟนบอลในซูเปอร์ซันเดย์ที่ผ่านมาเทไปที่ศึก "แดงเดือด" ต่อเนื่องด้วย คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ 

ขนาดแฟนบอลอาร์เซน่อลเองเองยังต้องชำเลืองมองจออีกคู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปพร้อมๆ กับลุ้นทีมรักตัวเอง 

การที่มีรอบชิงฯ ฟุตบอลถ้วยลงสนามแบบนี้ เกมพรีเมียร์ลีก 2 คู่ที่เตะวันเดียวกันจึงต้องหลีกทาง และลงเอยที่เตะพร้อมกัน (ซะงั้น) 

แม้คู่อาร์เซ่อล-เซาธ์แฮมป์จะไม่ใช่คู่ที่หลายคนสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไร้ซึ่งความสำคัญ 

ในมุมนึงก็เป็นโอกาสอันดีที่จะเล่นแบบที่ไม่ถูกจับจ้องมากนัก ได้โฟกัสในภารกิจของตัวเองเป็นหลัก 

อูไน เอเมรี่ เปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งหลังเสร็จศึกยูโรปา ลีก เพราะโปรแกรมค่อนข้างถี่ ได้เพียงพัก 3 วัน 

อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, อาร่อน แรมซี่ย์, ลูคัส ตอร์เรร่า, โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส, เซอัด โคลาซินัช และ แบร์นด์ เลโน่ เป็น 6 ผู้เล่นที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง 

เซาธ์แฮมป์ตัน อาจเป็นทีมจากท้ายตาราง แต่ 2 เดือนที่แล้วก็เคยทำแสบพลิกชนะอาร์เซน่อลได้ด้วย 

ตอนนั้น ปืนใหญ่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี ไม่แพ้ใครมา 22 นัดติดทุกรายการ แต่บทจะเสียสถิติก็ดันเกิดขึ้นในเกมที่ไม่คาดคิด 

หากจำกันได้ ลูกน้องของ เอเมรี่ ไปเยือนถิ่นเซนต์ แมร์รี่ส์ ในสภาพพิกลพิการอย่างมากโดยเฉพาะแผงหลัง

มคิทาร์ยาน ทั้งยิงทั้งจ่าย

เซนเตอร์ตัวหลักอย่าง โซคราตีส กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ ติดโทษแบนพร้อมกัน ขณะที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เพิ่งคัมแบ็กกลับมาเจ็บหนัก 8 เดือน และเป็นสำรองได้เพียงนัดเดียว 

ต้องถอย กรานิต ชาคา ลงไปเยือนเซนเตอร์ร่วมกับ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ และ กัปตันกอส ที่สภาพราว 70-80 เปอร์เซ็นต์

สุดท้ายอาร์เซน่อลเสร็จลูกโด่งของเซาธ์แฮมป์ตันทั้ง 3 ประตู 

ทว่าการเจอกันครั้งล่าสุดที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็เป็นปืนใหญ่ที่ล้างตาได้สำเร็จ

นักบุญไม่แพ้ใครนอกบ้านมา 5 นัดติด แต่นัดนี้ต้องยอมรับเลยว่าเอาเกมรุกของปืนใหญ่ไม่อยู่จริงๆ 

ที่สำคัญลูกน้องของ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮัทเทิ่ล ทิ้งโอกาสทองที่จะเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างน่าเสียดายจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ เนธาน เร้ดมอนด์ 

อาร์เซน่อลต้องขอบคุณ แบร์นด์ เลโน่ ที่ออกมาปิดมุมและป้องกันลูกนี้ได้เยี่ยมก่อนเล่นโต้กลับและเป็นฝ่ายที่ได้ประตู

จากสถานการณ์ที่เกือบตามหลัง 0-1 กลายเป็นนำก่อน 1-0 ถือว่าพลิกโฉมหน้าเกมไปในทันที 

"เรามีครึ่งแรกที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่าหากไม่ได้เซฟของ แบร์นด์ เลโน่ เราคงไม่สามารถยิงประตูแรกได้ ดังนั้นต้องของคุณเขาเลย เขาช่วยจังหวะนี้ครึ่งหนึ่ง"  เฮนริค มคิทาร์ยาน ขอบคุณเพื่อนหลังจบเกม

ปืนใหญ่จึงเป็นฝ่ายเดินหน้าต่อเนื่องและคุมเกมได้รวดเร็ว บีบให้เซาธ์แฮมป์ตันต้องถอยลงไปรับในกรอบเขตโทษกันทั้งทีม นานทีจึงได้โต้ขึ้นมาบ้าง

ประตูที่ 2 ตามมาในเวลาไม่นาน และเป็นความผิดพลาดในแบบเดิมของทีมเยือน 

อเล็กซ์ อีโวบี้ เปิดจากซ้ายเข้าเขตโทษ พอไม่มีใครสกัดได้จนบอลเลยถึงเสาไกล มคิทาร์ยาน จึงวิ่งมาอัดนิ่มๆ 

ไม่ต่างจากประตูแรกที่เริ่มจาก อีโวบี้ แล้วไปถึง มคิ ที่ได้ยิง วิถีบอลพุ่งตรงตัว ลากาแซ็ตต์ จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไขว้เปลี่ยนทางบอลโชว์ให้เห็นถึงสัญชาตญาณของการเป็นกองหน้าที่ดี 

2-0 ตั้งแต่ 17 นาทีแรก ปืนใหญ่จึงเล่นได้ง่ายและนวดไปเรื่อยๆ ขณะที่ เซอัด โคลาซินัช จึงได้เต็มเกมรุกราวกับได้วีซ่าตลอดชีพ 

อเล็กซ์ อีโวบี้ กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน มีเกมที่ดีด้วยกันทั้งคู่ ไม่เสียแรงที่ อูไน เอเมรี่ ให้ความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่โดยเฉพาะคนแรกที่แทบจะกลายเป็นลูกรักไปแล้ว

ตลอดครึ่งแรก อาร์เซน่อล ได้ลุ้นยิงถึง 11 ครั้ง เป็นการยิงในกรอบเขตโทษ 9 ครั้ง 

ลากาแซ็ตต์ มีสัญชาตญาณเต็มเปี่ยม

ตรงนี้บ่งบอกถึงรูปเกมโดยรวมค่อนข้างชัดเจนว่าปืนใหญ่พาบอลเข้าพื้นที่อันตรายของนักบุญได้เยอะมาก 

น่าเสียดายที่ครึ่งหลัง จังหวะโหมเกมรุกลดลงไปพอสมควร และไม่สามารถยิงเพิ่มได้ 

ถ้าจะมีจุดตำหนิอาร์เซน่อลในนัดนี้ก็ต้องเป็นเรื่องความเฉียบขาดที่ยังทำได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับโอกาสมากมาย

เกมนี้ได้เปรียบและเหนือกว่าทุกอย่าง  ควรเดินหน้าบดขยี้คู่แข่งให้แหลกกว่านี้ 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยออกมากระตุ้นลูกทีมแมนฯ ซิตี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่าหากมีโอกาสยิงก็ควรจัดให้หนักเพราะการลุ้นแชมป์อาจวัดกันที่ประตูได้เสียซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในฤดูกาล 2011/12 

ไม่แน่เหมือนกันว่า การลุ้นแชมป์รวมถึงลุ้นท็อปโฟร์ก็อาจต้องชี้ขาดด้วยจุดนี้เช่นกัน 

ตอนนี้ อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ห่างกันเพียง 3 คะแนน และประตูได้เสียล่าสุดเรียงลำดับกันอีกที่ +18, +17 และ +16

เรื่องผลการแข่งขันสำคัญที่สุด แต่หากยิงได้เยอะด้วยก็เป็นเรื่องดีไม่แพ้กัน

อูไน เอเมรี่ ต้องพยายามปรับปรุงจุดนี้ให้ดีขึ้น 2 ประตูนำเร็วกับเซาธ์แฮมป์ตันทำให้รอดตัวได้ แต่หากเจอทีมที่เขี้ยวกว่านี้ก็มีโอกาสน้ำตาตกแน่นอนโดยเฉพาะกับเกมนอกบ้าน

เทียบผลงานในบ้านของปืนใหญ่ถือว่าสู้ได้กับทุกทีม 

ตอนนี้เก็บไปแล้ว 35 คะแนนเท่ากับลิเวอร์พูล เป็นรองเพียงแมนฯ ซิตี้ ที่กดไป 39 คะแนน

แต่นอกบ้านก็อย่างที่เห็นกัน ทีมของเอเมรี่หลุดง่ายมาก และไม่เคยเก็บคลีนชีตได้เลย 

ตั้งแต่ขึ้นเดือนธันวาคมจนถึงล่าสุด ปืนใหญ่ชนะเกมลีกนัดเยือนเพียงนัดเดียวในวันที่บุกเชือดฮัดเดอร์สฟิลด์ 2-1 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

พร้อมลุยต่อเจอบอร์นมัธพุธนี้

ช่วงนี้ถือว่าดีที่ เอเมรี่ จะได้พาทีมปักหลักในรังเกือบทุกนัด กลางสัปดาห์ในวันพุธก็จะได้รับมือ บอร์นมัธ ก่อนบุกเยือนสเปอร์สในนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ 

เดิมทีเกมยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ แรนส์ หลังเสร็จพิธีถอนขนไก่ก็จะได้เล่นในบ้าน เพียงแต่วันนั้น เชลซี ก็มีโปรแกรมกับ ดินาโม เคียฟ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ด้วย 

กฎของยูฟ่าไม่ต้องการให้ทีมจากเมืองเดียวกันลงเล่นวันเดียวกันเพราะเกรงในเรื่องความปลอดภัย ว่าแล้วจึงสลับให้ปืนใหญ่ไปเยือนฝรั่งเศสก่อน จากนั้นค่อยกลับมาเคลียร์กันนัดสองที่เอมิเรตส์

โปรแกรมช่วงนั้นก็เลยจะได้เล่น 3 นัดติดในบ้านเริ่มจากพรีเมียร์ลีกนัดแย่งท็อปโฟร์กับแมนฯ ยูไนเต็ด ต่อด้วยนัดสองกับแรนส์ และเกมลีกกับนิวคาสเซิ่ล 

ผ่านช่วงนี้ได้น่าจะเห็นดำเห็นแดงกันพอสมควรทั้งการลุ้นท็อปโฟร์และเส้นทางในยูโรปา ลีก 

เป็น 2 ภารกิจที่แตกต่างแต่มีเป้าหมายเดียวคือ...คว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้