จนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นชื่อ กิรติ เขียวสมบัติ ทำคนเดียว 2 ประตูในสีเสื้อ โปลิศ เทโร เกมบุกถล่ม อยุธยา 6-0 จึงสะดุดใจขึ้นมาที่จะเขียนถึงเขา

เพราะภาพจำสุดท้ายบนผืนหญ้าสำหรับฉันคือ ป๊อป (ที่ไม่ใช่ ป๊อป ปองกูล) ทำประตูได้ในนัดปิดฤดูกาล 2017 ในเกม นครราชสีมา มาสด้า เปิดบ้านเสมอ สุโขทัย เอฟซี 1-1 และนั่นเป็นประตูเดียวในเกมลีก ที่เขาทำได้

ฤดูกาลถัดมาชีวิตเปื้อนถนนลูกหนังของ กิรติ คล่อยๆมูนวอล์กหายไป

เปรียบกองหน้าเป็น "มือปืน" กีรติ คงไม่ต่างจากนักฆ่าที่มือถือปืน ทว่าไร้ลูกปืนในโม่

อาจด้วยฟอร์มการเล่นที่อาจเลยจุดสูงสุดมาแล้ว รวมถึงอาการบาดเจ็บที่ตามหลอกหลอน ส่งให้โอกาสลงสนามมีเพียงจำกัดจำเขี่ย และแทบไม่ตกเป็นข่าวบนหน้าหนังสือ หรืออินเตอร์เน็ต

 8 นัดบนเวทีไทยลีก ซีซั่นที่ผ่านมา คือคำตอบชั้นดีว่า เขาไม่ใช่ตัวเลือก 1 หรือ 2 (อาจจะ 3) ของ มิลอส โยซิช

พบ สุพรรณบุรี (ลงเล่น 1 นาที)

พบ ชัยนาท (ลงเล่น 3 นาที)

พบ แอร์ฟอร์ซ (ลงเล่น 29 นาที)

พบ แบงค็อกฯ (ลงเล่น 62 นาที)

พบ บุรีรัมย์ฯ (ลงเล่น 90 นาที)

พบ ประจวบ (ลงเล่น 23 นาที)

พบ ชลบุรี (ลงเล่น 45 นาที)

พบ เชียงราย (ลงเล่น 81 นาที)

334 นาที คือเวลาที่ กิรติ เขียวสมบัติ ลงเล่นในฤดูกาล 2018 แน่นอนว่าตัวเลขทำประตูได้คือ 0

จบฤดูกาลเจ้าตัวมีข่าว เตรียมบินไปค้าแข้งลีกมาเลเซีย แต่จนแล้วจนเล่า "ฟ้าหลังฝน" เหมือนยังไม่เป็นใจให้ ดีลสุดท้ายก่อนเซ็นสัญญา "ล่ม" ทำให้ต้องบินกลับเมืองไทย ก่อนเป็น โปลิศ เทโร ที่หล่นชั้นจากลีกสูงสุดรับเจ้าตัวมาอุ้มชูดูแล

บางทีการลงมาเริ่มต้นใหม่ในลีกที่ต่ำกว่า อาจทำให้ กิรติ ไม่ต้องแบกความกดดัน และถูกโยนความคาดหวังใส่เหมือนสมัยที่เจ้าตัวติดทีมชาติไทย หรือค้าแข้งสโมสรใหญ่ๆ

เกมล่าสุดที่ "มังกรโล่เงิน" ตีกรุงศรีแตกถึง 6 แผล เจ้าตัวเหมาไปคนเดียว 2 ประตู และเป็นการทำประตูบนเวทีลีกในรอบ 462 วันของ กิรติ หลังสถาปนาเป็นมือปืนไร้กระสุนมาเกือบ 2 ปี

"รู้สึกดีใจครับ ที่กลับมาทำประตูได้ในรอบหลายปี" กิริติ เผยผ่านมีเดียสโมสร

"ตั้งแต่เจ็บกลับมาก็มีโอกาสได้เล่นเกมนี้เป็นทางการแมตช์แรก ก็ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนคลับด้วย ที่ยังติดตามผลงานผม ตอนนี้ทุกอย่างดี บรรยากาศในทีมดูเป็นแฟมิลี ทุกคนสนุกที่จะลงเล่น และกระหายชัยชนะ และพวกเราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อกลับไปไทยลีกให้ได้อีกครั้ง"

ถือเป็นการกลับมาแจ้งเกิดอย่างทางการอีกครั้งบนผืนหญ้าของ กิรติ ซึ่งน่าสนใจว่า 2 ประตูที่ปลดล็อกให้เขาในแมตช์ล่าสุด จะช่วยต่อยอดสร้างความมั่นใจปลุก "กิรติอุส" คนเดิมคืนมาได้หรือไม่

บนถนนลูกหนังสายใหม่ในวัย 32 ปี