:::     :::

โอกาสสุดท้าย

วันพฤหัสบดีที่ 07 มีนาคม 2562 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
2,086
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วัดองศาเก้าอี้กุนซือไทยลีกหลังผ่าน 2 เกม คงไม่มีใครอุณหภูมิสูงเท่า ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก อีก

2 นัดล่วงผ่าน ไม่มีคะแนนติดมือ พร้อมยังไม่สามารถทะลวงตาข่ายคู่ต่อสู้ได้สักตุงเดียว

สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดตลอดสองเกม ทั้งพ่าย พีที ประจวบ “คาบ้าน” และ บุกไปโดน ทรู แบงค็อกฯ กระทำชำเรา คือ การแก้เกมของ “ขงเบ๊” สอบตกอย่างสิ้นดี

รูปแบบการเล่นเดิมๆ แบ็กทูเบสิก ขึ้นเกมริมเส้นเป็นหลักจบด้วยการทำประตู ทว่าเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่ทำการบ้านเกมริมเส้นมาดี เอสซีจี เมืองทอง ชุดนี้ถึงกับไปไม่เป็น

เมื่อคิดไม่ออกว่าจะเจาะอย่างไรก็ “โยนแม่งเข้าไป” วัดในเขตโทษ แต่อัตราความแม่นยำของผู้เล่น “กิเลนผยอง” ยังไม่สามารถหวังผลได้อย่างชัดเจน

ทางออกสุดท้ายในสนามกลายเป็นการพึ่ง เฮแบร์ตี ที่รับบท “เดอะ แบก” อีกครั้ง สำหรับการเป็นทุกอย่างของเกมรุก หากแต่ “ใบบุญ” ของดาวยิงบราซิเลียนจะไม่ฮอตเหมือนปีที่ผ่านมา

ใช้คำว่าเอาวิญญาณเพชฌฆาตไปโยนทิ้งทะเลสาบเมืองทอง คงไม่ผิด


เกมพบ แบงค็อกฯ ในวีกที่ผ่านมาคือคำตอบชั้นดี ขุนพล “กิเลนผยอง” มีโอกาสทะลวงตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 11 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ตรงข้ามกัน “แข้งเทพ” มีจังหวะล่อเป้า 4-5 ดอก แต่ เนลสัน โบนิญา ไม่ปล่อยให้มันหลุดลอยไป

ไม่นับรวมถึงผู้เล่นในแนวรุกรายอื่นอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา หรือ อ่อง ธู ที่ฟอร์มการเล่น 2 นักล่วงผ่าน ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

เมื่อรวมกับแท็คติกที่ “ซื้อ” รูปแบบเดิมๆ ยิ่งทำให้เกมตืบตันเข้าไปอีก

ขณะที่การแก้เกมทั้งสองแมตช์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ส่งทางบวกให้ทีมเท่าไหร่ อาจเพราะเหลียวไปมองบนม้านั่งสำรอง แทบไม่มีผู้เล่นแนวลงมา “พลิกเกม” ได้เลย  

เหล่านี้คือเหตุผลพอสังเขปที่ทำให้ เมืองทองฯ จมอยู่ท้ายตาราง

สำหรับ “ขงเบ๊” คงไม่ต้องมีข้อคัดง้างใดให้มากความ เมื่อศักยภาพของ เอสซีจี เมืองทองฯ รวมถึงรูปแบบการเล่น ไม่สมควร “ขี้เหร่” เช่นนี้ด้วยประการทั้งปวง

สถานการณ์ปัจจุบันขณะ ไม่เหลือเวลามากให้ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ตำ ยำ ทำ แกง หรือคิดอะไรให้มากความ โจทย์สั้นจากนี้คือทำอย่างไรก็ได้ให้ทีมเก็บสามคะแนนได้

นั่นคือ “โอกาสสุดท้าย” ที่มีในมือ

เพราะ ผู้บริหาร เอสซีจี เมืองทองฯ คงไม่ใจเย็นผิวปากฮัมเพลง มองผลการแข่งขันที่น่าบัดซบนี้ได้ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร

Football's Coming Home วลีโก้หรูที่ใช้เป็นสโลแกนสู้ศึกฤดูกาล 2019 ตอบแทนคำพูดได้อย่างดีว่า เอสซีจี เมืองทองฯ ต้องการกลับมาจับโทรฟี่อีกหน

สโมสรฟุตบอลคือ “ธุรกิจ” ที่ถูกขับเคลื่อนโดยมนุษย์ และบางครั้งมันไม่อาจหยุดรอ

ไม่มีพื้นที่ให้ “การทดลอง” ใด ที่ไม่เกิดประโยชน์ และเสียเวลาไปมากกว่านี้อีก

หากผลลัพธ์ยังออกมาเป็นเช่นเดิม ความอดทนใน เอสซีจี สเตเดียม หรือแถวซอยนวลจันทร์ คงหมดลง และมาพร้อม ซองขาว (ที่ไม่ใช่ผ้าป่า) เพื่อขอยุติบทบาท ทางใครทางมัน

เกมเปิดบ้านพบ เชียงใหม่ เอฟซี สุดสัปดาห์นี้คือ ทางออกสุดท้าย

จะหัวหรือก้อย “ชาวกิเลน” มาร่วมเป็นสักขีพยานไปพร้อมกัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด