:::     :::

คำตอบของความเชื่อใจ !

วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
3,778
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความไว้ใจ เชื่อใจ ในตัวลูกน้องของเจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ลิเวอร์พูลเดินหน้าพัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้

คุณเคยเชื่อมั่นอะไรมากๆ จนยอมที่จะฝืนกระแสคนรอบข้างไหมครับ? ความเชื่อที่ว่านี้มันเป็นนามธรรมมากๆ และสิ่งที่จะพิสูจน์ความเชื่อที่ว่ามานี้ ก็อยู่ที่ผลลัพพ์ที่ออกมานั่นแหละครับ  ว่าสิ่งที่เราเชื่อมั่นและสวนกระแสแบบนั้นมันถูกต้องไหม ถ้าผลลัพพ์มันออกมาดี นั่นก็เท่ากับว่าเราซื้อใจคนๆ นั้นหรือมั่นคงในเรื่องนั้นๆ มากพอ แต่ถ้าผลลัพพ์มันก็มาตรงกันข้าม ก็กลายเป็นว่าเราดื้อและมีอีโก้จนไม่ฟังคำทัดทานจากคนรอบข้างไป

           
เกมนัดนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนที่ได้เห็นรายชื่อนักเตะตัวจริงลิเวอร์พูล และได้เห็นว่า อดัม ลัลลาน่าลงเป็นตัวจริง คงส่ายหน้าและตั้งเครื่องหมายคำถามกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัวโตๆ อีกครั้งอย่างแน่นอน ข้อหา “เด็กเส้น” หรือ “ลูกรัก” นำพาเอาเสียงบ่นด่าไปทั่วทุกสารทิศ แต่เจอร์เก้น คล็อปป์เลือกที่จะไม่สนใจเสียงของผู้คนภายนอกเหล่านั้น และเชื่อใจลูกทีมคนนี้ของเขาอย่างเต็มหัวใจ ซึ่งลูกทีมของเขาคนนี้ก็ตอบแทนความไว้ใจเขาได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว



ลูกรักของคล็อปป์

            



           
อดัม ลัลลาน่านั้นถือว่าเป็นนักเตะคนโปรดของคล็อปป์จริงๆ ครับ กุนซือชาวเยอรมันนั้นเอ่ยปากชื่นชมถึงความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจของนักเตะเครางามคนนี้อยู่บ่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าลัลลาน่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และฟิตพร้อมพอ เขาก็มักจะทำผลงานได้ดีภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์อยู่เหมือนกัน  แต่อาการบาดเจ็บที่รุมเร้ามาตลอด1-2 ปี แทบจะทำให้เราลืมไปแล้ว ว่าครั้งล่าสุดที่ลัลลาน่าทำผลงานได้ดีเป็นที่น่าพอใจของแฟนๆ ครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร แต่พอลัลลาน่าหายเจ็บและมีความฟิตพอที่จะลงสนามได้ คล็อปป์ก็ใช้บริการของเขาอยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ในปีนี้นั้น ลัลลาน่าเป็นเป้าโจมตีจากแฟนๆ อยู่บ่อยครั้ง ขนาดเป็นตัวสำรองแฟนๆ ยังบ่นกันยับ แต่นี่คล็อปป์เลือกที่จะส่งเขาลงมาเป็นตัวจริงเลย นี่คือการซื้อใจลูกทีมคนโปรดของเขาอย่างแท้จริง ซึ่งพอเป็นแบบนี้ ลัลลาน่าก็มีแต่ต้องสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองเพื่อโค้ชที่เชื่อใจเขา เพื่อให้แฟนๆ ลิเวอร์พูลเห็นว่าเขานั้นยังมีดีพอ และยังไม่ “หมดสภาพ” แบบที่หลายๆ คนเคยดูแคลนเขาไว้ 


           
ซึ่งในเกมนี้เขานั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากครับ ประตูแรกและประตูที่ 2 ตัวเขาเองมีส่วนร่วมต่อกันได้ประตูนี้อย่างมาก ประตูแรกนั้นเขาเป็นคนวางบอลไปให้กับซาลาห์ ลากเลื้อยแล้วตบเข้ากลางให้กับฟีร์มีโน่ชาร์จเป็นประตูตีเสมอ ส่วนประตูที่ 2 ก็เกิดจากความขยันของเขาที่ไปไล่บีบและไปสกัดบอลจนไปเข้าทางซาลาห์ได้โอกาสยิง แต่สุดท้ายบอลมาเข้าทางมาเน่ปั่นเข้าเสาสองเข้าไปอย่างสุดสวย และนอกจากนี้เขายังแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่ คอยไล่บอล คอยเพรสซิ่งคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเขาโดนเปลี่ยนตัวออกไป ถึงตรงนี้นอกจากจะเป็นการซื้อใจนักเตะของเจอร์เก้น คล็อปป์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มไพ่ในมือให้กับคล็อปป์ได้อีกด้วย ทำให้ ณ เวลานี้กองกลางของลิเวอร์พูลมีตัวเลือกอย่างอดัม ลัลลาน่าเพิ่มมาอีกคนแล้วครับ



ประตูนำของเบิร์นลี่ย์



           
ลิเวอร์พูลนั้นเสียประตูนำให้กับเบิร์นลี่ย์ ตั้งแต่ต้นเกมจากลูกเตะมุมที่ต้องบอกตรงๆ ว่า “ไม่ควรเสีย” อย่างยิ่งเลยนะครับ ไม่ว่าจะมองจากภาพช้าหรือภาพเหตุการณ์จริง ประตูดังกล่าวก็ไม่น่าจะถูกนับเพราะยังไงก็ดูเป็นการฟาวล์ของผู้เล่นเบิร์นลี่ย์แน่นอนอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ ผู้รักษาประตูหลายๆ คนโดนแบบนี้มาแล้วแทบทุกคน ถ้าเป็นลีกอื่นหรือฟุตบอลรายการอื่นๆ ผู้ตัดสินจะค่อนข้างปกป้องผู้รักษาประตูกันมากกว่านี้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรอบ 6 หลา ที่จะถือว่าเป็นพื้นที่ของผู้รักษาประตูเลย ห้ามปะทะหรือขัดขวางการเล่นของผู้รักษาประตูโดยเด็ดขาด ถ้ามีการปะทะกันนิดเดียวก็จะถือว่าเป็นการฟาลว์ทันที ...  แต่ ...... ที่นี่พรีเมียร์ลีกครับ โกล์ของลีกนี้จะไม่ได้รับการปกป้องใดๆ จากผู้ตัดสินแม้แต่นิดเดียว ทำให้ผู้รักษาประตูหลายๆ คน เอาชื่อมาทิ้งไว้ที่ลีกนี้มานักต่อนักแล้ว จริงๆ แล้วอลิสซงแก้ปัญหานี้ได้ดีพอสมควรมาตลอดนะครับ แต่การ”ฟาวล์เห็นๆ” แบบนี้ก็ไม่รู้จะไปว่ากล่าวอะไรเขาได้เหมือนกัน หวังว่าปีหน้าที่มีข่าวว่าจะเอา VAR มาช่วยตัดสินจะทำให้ผู้รักษาประตูในลีกนี้ได้รับการปกป้องมากขึ้นนะ

ไม่มีคำว่ายอมแพ้


            เจอร์เก้น คล็อปป์และลูกทีมของเขาได้ออกมาพูดอยู่เรื่อยๆ ครับ ว่าพวกเขานั้น “ยังไม่ยอมแพ้” ในการลุ้นแชมป์ง่ายๆ อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่พิสูจน์เรื่องนี้ได้ ไม่ใช่คำพูดครับ แต่เป็นผลงานและการแสดงออกมาในสนามให้ทุกคนได้เห็นต่างหาก ซึ่งในเกมนี้พวกเขาก็พิสูจน์คำพูดของพวกเขาได้เป็นอย่างดีครับ แม้ว่าพวกเขาจะโดนนำไปก่อนจากประตูที่ไม่สมควรเสีย แต่พวกเขาก็นิ่งพอและมีสมาธิมากพอที่จะตั้งใจเล่นและทวงประตูคืนให้เร็วที่สุดเพื่อให้เกมนี้เป็นของพวกเขา และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จครับ  แม้จะมีจุดที่ต้องตำหนิอยู่บ้างกับการทิ้งขว้างโอกาสที่มากเกินไปของพวกเขา หรือแม้แต่การเสียสมาธิจนทำให้เสียประตูไล่มาท้ายเกม แต่สุดท้ายพวกเขาก็เก็บชัยชนะคว้า 3 แต้มซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของพวกเขาได้อย่างสวยงาม 


           
ตอนนี้อยู่ในโค้งสุดท้ายแล้วในการลุ้นแชมป์ลีกของพวกเขา และดูเหมือนว่าสติและความเชื่อมั่นจะกลับมาสู่พวกเขาได้อีกครั้งหนึ่ง การเล่นของพวกเขาในวันนี้ส่งสาส์นบอกไปยังทีมนำอย่างแมนฯซิตี้ได้เป็นอย่างดีล่ะครับ ว่าการลุ้นแชมป์ในปีนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด