ผู้มาแทนอย่าง โมดิโบ ไมกา และ เปโดร จูเนียร์ ยังมองหาดีเอ็นเอความเป็น “ตัวแทน” อดีตเครื่องจักรสังหารหมายเลข 1 “ปราสาทสายฟ้า” ได้
แม้ เนวิน ชิดชอบ จะยืนกรานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน “การเปลี่ยนผ่านทุกครั้ง ทีมต้องดีกว่าเก่า” แต่ก็อดถูกตั้งคำถามไม่ได้
อย่างไรก็ดีหลังสิ้นเสียงนกหวีดเกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่สองที่ทีม เปิดรังเชือด ชอนบุค มอเตอร์ส ดูเหมือนเสียงจากแฟนบอลที่ตะโกนหา ดิโอโก ซานโต จะเบาบางลง
ไม่ใช่แข้งใหม่เข้ามา “ทดแทน” ได้อย่างหมดจด
หากแต่เป็นฝูง “ลูกนก” โรงเรียนดิโอโกวิทยา ที่กระโดดขึ้นมาประกาศศักดิ์ดาอย่างเต็มเปา
สุภโชค สารชาติ (20 ปี)
ศุภชัย ใจเด็ด (20 ปี)
รัตนากร ใหม่คามิ (21 ปี)
ศศลักษณ์ ไหประโคน (23 ปี)
ทั้งหมดนี้ล้วนต่างมีบทบาทในทีมมากกว่าเดิม และกลายเป็นกำลังสำคัญให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้
5 ประตูที่ บุรีรัมย์ ทำได้ในฤดูกาลนี้ 4 ตุงมากจากเด็กหนุ่มอายุ 20 ที่ท่าประธานสโมสร เคยคุยโวไว้หลายปีก่อนว่า หมอนี่คือ อันเดรส อิเนสตา เมืองไทย
ทำให้ภาพร่างการเปลี่ยนผ่านของ บุรีรัมย์ฯ จากที่เคยมี ดิโอโก เป็นศูนย์กลางในแนวรุก ถูกทดแทนด้วย “พลังคนรุ่นใหม่” ที่ให้ผลลัพธ์ไม่แพ้กัน
สุภโชค สารชาติ ขึ้นแท่นมาเป็นแกนหลักอย่างสมบูรณ์ ในฐานะคีย์แมนตัวรุกของทีม รวมถึงกองหน้า
ศุภชัย ใจเด็ด ยัง “ใจถึง พึ่งได้” เสมอ ไม่ว่าจะถูกหยิบจับไปเล่นในตำแหน่งไหน ไม่ว่าจะเป็น กองหน้าตัวเป้า หรือ แผงมิดฟิลด์
รัตนากร ใหม่คามิ ค่อยๆถีบก้าวเดินการพัฒนามากขึ้น ในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางคนหนึ่งที่คอยปัดกวาดเกมรุกคู่แข่ง อยู่หน้าแผงหลัง
ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ยึดตัวหลักขึ้นมาตั้งแต่ปีกลาย ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นระดับสูงไว้ได้ตามเดิม
หรือจะเป็นซูเปอร์ซับวัย 16 ปีอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่น่าจะมีบทบาทกว่าเดิมในฤดูกาลนี้ จากการเริ่มถูกส่งลงสนามบ่อยครั้ง
ที่สำคัญกว่านั้น นักเตะที่กล่าวมาคือผู้เล่น “ทีมชาติไทย”
นั่นหมายความว่า หมากของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ใช้พลังดาวรุ่งอาละวาด แทนการจากไปของ ดิโอโก ซานโต โดยมีผู้เล่นต่างชาติเป็นส่วนผสมให้ลงตัว ส่งผลดีกับ “ช้างศึก” อย่างมาก
เพราะแข้งดาวรุ่งเหล่านี้มีเวทีได้ปล่อยของ ทั้งระดับไทยลีก และ เอเชีย รวมถึงการเล่นร่วมกับผู้เล่นต่างชาติมากประสบการณ์ ยิ่งมีส่วนช่วยให้ “ลูกนก” เหล่านี้ พัฒนามากขึ้นกว่าเดิม
เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้ ลูกนก 2 ตัว คือ สโมสร และ ทีมชาติ โกยผลพลอยได้ไปเต็มๆ
ตักน้ำอย่าลืมคนขุดบ่อ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังที่มีส่วนช่วย “ลูกนก” เหล่านี้โผบินล่าเหยื่อได้เองคือ ดิโอโก ซานโต ที่เปรียบเสมือน “คุณครูลูกหนัง” อีกคนหนึ่ง
ศุภชัย ใจเด็ด เคยเผยว่า ทุกวันที่ซ้อม เขาจะดู ดิโอโก เล่นตลอด ดูแล้วทำตาม พัฒนาให้เหมือนเขา
เป็นแรงบันดาลใจที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ และเข้าถึงได้
เขารับรายได้มหาศาลกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แลกกับการเป็นส่วนสำคัญ เสกแชมป์ให้ทีมได้อย่างมากมาย พร้อมเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ด้วยเท้าสองข้างของตัวเอง
แต่ในอีกมุมเขาเองเป็น “ผู้ให้” ด้วยเช่นกัน
วิชาลูกหนัง ทัศนคติความเป็นมืออาชีพ การเล่น สิ่งเหล่านี้เขาถ่ายทอดให้ “ลูกนก” เหล่านี้ตลอดที่อยู่ด้วยกันในแดนอีสานใต้
วันที่เห็น “ลูกนก” ที่อยู่เคียงข้างเริ่มโผบิน แข็งแกร่งออกล่าเหยื่อได้ด้วยตัวเอง
บางทีครูลูกหนังอย่างเขา คงแอบยิ้มอยู่ไกลๆ
