การกลับมาของ ซีเนดีน ซีดาน ทำให้คนส่วนใหญ่ปลาบปลื้มยินดี แต่การกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมครั้งนี้ของเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสทำให้นักเตะบางคนอาจจะอยู่ไม่เป็นสุขโดยเฉพาะพวกที่เคยไม่ลงรอยกับ'ซิซู'ก่อนหน้านี้ 

หนึ่งในนั้นคือนักเตะชื่อ แกเร็ธ เบล จนมีเครื่องหมายคำถามถึงอนาคตของกองหน้าทีมชาติเวลส์ว่าจะลงเอยอย่างไรหลังจบซีซั่นนี้ 

เบล เคยออกมาให้สัมภาษณ์สื่อหลังหลุดเป็นตัวสำรองก่อนลงมายิง 2 ประตูจากชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล 3-1 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่กรุงเคียฟช่วงเดือนพฤษภาคมปีก่อนว่ากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องอนาคตค้าแข้งกับทัพ'โลส บลังโกส'เพียงแต่ ซีดาน ชิงลาก่อนไปซะก่อน 

'ซีดาน ไม่ได้คุยกับผมเกี่ยวกับการจากไปของเขา ผมไม่ได้คุยกับเขานับตั้งแต่เกมชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก'

'ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นไปด้วยดี แต่ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด'เบล เคยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส

'ผมรู้สึกผิดหวังตอนที่ผมเป็นตัวสำรองที่เคียฟและผมเล่นได้ดีนับตั้งแต่กลับมาจากการบาดเจ็บ ผมยิง 5 ประตูจากการลงเล่นลีกา 4 เกมและรู้สึกว่าผมควรจะได้ออกสตาร์ท' 

ขณะที่ โจนาธาน บาร์เน็ตต์ เอเยนต์ของ เบล ยืนยันว่ากองหน้าชาวเวลส์จะรอดูสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการกลับมาของ ซีดาน จากนั้นจึงจะตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งในอนาคต 

การกลับมาของ ซีดาน ย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับ เบล แน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับสาวกมาดริดีสต้าตอนสโมสรแถลงข่าวเปิดตัวเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสผ่านโลกโซเชียล แต่กองหน้าชาวเวลส์ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับข่าวใหญ่ของต้นสังกัด เขาเลือกที่จะกลับไปทบทวนความทรงจำในการเล่นกอล์ฟของเขามากกว่า

เรอัล มาดริด ดึง แกเร็ธ เบล จาก สเปอร์ส ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ด้วยค่าตัว 91 ล้านยูโรตามการยืนยันของสโมสร แต่สื่ออังกฤษระบุว่าการย้ายสังกัดของกองหน้าทีมชาติเวลส์มีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านยูโร ซึ่งกลายเป็นสถิตินักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ขณะนั้น

เกือบ 6 ปีที่ผ่านมา เบล มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของทัพ'โลส บลังโกส'ด้วยการคว้าแชมป์ถึง 13 รายการ ทั้ง ลีกา (1 สมัย), โกปา เดล เรย์ (1 สมัย), ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (4 สมัย), ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (3 ครั้ง), ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (3 ครั้ง) และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ อีกหนึ่งครั้ง

ทว่านับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' เบล บาดเจ็บรวมกันทั้งหมด 22 ครั้ง โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อน่องซ้ายที่สร้างปัญหาให้กองหน้าชาวเวลส์ถึง 6 ครั้ง การบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้สื่อเมืองกระทิงตั้งอีกหนึ่งนิคเนมสำหรับกองหน้าทีมชาติเวลส์คือ'มิสเตอร์.กลาสส์'หรือ'นายกระจก' ซึ่งบ่งบอกถึงสภาพร่างกายอันบอบบางพร้อมบาดเจ็บแตกหักทุกเมื่อได้เป็นอย่างดีกองดาวเตะวัย 29 ปี 

การบาดเจ็บแต่ละครั้งของ เบล ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้แฟนมาดริดแม้แต่น้อย ซึ่งอาจเป็นเพราะการรับฟังข่าวดังกล่าวมาโดยตลอดจนกลายเป็นความชินชา โดยเฉพาะการบาดเจ็บครั้งล่าสุดทำให้กองหน้าชาวเวลส์พลาดการลงสนามรวมกันถึง 84 เกมเพราะการบาดเจ็บหรือคิดเป็น 54.2 เปอร์เซนต์นับตั้งแต่เซ็นสัญญากับทัพ'โลส บลังโกส'

เบล ทำสถิติลงเล่นกับ เรอัล มาดริด ตลอดช่วง 6 ซีซั่น รวมกัน 223 เกม ยิง 101 ประตู เฉลี่ยรับค่าจ้างจากการลงเล่นเกมละประมาณ 4 แสนปอนด์และรับทรัพย์จากการยิงประตูละประมาณ 8.7 แสนปอนด์ 

ทั้งฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ ทั้งสภาพร่างกายเปราะบางบาดเจ็บง่าย ทั้งค่าแรงระดับพรีเมียมจากการรับค่าเหนื่อยตกปีละ 12 ล้านยูโร อายุไม่น้อยและยังมีสัญญาจนถึงปี 2022 มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมาดริดที่จะกำจัด เบล พ้นถิ่นเบร์นาเบวเช่นกัน

'ความสัมพันธ์ระหว่าง ซีดาน กับ เบล แตกหักหลังซีซั่น 2017-18 สิ้นสุดลง ดังนั้น เบล จึงบอกโลกว่าเขากำลังพิจารณาเรื่องอนาคตของตนเองหลังเกมชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นที่แล้ว'

'ซีดาน ไม่ต้องการทำงานกับ เบล แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะเขี่ยเขาที่กำลังจะอายุ 30 ด้วยค่าตัวมากกว่า 75 ล้านยูโรและรับค่าจ้างปีละ 12 ล้านยูโร'กีเยม บาลาเก ผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลสเปนของ'สกาย สปอร์ตส์'แสดงความเห็น

แกเร็ธ เบล ยังเป็นนักเตะที่พอจะทำเงินได้สำหรับ เรอัล มาดริด ถ้าต้องการปล่อยตัวเพื่อหาทุนสร้างทีมใหม่ให้ซีดานในช่วงซัมเมอร์นี้ 

แต่คำถามก็คือจะมีทีมใดที่กล้าลงทุนกับกองหน้าชาวเวลส์ที่มีประวัติการบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว? และมีเพียงกี่ไม่สโมสรที่มีความสามารถมากพอสำหรับการจ่ายค่าตัวและค่าจ้างเบล 

หนึ่งในนั้นคือ แมนฯยูไนเต็ด ที่ตกเป็นข่าวตามจีบ เบล มาเป็นเวลานานก่อนที่นักเตะจะย้ายจาก สเปอร์ส มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เมื่อ 6 ปีก่อนด้วยซ้ำ แต่ทีมปีศาจแดงมีประสบการณ์ไม่ดีกับการลงทุนกับ อเล็กซิส ซานเชซ หลังจ่ายเงินค่าจ้างสุดงามให้นักเตะวัยเฉียด 30 ปี ทว่ากลับได้รับผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าเอาซะเลย 

ดังนั้น เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอของ แมนฯยูไนเต็ด คงต้องคิดหนักในการดึง เบล ไปค้าแข้งในถิ่น'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'ในช่วงซัมเมอร์นี้จนสื่อเมืองแมนเชสเตอร์นำไปเปรียบเทียบกับการคว้าตัว เจดอน ซานโช่ ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษที่สดกว่าหนุ่มกว่ามาจาก ดอร์ทมุนด์ ว่าใครจะคุ้มค่าการลงทุนด้วยงบประมาณมหาศาลมากกว่ากัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นเรื่องยากสำหรับ เรอัล มาดริด หากหวังจะปล่อย เบล ออกจากถิ่นเบร์นาเบว ขณะที่การค้าแข้งกับทีมชุดขาวของกองหน้าชาวเวลส์กลายเป็นเรื่องยากลำบากไม่ต่างกัน 

จากผลสำรวจความคิดเห็นแฟนบอลจากสื่อเมืองกระทิงหลายสำนักโดยเฉพาะ'มาร์ก้า'กับ'อาส'สื่อสายโปรทัพ'โลส บลังโกส'เสียงส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่าทีมชุดขาวควรจะเขี่ยทิ้งกองหน้าชาวเวลส์มากที่สุด 

แม้กระทั่งช่วงที่ เบล ขับรถเดินทางมาสนามฝึกซ้อมวันแรกในภายการคุมทีมฝึกซ้อมของ ซีดาน ยังมีแฟนมาดริดบางส่วนมารอดักหน้าประตูทางเข้าพร้อมตะโกนว่า'แกมันห่วย ออกไปซะ!!'

การเซ็นสัญญาระยะยาวกับนักเตะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ถ้าสโมสรคิดจะโละนักเตะคนหนึ่งคนใดที่มีสัญญาระยะยาวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกรณีของ เรอัล มาดริด กับ เบล ซึ่งยืนกรานว่าจะไม่ยอมลดค่าจ้างจากที่รับอยู่ปีละ 12 ล้านยูโร อีกทั้งยังไม่มีทีมใดกล้าจ่ายค่าตัวกองหน้าชาวเวลส์มากกว่า 75 ล้านยูโรด้วย ขณะที่ท่านประธานฟลอเรนตีโน่ยังมองโลกสวยโดยหวังว่าจะรับทรัพย์จากการปล่อยนักเตะด้วยค่าตัวไม่น้อยกว่า 100 ล้านยูโร 

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้มีข่าวลือว่า ดาเนียล เลวี่ ประธานสโมสร สเปอร์ส แสดงความหัวหมอว่าพร้อมดึง เบล กลับเล้าไก่ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี โดยทีมดังกรุงลอนดอนจะช่วยออกค่าเหนื่อยนักเตะส่วนหนึ่ง แต่ เรอัล มาดริด จะต้องรับผิดชอบค่าจ้างส่วนใหญ่ตามเดิม แต่ฟลอเรนตีโน่คงไม่บ้าจี้ทำตามข้อเสนอนั้นแน่ 

มันยังมีข่าวลือแม้กระทั่ง แมนฯยูไนเต็ด จะยื่นข้อเสนอแลกตัวกันระหว่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ แกเร็ธ เบล ของ เรอัล มาดริด แต่กองหน้าทีมชาติชิลีไม่ใช่นักเตะตามสเปคที่ ซีดาน ต้องการ 

โจนาธาน บาร์เน็ตต์ เอเยนต์ของเบลยังแสดงความมั่นใจไม่ต่างจากเดิมแม้ว่า เรอัล มาดริด จะดึง ซีดาน กลับมานั่งเก้าอี้เทรนเนอร์อีกรอบก็ตามโดยยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนอนาคตของนักเตะ 'เขาจะอยู่กับมาดริดเท่าที่เขาต้องการ' 

การเลือกที่จะอยู่กับมาดริดต่อไปตามพันธะสัญญาอาจจะทำให้ เบล ไม่มีความสุขกับการเล่นฟุตบอลเนื่องจากเขาจะไม่ใช่ตัวเลือกลำดับต้นๆของ ซีดาน กองหน้าชาวเวลส์จะไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตในมาดริดเนื่องจากถูกกลุ่มแฟนมาดริดบางส่วนตะโกนขับไล่ไสส่งไม่เว้นแต่ละวัน

ถ้าหาก เบล ต้องการกลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอีกครั้ง เขาจำเป็นต้องยอมลดค่าจ้างลงมาจากเดิม เช่นเดียวกับ เรอัล มาดริด ก็ต้องไม่เรียกค่าตัวแพงเกินจริง เรื่องราวทุกอย่างจะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้