ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) VS ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
เลกแรก : @ แอนฟิลด์ 9 เม.ย./เลกสอง : @ เอสตาดิโอ โด ดราเกา 17 เม.ย.
ลิเวอร์พูล
คีย์แมน? : เฟอร์กิล ฟาน ไดค์
ฟาน ไดค์ จัดว่าคือการเซ็นสัญญาแบเกาถูกที่คันของ 'หงส์แดง' อย่างไร้ข้อกังขา เพราะขณะที่เกมรุกยังบุกกันเป็นบ้าเป็นหลังตามธรรมชาติ
พอได้ 'วีวีดี' เข้ามาเสริม ทำให้หลังบ้านแน่นขึ้น ราศีของทีมซึ่งจะประสบความสำเร็จทั้ง 2 รายการในมือ (ยูซีแอล, พรีเมียร์ลีก) เปล่งปลั่งตามมา
ฟาน ไดค์ คนโปรด คล็อปป์
แข้งดัตช์เข้ามารับบทบาทเจ้านายใหญ่เกมรับในทันที ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนาม ส่วนสกอร์ซึ่งขึ้นมาโขกใส่ บาเยิร์น มิวนิค รอบ 16 ทีม นัดสองก็ยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องช่วยพังตาข่ายที่ฟากสนามหากมีโอกาสกฌไม่ขัดศรัทธา
ปอร์โต้
คีย์แมน? : มูสซ่า มาเรก้า
กองหน้าชาวมาลีคือกลจักรสำคัญที่ทำให้ทีม 'ตรามังกร' ยังโลดแล่นบนรายการนี้ได้ โดยเขาพังตาข่ายในเกมเหย้าทุกนัดให้ ปอร์โต้ ตลอด 4 แมตช์
มาเรก้า กองหน้าตัวเก่งของ ปอร์โต้
สำหรับเส้นทางของ มาเรก้า ต้องพิสูจน์ตัวเองทีเดียวเพราะเมื่อซัมเมอร์ 2016 ย้ามาจาก มาริติโม่ ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้จึงปล่อยยืมแก่ วิตอเรีย กิไรส์ ตลอดซีซั่น 206-16-17 ขัดเกลาได้ที่ก็เรียกคืนสังกัดแม่
ผลงานพิสูจน์ดาวเตะวัย 27 ปี เมื่อพังตาข่าย 17 ลูก จากการลงสนาม 34 นัด ฤดูกาลนี้ จึงได้รับค่าตอบแทนเป็นสัญญาใหม่ที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้น แลกกับการตั้งค่าฉีกสัญญามูล 34 ล้าน ปอนด์ โดยมีทีมจากพรีเมียร์ลีกสนใจทั้ง เลสเตอร์ หรือ เวสต์แฮม
ฟันธง : ลิเวอร์พูล ล้อมปราบใส่ ปอร์โต้ อย่างสบายเกือกปีก่อน คาดว่าคงเป็นหนังม้วนเดิมที่ 'หงส์แดง' กรุยทางสู่รอบรองฯ
.........................................................................................
ท็อตแน่ม (อังกฤษ) - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
เลกแรก : @ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม 9 เม.ย./เลกสอง : @ เอติฮัด สเตเดี้ยม 17 เม.ย.
ท็อตแน่ม
คีย์แมน : แฮร์รี่ เคน
ช่วงก่อนนี้ ท็อตแน่ม พลาดใช้งาน เคน ไปนานถึง 6 เกม เพราะบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าส่งผลให้พวกเขาตกรอบฟุตบอลถ้วยไปถึงสองรายการ
ขณะที่ผลงานในลีกแม้จะชนะรวดทั้ง 4 นัดแต่ก็ผ่านมาได้แบบหวาดเสียวทั้งสิ้นทั้งแมตช์พบ ฟูแล่ม, วัตฟอร์ด, นิวคาสเซิ่ล และ เลสเตอร์
เคน ความหวังสูงสุดของ ท็อตแน่ม
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีเมื่อเพชรฆาตตัวเก่งฟื้นกลับมาช่วงท้ายๆของซีซั่น เพราะหากจะหวังความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ผจก.ทีม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะขาด เคน ไม่ได้
แมนฯ ซิตี้
คีย์แมน : เซร์คีโอ อเกวโร่ 'กุน'
ผ่านไปปีแล้ว ปีเล่า ความกระหายในการพังตาข่ายของดาวยิงอาร์เจนไตน์ไม่เคยลดลง ซึ่งหากยังแจ่มแบบนี้ไปเรื่อยๆ แชมป์ที่อยู่บนเส้นทางอีก 3 รายการก็น่าลุ้นเหมาหมด
สถิติฟ้องว่า 'กุน' กดไป 27 สกอร์จากการลงสนาม 36 นัด ทุกรายการซีซั่นนี้ รั้งในระดับหัวแถวยุโรปไม่น้อยหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลีโอเนล เมสซี่
แน่นอนว่า ผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็หวังให้ลูกน้องคนเก่งรักษาผลงานตลอดรอดฝั่ง
กุน ผลงานกำลังเข้าฝัก
ฟันธง : การพบกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ซิตี้ เล่นงาน 'ไก่เดือยทอง' ไปแล้วหนหนึ่ง ซึ่งโอกาสโคจรมาดวลกันอีกครั้งในเดือนเมษายน 3 นัดรอบ 11 วัน น่าสนใจว่าทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะต้านทาง 'เรือใบสีฟ้า' ได้หรือไม่
ตามเนื้อผ้าต้องยอมรับว่าหากไม่ฟอร์มเทพแบบสุดๆทั้งทีม ก็ยากที่ สเปอร์ส จะขวางทาง แมนฯ ซิตี้ ไม่ให้ไปถึงรอบรองชนะเลิศ
.........................................................................................
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ ) - บาร์เซโลน่า (สเปน)
เลกแรก : @ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 10 เม.ย./เลกสอง @ คัมป์ นู 16 เม.ย.
แมนฯ ยูไนเต็ด
คีย์แมน : ปอล ป็อกบา
ป็อกบา ในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีผลงานโดดเด่นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อครั้งมี โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน
อนึ่งการติดโทษแบนในเกมรอบ 16 ทีม แลกสอง ซึ่งออกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำให้เจ้าตัวอัดอั้นทีเดียว
โซลชาเจออีกด่านหินพิสูจน์กึ๋น
บทพิสูจน์สำคัญของแม่ทัพดีกรีแชมป์โลก กับการพบทีมซึ่งได้ชื่อระดับท็อป มันจะชี้วัดว่าความเป็นผู้นำบนสนามของดาวเตะวัย 26 ปี มากพอสำหรับปลอกแขนกัปตันซีซั่นหน้าหรือยัง?
บาร์เซโลน่า
คีย์แมน : ลีโอเนล เมสซี่
เมสซี่ ผลงานไม่มีตกเมื่อกด 36 ประตูจาก 36 นัดที่ลงสนามจากทุกรายการซีซั่น 2018-19 นี้ บวกความท้าทายเรื่องไม่ได้ครองเจ้ายุโรปตั้งแต่ปี 2015 ก็ยังฝังหัว
สตาร์อาร์เจนไตน์ซึ่งรักษาเนื้อตัวให้ดีมาตลอด พร้อมระเบิดพลังปปล่อยของช่วงโค้งท้าย ยิ่งได้คู่แข่งศักดินาระดับฐานแฟนเหนียวแน่นทั่วโลก เจ้า 'ลีโอ' ยิ่งอยากปล่อยของ
กองหลัง ยูไนเต็ด จะรับมือเมสซี่อย่างไร?
ฟันธง : หากว่าเลกแรก ยูไนเต็ด สามารถเก็บคลีนชีตในการเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาก็มีโอกาสดีในการผ่านเข้ารอบเช่นกัน เพราะหลังบ้าน บาร์ซ่า ชั่วโมงนี้ดูมีปัญหาพอสมควร
ทว่าโจทย์ยากคือต้องหยุด เมสซี่ แค่คิดก็เหนื่อยแทน วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ หรือ คริส สมอลลิ่ง เสียแล้ว
.........................................................................................
อาแจ็กซ์ (ฮอลแลนด์) - ยูเวนตุส (อิตาลี)
เลกแรก : @อัมสเตอร์ดัม อารีน่า 10 เม.ย./เลกสอง :@ อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม 16 เม.ย.
อาแจ็กซ์
คีย์แมน? : เฟรงกี้ เดอ ยอง
กองกลางวัย 21 ปี ที่ตกลงเซ็นสัญญาล่วงหน้าร่วมงาน บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวมหาศาล 75 ล้าน ยูโร โดนกังขาว่าฝีเท้าแพงขนาดนั้นเลยหรือ?
ซึ่งหากใครได้ชมเกมในรอบ 16 ทีม ก็จะทราบว่านี่คือการลงทุนเพื่ออนาคตอย่างแท้จริงเพราะทั้งหน่วยก้าน, เซนส์ในการตั้งเกมรุก หรือเลี้ยงตะบึงไปข้งหน้ามันดูเป็นธรรมชาติไปหมด
เดอ ยอง (ซ้าย) เล่นเอา โมดริช หัวหมุน
ยิ่งต้องมาเจอบอลกระดูกเขี้ยวลากดินแบบ ยูเวนตุส ก็นับเป็นโอกาสดีเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเขาของจริงหรือของเก๊
ยูเวนตุส
คีย์แมน? : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ไร้ข้อกังขาว่า ยูเวนตุส เซ็นสัญญากับนักเตะวัย 34 ปี ในราคา 100 ล้าน ยูโร เพื่อเหตุใด ... ก็เพื่อมาช่วยคว้าแชมป์ ยูฟ่า ชปล. รายการซึ่ง 'เบียงโคเนรี่' รอคอยมาตั้งแต่ปี 1996
'ซีอาร์ 7' ได้ชื่อว่าถูกโฉลกกับรายการ ยูซีแอล เพราะกวาดมาต่อเนื่อง 3 ปีติด หรือตลอดอาชีพก็กดไปแล้วห้าหน มากกว่านักเตะคนไหนๆที่หลงเหลือมาถึงรอบนี้
ขิงแก่ โรนัลโด้
ฟอร์มด้านทำประตูก็เครื่องติด 24 สกอร์จาก 36 นัด เรียกว่ายิ่งอาวุโสยิ่งเผ็ดร้อนจริงๆ
ฟันธง : สโมสร ยูเวนตุส มุ่งมั่นแบบไม่ยอมลดละที่จะคว้าแชมป์ยุโรปอีกครั้งให้ได้ ซึ่งศักยภาพของ โรนัลโด้ และพวกพ้องคงไมยากเกินฝ่าด่าน อาแจ็กซ์
