:::     :::

มุมมองคนลูกหนังหลังช้างศึกบุกเชือดมังกรคาถ้ำ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
7,662
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชัยชนะมันหอมหวลอย่างนี้นี่เอง ถือเป็นการล้างตาคืนได้สำเร็จสำหรับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่บุกไปยัดเยียดความปราชัยเหนือ "มังกร" ทีมชาติจีน ถึงบ้าน 1-0 ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าชื่นชม พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไชน่า คัพ 2019 ได้สำเร็จเป็นทีมแรก ส่วนความคิดเห็นของคนในวงการลูกหนังไทยจะคิดเห็นกับผลงานในเกมนี้อย่างไรนั้น มาติดตามกัน


วิทยา เลาหกุล

ครึ่งแรกน่าเสียดายที่เราน่าจะได้ประตูมากกว่าหนึ่งลูก แต่จังหวะยังขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีโดยเฉพาะเกมรับที่ช่วยกันตลอด สิ่งที่ต้องชื่นชมก็คือเราไม่เสียฟาวล์ในระยะอันตรายเลยแม้แต่ครั้งเดียว นักเตะที่ไปเล่นในเจลีกสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ผมมองว่า ชนาธิป คือคนที่มาตรฐานดีที่สุดในสนามวันนี้ เขาสามารถเทิร์นบอล พลิกบอลเปลี่ยนแกนและดึงตัวผู้เล่นของจีนได้ตลอด ทำให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นเล่นได้ง่าย 

ฐิติพันธ์ เองก็มีความมั่นใจขึ้นมาก เพราะไปเจอสปีดบอลและการเข้าเพรสซิ่งที่เร็วมากๆ ที่ญี่ปุ่น ทำให้เขามีความนิ่งมากขึ้น และเสียบอลน้อยลง การวิ่งตัวเปล่าเวลาไม่มีบอลที่เป็นจุดเด่นก็ทำได้ดียิ่งขึ้น ตรงนี้ต้องชมเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะ ชนาธิป ด้วยที่ช่วยดึงตัวประกบไป 2-3 คน แนวรับ สุพรรณ ก็ทำได้ดี นัสตพล ผมเองก็ชื่นชมเขาตั้งแต่สมัยเล่นอยู่กับ ชลบุรี แล้ว แต่เขายังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ น่าเสียดายตรงนี้แหละ บางครั้งก็โคนขาหนีบ บางครั้งก็หัวไหล่ แต่ในเรื่องการอ่านทางบอล การเข้าสกัดและการบิวดิ้งเกมของเขาถือว่ายอดเยี่ยมอยู่แล้วครับ 

อีกคนที่ต้องชื่นชมก็คือ สารัช เขาเล่นกับเพื่อนๆ ได้อย่างเข้าใจ เพราะมีความมั่นใจซึ่งกันและกัน กล้าที่จะให้บอลทำชิ่งสั้นยาวกัน เป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มกองกลางของทีมชาติไทยได้ลงตัวพอดี 

สำหรับเกมนัดชิง ถ้ามีโอกาสได้เจอ อุรุกวัย ก็ถือเป็นโอกาสดีที่นักเตะไทยจะได้พิสูจน์กับทีมระดับโลก เจอทีมใหญ่แบบนี้ถ้าทำผลงานได้ดี ต้องตกเป็นเป้าสายตาของเอเจนต์หรือทีมใหญ่แน่นอน อย่าง ชนาธิป เองผมเชื่อว่าตอนนี้ทีมใหญ่ๆ ก็จับตามองเขาอยู่แล้วเหมือนกัน 


ก้องภพ สรงกระสินธุ์

เมื่อทีมชนะก็ต้องถือว่าเป็นผลงานที่สอบผ่านครับ สำหรับผมมองว่า 3 ผู้เล่นที่ไปเจลีก คือผู้สร้างความแตกต่างในเกมนี้ เห็นไหมว่าเวลาบอลอยู่ที่ เจ (ชนาธิป), นิว (ฐิติพันธ์) หรือ อุ้ม (ธีราทร) เราเสียบอลน้อยมาก ตัง (สารัช) ก็เข้ามาช่วยโฮลด์บอล เชื่อมเกม เปลี่ยนจังหวะช้าเร็วให้ทีมได้ดี ถ้าจะให้เลือกแมนออฟเดอะแมตช์ ผมก็คงให้รวมๆ ทั้งทีมแหละเพราะช่วยกันทุกคน แต่ถ้าเป็นในเจลีกเขามักจะเลือกให้คนทำประตูนะ เจเองนัดนี้ก็ไม่เสียบอลเลย และเพื่อนร่วมทีมก็รู้ว่าถ้าบอลอยู่ที่เจ จะสามารถขึ้นไปวิ่งหาช่องได้เลย เสียดายที่จังหวะจบสกอร์ยังไม่พอดีกันเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นเกมในช่วงท้ายก็อาจจะกดดันน้อยกว่านี้

สำหรับ นิว ผมเห็นเขามาตั้งแต่ 10 ขวบแล้ว ตอนนี้เขาเก่งขึ้นเยอะ จริงๆ ก่อนไปญี่ปุ่นเขาก็เก่งอยู่แล้ว ผมกับเจ ยังเคยคุยกับนิวว่าอยากให้ไปญี่ปุ่น ในช่วงที่เคยมีข่าวตอนไปเอเชียนคัพ เพราะวันหนึ่งเราก็สามารถกลับมาเล่าให้ลูกหลานฟังได้ว่าเคยไปมาแล้ว การไปเจอมาตรฐานการเล่นของเจลีก สปีดบอลเร็วกว่านี้เยอะ นิวยังเคยเล่าให้ฟังว่าที่นั่นเขาเล่นกันคนละเรื่องกับบ้านเราเลย ทำให้ตอนนี้เขานิ่งขึ้น เพราะต้องคิดก่อนที่บอลจะถึงตัวแล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไป และพอมีพี่ๆ เพื่อนๆ ที่รู้ใจกันลงเล่นพร้อมกันก็ยิ่งง่าย อีกคนนึงที่ผมอยากชมก็คือ ศิวรักษ์ เขานิ่งดีนะ ช่วยเซฟเอาไว้หลายครั้ง ทำให้กองหลังอุ่นใจได้เยอะ 

ส่วนเรื่องที่อาจจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมก็คือการจ่ายบอลของผู้เล่นบางคนที่อาจจะยังช้าอยู่บ้าง แล้วก็การเคลียร์บอลจากแนวรับยังโป้งป้างมากไปในบางจังหวะ ก็คงเป็นเรื่องของเบสิกฟุตบอลที่ต้องสร้างรุ่นใหม่ๆ กันต่อไป 


ไพโรจน์ พ่วงจันทร์

สำหรับ นิว (ฐิติพันธ์) ผมมองว่าเขาหมดนะ ในครึ่งหลังดูจะวิ่งน้อยลงไปหน่อย เพราะเขาเพิ่งผ่านเกมหนักๆ มาด้วย แต่ครึ่งแรกถือว่าดีเลย มีจังหวะโอเวอร์แล็ป พุ่งขึ้นไปสวยๆ หลายครั้ง สิ่งที่ นิว พัฒนาขึ้นหลังจากไปเจลีกก็คือเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทุกคนแหละครับ ทั้ง อุ้ม และ เจ ก็ดูมีความมั่นใจขึ้นมาก เจอคู่ต่อสู้ในระดับนี้ไม่มีอาการตื่นตกใจเวลาถูกเข้ารุมแย่งบอลเลย จะเห็นว่านักเตะไทยที่ไปเล่นเจลีก จะเป็นแบบนี้กันหมด แต่ก่อนเวลา นิว ถูกเข้าเพรสเร็วๆ ก็อาจจะตกใจบ้าง เดี๋ยวนี้แทบไม่เห็นแล้ว 

ผมว่าการที่ จีน เขามีการเปลี่ยนแปลงทีมเยอะมีผลอย่างมาก การเล่นเป็นกลุ่ม หรือทีมเวิร์คต่างๆ ของไทยเราดีกว่าเยอะเลย รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวด้วย ทรงบอลของเราต่อบอลกันได้สวยงามหลายครั้งในการเข้าทำประตู  ของจีนเขาเองก็เน้นการวางบอลแนวลึกกับครอสบอลด้านข้าง 

ถ้าให้เลือกแมนออฟเดอะแมตช์ของไทย จริงๆ ผมก็ว่าเล่นดีกันหลายคนนะ กองหลังอย่าง สุพรรณ ก็ดีมากเลย ประตูก็ดีนะ ศิวรักษ์ ช่วยเซฟได้เยอะ โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่เกือบโดนยิงที่เสาแรกสองครั้งติดๆ ผมขอเลือกให้ ศิวรักษ์ ก็แล้วกัน เพราะเขามีความนิ่งช่วยทำให้เกมรับของไทยเล่นอย่างมีสมาธิและมีความมั่นใจ 

ครึ่งหลังผมว่าเราไปเล่นตั้งรับมากเกินไป มันอันตรายนะ ผมคิดว่าถ้าเราเล่นต่อบอลกัน จีน ก็แย่งเรายาก เพราะแดนกลางเราความสามารถเฉพาะตัวและความแม่นยำในการจ่ายบอลดีกว่าเขา แต่เมื่อจบเกมแล้วทีมชนะก็ถือว่าผ่านไปได้ นัดหน้าถ้าเจอ อุรุกวัย ก็เป็นโอกาสดีเลยครับที่จะได้เจอกับทีมในระดับนี้


สะสม พบประเสริฐ

ต้องชื่นชมวินัยในเกมรับของทีมชาติไทยครับ คงไม่สามารถระบุเป็นตัวบุคคลได้ว่าคนไหนโดดเด่นที่สุด เพราะทั้งผู้รักษาประตู กองหลัง หรือกองกลางก็ช่วยกันเล่นเกมรับได้ดี มีความทุ่มเทอย่างมาก ถ้าจะให้เลือกแมนออฟเดอะแมตช์ผมขอยกให้แนวรับทั้งแผงเลย

จีนชุดนี้เขารวมตัวกันค่อนข้างน้อย และมีนักเตะใหม่ๆ เยอะ จะเห็นเลยว่าเกมของเขาไม่ปะติดปะต่อ ขาดความเข้าใจในการเล่นเป็นทีม เกมรุกก็มีแค่การออกข้างและครอสบอลเข้ากลางเท่านั้น ซึ่งโชคดีว่ากองหน้าเขาก็ทำไม่ได้ด้วย ถ้าอย่าง อู๋ เล่ย หรือกองหน้าตัวเก่ายังอยู่ เราก็อาจจะเห็นเขามีความหลากหลายมากกว่านี้ 

อีกส่วนที่โดดเด่นมากก็คือแดนกลาง ทั้ง ชนาธิป, ฐิติพันธ์, สารัช รวมถึง ธีราทร กับ โด ด้วยที่ขึ้นมาช่วยกันลำเลียงบอลได้ดี จนสร้างโอกาสขึ้นไปทำประตูได้ตั้งหลายครั้ง ซึ่งเราน่าจะได้มากกว่า 1 ประตูด้วยซ้ำ อย่าง ชนาธิป นี่แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะมาตรฐานของเขามันอยู่ในอีกระดับนึงไปแล้ว เวลาเขาได้บอล เพื่อนจะเล่นง่ายทันที เพราะรู้ว่าสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง ชนาธิป ผ่านไปได้แน่นอน ฐิติพันธ์ เองก็มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แต่ก่อนอาจจะเห็นเขาโฉ่งฉ่างอยู่บ้างเวลาเข้าบอล หรืออาจจะอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่กับคู่แข่งหรือผู้ตัดสิน แต่เกมนี้แทบไม่มีเลย ดูเขามีความนิ่งและบอลแรกของเขาดีขึ้นมาก เสียบอลน้อยลง และการเล่นร่วมกับ ชนาธิป, สารัช และ ธีราทร ทำให้เขาสามารถพุ่งขึ้นสอดแทรกไปในกรอบเขตโทษของคู่แข่งได้

การกลับมาของ สารัช ก็ถือว่าช่วยเติมเต็มในตำแหน่งตัวคุมจังหวะเกม สารัชเขามีข้อดีอยู่แล้วในเรื่องการผ่านบอลและการช่วยเกมรับ นัดนี้ก็จะเห็นว่าเขามีจังหวะไปช่วยบล็อกช่วยสกัดในเกมรับอยู่หลายครั้ง และด้วยความทื่เขาเคยร่วมงานกับผู้เล่นชุดนี้มานานตั้งแต่รุ่นของ ซิโก้ มันจึงเกิดความมั่นใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน เห็นก็ส่งบอลให้ และคอยวิ่งหาที่ว่างให้เพื่อนจ่ายบอลได้ง่ายตลอด ถือว่าผู้เล่นชุดนี้เป็นชุดที่ดีเลยสำหรับทีมชาติไทย


ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล

เกมรับก็ถือว่าทำได้ดีกันทุกคนครับ แต่ครึ่งหลังก็อาจจะมีแผ่วไปบ้างในช่วงท้าย เพราะผู้เล่นเซนเตอร์อย่าง นัสตพล กับ อดิศร มีอาการบาดเจ็บ แต่นัสตพล ก็คงไม่ได้เจ็บอะไรมากครับแค่ตะคริวขึ้นเท่านั้น ผมมองว่าทีมเวิร์คของไทยเหนือกว่าจีนเพราะส่วนใหญ่ชุดนี้เคยเล่นด้วยกันมานานแล้ว ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้จึงแทบไม่ต้องมีการปรับตัวเข้าหากันเลย ต่างจากจีนที่เขาเปลี่ยนผู้เล่นไปเยอะมาก เกมของเขาเลยต้องเน้นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นบางคน และพอเจาะไม่ได้ก็ต้องถ่ายออกข้างแล้วครอสบอลอย่างเดียว

3ผู้เล่นที่ไปค้าแข้งเจลีก รวมถึง สารัช ก็ถือว่าเล่นร่วมกันได้ดีครับ หลายๆ คนก็เคยเป็นผู้เล่นของ เมืองทอง เคยเล่นด้วยกันมาดังนั้นความเข้าใจกันจึงมีสูง มีความเชื่อใจไว้ใจที่จะส่งบอลให้่กัน กล้าที่จะเล่นง่ายๆ และ ชนาธิป เองเวลาที่ได้บอลก็สร้างความได้เปรียบให้ทีมได้ตลอด ซึ่งเพื่อนร่วมทีมจะรู้เลยว่าถ้าบอลถึง ชนาธิป ให้รีบวิ่งหาที่ว่างได้เลย ยังเสียดายเลยที่เราไม่ไดู้ลูกที่สอง ทั้งที่มีโอกาสหลายครั้ง จริงๆ อดิศักดิ์ ก็เล่นได้ดีนะครับ เขาสร้างความกังวลให้แผงกองหลังของจีนได้ จังหวะที่ได้ประตูก็เริ่มต้นมาจากเขา แต่จังหวะสุดท้ายที่เขาน่าจะยิงได้สองลูก อาจจะยังขาดๆ เกินๆ ไปนิดนึง ก็ไม่เป็นไรเพราะสุดท้ายทีมยังสามารถชนะได้ 

เกมนี้ถ้าให้ผมเลือกแมนออฟเดอะแมตช์ ผมขอให้ ฐิติพันธ์ แล้วกันนะ เพราะจังหวะที่ได้ประตูเขาก็เป็นคนแอสซิสต์ และน่าจะแอสซิสต์มากกว่า 1 ครั้งด้วยทั้งลูกที่จ่ายให้ อดิศักดิ์ และลูกสูตรฟรีคิกที่จ่ายให้ ชนาธิป หลุดเข้าไป หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น เขาพัฒนาขึ้นมาก ผมมองว่าเขายังพัฒนาได้อีกเยอะ ตอนนี้เขาดูมีความมั่นใจขึ้นมาก ดูจากสีหน้าของแต่ละคนที่อยู่เจลีกก็จะเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยความมั่นใจ และไม่ตื่นเต้นประหม่ากับการลงเล่นในเกมระดับนี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด