:::     :::

ประสบการณ์ล้ำค่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมชาติไทยกับการร่วมแข่งขันใน "ไชน่า คัพ" เป็นครั้งแรกจบลงด้วยผลงานทะลุเป้ากับตำแหน่ง "รองแชมป์"

รอบชิงชนะเลิศ ทัพช้างศึกต้านความแข็งแกร่งของอุรุกวัยไม่ไหว พ่ายไปขาดลอย 0-4 แต่ก็ไม่ใช่ผลการแข่งขันที่เกินความคาดหมายมากนัก

อุรุกวัยเหนือกว่าไทยแทบทุกอย่างทั้งความสามารถเฉพาะตัว วิธีการเล่น ประสิทธิภาพในพื้นที่สุดท้าย ประสบการณ์ในเกมระดับนานาชาติ ฯลฯ 

เทียบง่ายๆ ด้วยอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งก็ต่างกันเกินร้อยอันดับ อุรุกวัย คือทีมอันดับ 7 ของโลกในปัจจุบัน ขณะที่ไทยอยู่ไกลถึงอันดับ 115 

อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ไม่ได้ครองบอลเหนือกว่าแบบคนละชั้น แต่ทำในสิ่งที่สำคัญกว่าคือการสร้างโอกาสทำประตูที่ได้ลุ้นยิงถึง 19 ครั้ง เข้ากรอบ 10 ครั้ง และเป็น 4 ประตู

แนวรุกขาด 2 หัวหอกตัวเก่งอย่าง เอดินสัน คาวานี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ไปก็จริง แต่การเจอกับทีมที่เกรดบอลเป็นรองมากอย่างไทย ก็เลยไม่ได้มีข้อแตกต่างเพราะสามารถบีบเกมรุกเข้าใส่และยิงประตูได้เหมือนเดิม

อุรุกวัยทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามแบบฉบับมืออาชีพ และเล่นอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ได้มองว่าเป็นเกมฆ่าเวลาที่เล่นๆ ไปให้ครบ 90 นาที

ตัวผู้เล่นที่กุนซือจอมเก๋า ออสการ์ ตาบาเรซ ส่งลงสนามก็เกือบฟูลทีม เป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่จัดได้ แกนหลักมาจากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และลา ลีกา สเปน

พวกเขาสมควรเป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์รายการนี้อีกปี ขณะที่ทัพช้างศึกก็ได้เรียนรู้ในหลายสิ่งหลายอย่าง

เราได้เห็นได้สัมผัสแบบถึงเนื้อถึงตัวว่าทีมระดับโลกเล่นกันอย่างไร ทำไมพวกเขาถึงอยู่ในท็อปเทน และเป็นอีกขาประจำของฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

อุรุกวัย ยืนตำแหน่งในการเล่นได้ดีมาก เหมือนอยู่กันเต็มสนามมากกว่าเรา ไม่ได้ปล่อยให้พื้นที่ใดว่างเป็นพิเศษ 


เมื่อยืนตำแหน่ง รักษาพื้นที่กันได้ดี เพียงขยับนิดเดียวก็สามารถบีบตัดบอลจากไทยเราได้ ในจังหวะที่ต้องเพรสซิ่งเพื่อแย่งบอลคืนก็ไม่ต้องออกแรงเหนื่อยมาก

ตรงนี้คือสิ่งที่นักเตะไทยสามารถเรียนรู้ได้เพราะเป็นแท็กติกในการเล่นอย่างหนึ่ง เมื่อเสียบอลแล้วต้องวิ่งตามอย่างไร ใครต้องเข้าตัดหรือประกบก่อน แล้วใครที่ต้องคอยซ้อน ทุกอย่างเป็นไปอย่างอัตโนมัติ 

สรีระของนักเตะอุรุกวัยใหญ่กว่าไทยเราอยู่แล้ว พอยืนตำแหน่งได้ดียิ่งทำให้ไม่มีช่องว่างให้ไทยเจาะมากนัก

ที่สำคัญ อุรุกวัย ไม่ได้ประมาทเราด้วยทั้งที่เกรดบอลดีกว่าแบบคนละชั้น

พวกเขารู้ว่า "เจ-ชนาธิป" เป็นนักเตะที่อันตรายมากของทีพชาติไทย ทุกครั้งที่เจได้บอลจึงมีตัวคอยประกบและตัดฟาวล์บ่อยครั้ง

ในครึ่งแรก อุรุกวัยสามารถบีบพื้นที่การเล่นจนทำให้เจ้าเจต้องถอยลงต่ำเหมือนเป็นกองกลางอีกคนทั้งที่การยืนตำแหน่งตอนแรกที่เซตกันไว้คือ แทบจะยืนเป็นคู่กองหน้าร่วมกับ กอล์ฟ-อดิศักดิ์

แต่กระนั้นทีมชาติไทยก็ถือทำได้ดีมากๆ ในนัดนี้ 

เรากล้าต่อบอล กล้าครองบอลเล่น มีไอเดียในเกมรุก จังหวะสาดบอลโด่งแบบมั่วซั่วมีให้เห็นไม่กี่ครั้ง 

ไทยเล่นอย่างที่ควรต้องเล่นคือการต่อบอลบนพื้นเพราะไม่มีทางไปเล่นลูกโด่งแข่งกับอุรุกวัยได้แน่นอน หรือการใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงตะลุยไปเองยิ่งไม่มีทาง

เราเล่นกันเป็นระบบได้ดี เล่นได้เต็มศักยภาพเท่าที่ความสามารถเราจะทำได้ แต่คู่แข่งที่เจอคือทีมระดับโลก ความต่างจึงปรากฎให้เห็นในพื้นที่สุดท้ายที่อุรุกวัยทำได้แม่นยำกว่ามาก

2 ใน 4 ประตูของอุรุกวัยที่ทำได้มากจากการลูกโด่งเปิดจากด้านข้างเข้ามาและขึ้นโหม่งทำประตู รูปแบบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อน แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

ไทยรับมือลูกแบบนี้ได้ยากเพราะตัวเราเล็กกว่า มันเป็นปัญหาที่เราต้องเจออยู่ตลอดเวลาเล่นกับทีมหัวแถวเอเชีย รวมไปถึงทีมจากยุโรปและอเมริกาใต้ 

อุรุกวัยทำเหมือนง่ายดาย แต่นั่นเพราะเป็นการเล่นตามธรรมชาติของพวกเขา ตัวใหญ่กว่าสูงกว่าก็ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ครั้งแรกไมได้ เดี๋ยวก็มีครั้งที่ 2 และ 3 ตามมา

เราเองก็พยายามเอาบอลลงพื้นเล่นตามช่อง แต่อย่างที่บอกไป อุรุกวัยบีบพื้นที่ได้ดี และอ่านการเล่นของไทยได้จึงคิดล่วงหน้าเราไปอีกสเต็ป ทุกอย่างจึงอยู่ในการคอนโทรล

โค้ชโต่ย ก็รู้ว่าอุรุกวัยสามารถโจมตีเราแบบนี้ได้และพยายามปิดตัวรุกเส้นสองฝั่ง แต่ทีมดังอเมริกาใต้ก็ยังมีแบ็กสองข้างที่เติมได้ตลอด จึงสามารถเปิดบอลเข้ากดดันได้เช่นเคย 


ในเกมรุกของไทย เจ เอาตัวรอดได้ดีในหลายครั้งและสามารถเลี้ยงบอลอยู่หน้าไลน์เขตโทษอุรุกวัยได้ เพียงแต่องค์ประกอบรอบข้างยังเอาชนะตัวประบหรือวิ่งหาพื้นที่ไม่ได้ โอกาสทำประตูของเราจึงไม่ได้มากนัก

สุดท้ายพออุรุกวัยได้ประตูที่ 3 โค้ชโต่ยจึงทะยอยเปลี่ยนสำรองหลายคนลงเล่น ให้โอกาสกันอย่างเต็มที่

ตรงนี้ถือว่าสำคัญเพราะโอกาสได้เจอทีมระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ดังนั้นควรให้นักเตะในทีมได้ประสบการณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเป็นทั้งการเรียนรู้ที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจ 

เป็น 90 นาทีที่นักเตะไทยได้อะไรเยอะมากและน่าจะเกิดแรงกระตุ้นเพื่อนำมาใช้กับชีวิตนักฟุตบอลของตัวเองได้อีกไม่น้อย 

ฟุตบอลมีแพ้มีชนะ การแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จักเรียนรู้และนำมาแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

และการเรียนรู้ที่ดีก็คือจากประสบการณ์ตรงแบบนี้แหละ



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด