บาร์เซโลน่า จ่ายเงินไปแล้ว 75 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 11 ล้านยูโรเซ็นสัญญาล่วงหน้าดึง เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่หลังจบซีซั่นนี้ 

แต่ทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่ายังต้องใช้งบประมาณอีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านยูโรเพื่อดึงนักเตะเป้าหมายเข้าสู่ถิ่น'คัมป์ นู'ช่วงซัมเมอร์

นั่นคือ มัทไธค์ เดอ ลิกต์ เซนเตอร์ทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม กับ ลูก้า โยวิช กองหน้าทีมชาติเซอร์เบียของ แฟร้งค์เฟิร์ต รายแรกมีสนนราคาไม่ต่ำกว่า 60 ล้านยูโร ส่วนรายหลังมีราคาเริ่มต้นที่ 40 ล้านยูโร แต่คาดว่าตัวเลขจะสูงกว่าที่ประเมินไว้แน่นอน 

เดอ ลิกต์ ตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสรทั้ง ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, บาเยิร์น มิวนิค, แมนฯยูไนเต็ด, แมนฯซิตี้, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ดังนั้นการดึงเซนเตอร์วัย 19 ปีมา'คัมป์ นู'คงไม่ง่ายแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจากับ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ที่ขึ้นชื่อว่าเขี้ยวลากดินคนหนึ่งของวงการลูกหนัง 

โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าพร้อมด้วย อัลเบิร์ต โซเลร์ กำลังอยู่ที่กรุงอัมส์เตอร์ดัมเพื่อประชุม ECA หรือ สมาคมสโมสรยุโรป ในระหว่างนั้นประธานบาร์ซ่ามีโอกาสพบผู้บริหารระดับสูงของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม และคาดว่าจะมีการพูดคุยกันเบื้องต้นเกี่ยวกับอนาคตของ เดอ ลิกต์ 

บาร์เซโลน่า พร้อมส่ง ฌอง แกลร์ก โตดีโบ้ กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสวัย 19 ปีเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอซื้อตัว เดอ ลิกต์ มาร่วมทีมด้วยการปล่อยอดีตกองหลังตูลูสย้ายมาเล่นกับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ซึ่ง บาร์โตเมว เอ่ยปากถึงเรื่องนี้กับ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ผู้อำนวยการสโมสรดังของเมืองกังหันลม 

ขณะเดียวกัน เดอ ลิกต์ ยังไม่ปิดบังความต้องการว่าเขาปรารถนาที่จะย้ายมาสวมเสื้อทีมเดียวกับเพื่อนสนิทอย่าง เดอ ย็อง ที่เซ็นล่วงหน้ากับทัพอาซูลกราน่า เพียงแต่ บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องเสนอตัวเลขที่สร้างความพึงพอใจให้อาแจ็กซ์ด้วยเช่นกัน 

หากถามว่า บาร์เซโลน่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเซ็นสัญญากับ เดอ ลิกต์ หรือไม่ ถ้าพิจารณาจากขุมกำลังชุดปัจจุบันของทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่า ตอบได้ทันทีว่า'ไม่'

บาร์เซโลน่า มีผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ในทีมชุดปัจจุบัน 4 คนคือ เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมตีตี้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ กับ โธมัส แฟร์มาเล่น ยังไม่นับรวม โตดีโบ้ ที่ยังไม่พร้อมใช้งาน ส่วน เฮยซอน มูรีโย่ น่าจะถูกส่งกลับบาเลนเซียหลังหมดสัญญายืมตัว

ทั้ง อุมตีตี้, ล็องเล่ต์ กับ แฟร์มาเล่น ต่างเป็นเซนเตอร์ที่ถนัดเท้าซ้าย อีกทั้งกองหลังชาวเบลเจี้ยนน่าจะถูกปล่อยตัวออกจากถิ่น'คัมป์ นู'หลังจบซีซั่นนี้ด้วย นั่นหมายความว่า บาร์เซโลน่า จะมีเซนเตอร์ถนัดซ้ายพร้อมใช้งานสองคือซึ่งเพียงพอกับความต้องการ 

ขณะที่ ปีเก้ เป็นเซนเตอร์ถนัดเท้าขวาคนเดียวที่บาร์ซ่ามีอยู่ในทีม อีกทั้งนักเตะเพิ่งอายุ 32 ปียังมีสัญญาจนถึงปี 2022 เขายังมีอายุการใช้งานอีก 3 ปีเป็นอย่างน้อย แม้ทีมยักษ์กาตาลุนย่าจะมองว่า เดอ ลิกต์ จะเป็นตัวแทนในระยะยาวของ ปีเก้ ก็ตาม แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบเร่งเซ็นสัญญาถ้าหากนักเตะไม่อยู่ในตลาด 

ถ้าทีมอาซูลกราน่าจะไม่ร่วมวงแย่ง เดอ ลิกต์ มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ พวกเขาอาจสูญเสียกองหลังวัย 19 ปีให้กับสโมสรอื่นและคงไม่ใช่เรื่องง่ายในการมองหาเซนเตอร์ดาวรุ่งอนาคตไกลรายอื่น ดังนั้นถึงไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนแต่ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ 

กรณีของ ลูก้า โยวิช ก็ไม่ต่างจาก เดอ ลิกต์ หลังแนวรุกชาวเซิร์บทำผลงานโดดเด่นร่วมกับ แฟร้งค์เฟิร์ต ซึ่งแน่นอนว่าทีมอินทรีแดง-ดำเตรียมเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะตามอ็อปชั่นที่ยืมตัวมาจาก เบนฟิก้า ก่อนจะปล่อยตัวออกจากทีมแลกกับข้อเสนอดีที่สุด 

บาร์เซโลน่า เล็ง โยวิช เป็นหนึ่งในตัวแทนระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ แต่สถานการณ์เทียบเคียงได้กับกรณีระหว่าง เดอ ลิกต์ กับ ปีเก้ 

หลุยส์ ซัวเรซ อายุ 32 ปี มีสัญญาจนถึงปี 2021 แน่นอนว่ากองหน้าทีมชาติอุรุกวัยจะค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าไปอีก 2 ซีซั่น ดังนั้น บาร์เซโลน่า จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเซ็นสัญญากับ โยวิช ถ้าหากนักเตะไม่อยู่ในตลาดหรือทีมอินทรีแดง-ดำพร้อมขาย 

โยวิช เป็นแนวรุกเนื้อหอมไม่ต่างจาก เดอ ลิกต์ หลังกองหน้าชาวเซิร์บตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสรทั้ง บาเยิร์น มิวนิค, แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด หรือ แมนฯยูไนเต็ด 

ดังนั้นสถานการณ์จึงบังคับให้ทัพอาซูลกราน่าต้องลงทุนแย่ง โยวิช ที่พวกเขามองว่าพร้อมจะเข้ามาเป็นตัวแทนระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ 

บาร์เซโลน่า ส่งสองผู้บริหารทั้ง เอริก อบิดาล กับ ราม่อน ปลาเนส เดินทางเกาะขอบสนามดูฟอร์มของ โยวิช ในเกมระหว่าง โปรตุเกส กับ เซอร์เบีย ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลัง อบิดาล, ราม่อน ปลาเนส และ เป๊ป เซกูร่า เคยเดินทางไปดูนักเตะในเกมยูโรปาลีกระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ แฟร้งค์เฟิร์ต ก่อนหน้านี้ 

มันเป็นครั้งที่ 16 ที่ทีมอาซูลกราน่าส่งทีมงานติดตามดูฟอร์มของ โยวิช ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมเลือดหมู-น้ำเงินพร้อมจริงจังกับแนวรุกวัย 21 ปี โดยคาดหวังว่าจะดึงเข้ามาเป็นตัวแทนระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ ทว่าการเดินทางมาดูฟอร์มนักเตะครั้งนี้ไร้ประโยชน์หลังจาก โยวิช เป็นเพียงตัวสำรองและไม่มีส่วนร่วมกับเกมแม้แต่นาทีเดียว 

การร่วมวงล่าตัว เดอ ลิกต์ กับ โยวิช ทำให้บาร์ซ่าต้องเตรียมงบประมาณไว้เพื่อการนี้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านยูโร ถ้าหากนับรวมค่าตัว เดอ ย็อง ที่สโมสรจ่ายให้ อาแจ็กซ์ ก่อนหน้านี้ก็เท่ากับว่าทีมยักษ์กาตาลุนย่าจะต้องใช้งบเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้เฉียด 200 ล้านยูโร 

บาร์เซโลน่า ตั้งงบเสริมทัพคร่าวๆไว้ประมาณปีละ 100 ล้านยูโร แต่ถ้าทีมอาซูลกราน่าจะเดินหน้าเซ็นทั้ง เดอ ลิกต์ กับ โยวิช ก็จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัว 

ถ้าถามว่า บาร์เซโลน่า จะเอาเงินมาจากไหนหลังเคยทุ่มงบจำนวนมหาศาลในการเซ็นสัญญากับ อุสมาน เดมเบเล่ หรือ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ ที่มีค่าตัวเกิน 100 ล้านยูโรในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้  

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎ'ไฟแนลเชียล แฟร์ เพลย์' บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องปล่อยนักเตะในสังกัดออกจากทีมเพื่อระดมทุนซื้อนักเตะใหม่และบรรดาแข้งทำเงินของสโมสรคงหนีไม่พ้นนักเตะที่ถูกปล่อยให้สโมสรอื่นยืมตัวไปใช้งานในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะ อันเดร โกเมส  กับ เดนิส ซูอาเรซ ที่ย้ายมาเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน กับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัว

ซึ่งอาจรวมถึงผู้เล่นชุดปัจจุบันที่ไม่ค่อยถูกใช้งานอย่าง มัลคอม ซิลวา, ราฟาเอล อัลกันตาร่า ราฟินญ่า กับ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น 

ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งที่ว่ากันว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนกว่าการเติมเซนเตอร์หรือกองหน้าด้วยซ้ำ นั่นคือแบ็กซ้ายที่มี จอร์ดี้ อัลบา เพียงคนเดียว 

แม้จะมีข่าวสนใจแบ็กซ้ายชั้นดีหลายคนโดยเฉพาะ นิโกลัส ตาญาฟีโก้ กองหลังทีมชาติอาร์เจนตินาของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม แต่ บาร์ซ่า ยังมีเลือกทางกับตำแหน่งดังกล่าวโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเรื่องค่าตัวโดยเฉพาะกับ ฟีลีเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ กับ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ที่กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัด 

ฟีลีเป้ ลุยส์ กำลังจะเป็นอิสระจาก แอตเลติโก มาดริด หลังจบซีซั่นนี้และแบ็กซ้ายชาวบราซิเลียนวัย 33 ปีน่าจะเข้ามาเป็นแบ็คอัพชั้นดีของ อัลบา ส่วน โมเรโน่ อาจล้มเหลวกับ ลิเวอร์พูล แต่แบ็กวัย 26 ปีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เป็นไปได้สำหรับทีมอาซูลกราน่า 

นั่นคือโปรเจ็กของ บาร์เซโลน่า ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ เพียงแต่ทีมยักษ์กาตาลุนย่าจะฝ่าฟันอุปสรรคจนทำสำเร็จตามแผนหรือไม่เท่านั้น